นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๒ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ๔ เรื่อง คือ การปรับปรุงระบบการบริหารจัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), การขยายโครงการนมโรงเรียน, การดำเนินงานตามโครงการต่างๆ ของ ศอ.บต. และแต่งตั้งนายศุภชัย บัญชาศึก เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์)
เห็นชอบการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

ครม.ยังเห็นชอบมาตรการจูงใจให้นักศึกษากู้ยืมในสายอาชีพมากขึ้น จากเดิมสัดส่วนระหว่างสายสามัญและสายอาชีพอยู่ที่ ๖๐ : ๔๐ โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะหามาตรการจูงใจเพิ่มสัดส่วนเป็น ๕๐ : ๕๐ พร้อมทั้งส่งเสริมให้นักศึกษากู้เงินยืมเรียนได้อีก ๔๐๐ สาขาวิชาที่ขาดแคลนและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
ส่วนด้านหลักเกณฑ์ของการกู้ยืมยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิมสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๑ คือ เป็นผู้ที่มีรายได้น้อยและยากจน ผู้ปกครองมีรายได้น้อยต่ำกว่าเกณฑ์ โดย ศธ.จะเร่งดำเนินการการกู้เงินให้เร็วขึ้น คือ หากผู้กู้มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ก็จะอนุมัติได้ภายในเวลา ๓ เดือน รวมทั้งค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพด้วย
ในกรณีที่จำนวนผู้กู้มีไม่ถึงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ จะขยายวงเงินให้กับผู้กู้รายอื่นๆ เพิ่ม โดย กยศ.จะร่วมมือกับ ศธ.และสถานประกอบการต่างๆ เพื่อหาตำแหน่งงาน และจัดทำโครงการรณรงค์ให้รุ่นพี่ใช้หนี้คืน เพื่อให้รุ่นน้องได้มีโอกาสเรียนด้วย
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ได้เน้นย้ำว่านโยบายนี้ถือเป็นการสนองต่อนโยบายรัฐบาลในเรื่องการเปิดโอกาสให้เด็กได้เข้าถึงการศึกษา จากนี้ไปจะเป็นขั้นตอนของการปฏิบัติ ซึ่ง กยศ.จะต้องปรับเปลี่ยนระเบียบต่างๆ ให้เสร็จสิ้นภายใน ๑๕ วัน เนื่องจากใกล้จะถึงปีการศึกษา ๒๕๕๒ แล้ว ส่วนจะต้องแก้กฎหมายหรือไม่นั้นเป็นรายละเอียดที่ กยศ.ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมติ ครม.ต่อไป
น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มว่าวงเงิน ๓๖,๐๐๐ ล้านบาทนี้ จะเพียงพอสำหรับปล่อยกู้ต่อเนื่องให้ลูกหนี้เก่า ๖๒๘,๕๒๐ ราย และผู้กู้รายใหม่ ๓๕๓,๐๐๐ ราย รวมทั้งหมด ๙๘๑,๕๒๐ ราย โดยจำแนกดังนี้
ระดับ | รายเก่า | ชั้นปีที่ ๑ | รวม | ||
รายเก่า | รายใหม่ | ||||
ม.ปลาย | ๘๐,๗๐๘ | – | ๘๐,๐๐๐ | ๒๖,๐๐๐ | ๑๘๖,๗๐๘ |
ปวช. | ๗๐,๙๙๒ | – | ๖๕,๐๐๐ | ๔๖,๐๐๐ | ๑๘๑,๙๙๒ |
ปวท./ปวส. | ๕๔,๘๒๓ | ๒๙,๐๐๐ | ๔๐,๐๐๐ | ๑๓,๐๐๐ | ๑๓๖,๘๒๓ |
อนุปริญญา/ปริญญาตรี | ๓๑๗,๙๙๗ | ๗๕,๐๐๐ | ๕๐,๐๐๐ | ๓๓,๐๐๐ | ๔๗๕,๙๙๗ |
รวม | ๕๒๔,๕๒๐ | ๑๐๔,๐๐๐ | ๒๓๕,๐๐๐ | ๑๑๘,๐๐๐ | ๙๘๑,๕๒๐ |
ทั้งนี้ จะเสนอให้ปล่อยกู้โดยพิจารณาเด็กที่เลือกเรียนในสาขาวิชาที่ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานก่อน โดยในสายอาชีวศึกษามี ๑๐๐ หลักสูตร และอุดมศึกษา ๔๐๐ หลักสูตร ซึ่งจะเน้นปล่อยกู้ในสายอาชีพมากขึ้น เพื่อให้อยู่ที่สัดส่วนสายอาชีพต่อสายสามัญเป็น ๕๐ : ๕๐
สำหรับงบประมาณที่จะนำมาปล่อยกู้นั้น ครม.ได้เห็นชอบให้ กยศ.นำเงินที่ผู้กู้ชำระคืนเงินกู้มาสมทบจำนวน ๑๑,๐๐๐ ล้านบาท สมทบกับงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้ พร้อมทั้งให้ กยศ. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกองทุน โดยให้ดำเนินการปล่อยกู้แบบ First come first serve ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอปล่อยกู้พร้อมกันเป็นกลุ่ม
นอกจากนี้ รมว.ศธ.ยังได้เสนอในที่ประชุม ครม. ให้ กยศ.จัดสรรเงินค่าครองชีพให้ถึงมือผู้กู้ภายในวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๒ และให้โอนค่าเทอมไปถึงสถานศึกษาภายในวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๒ เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความล่าช้าในการจัดสรรเงินเช่นในอดีตอีกต่อไป
ส่วนการขยายเวลาการขำระคืนหนี้จาก ๑๕ ปีเป็น ๒๐ ปีนั้น ให้ ศธ.ร่วมมือกับ กยศ.จัดให้มีการพัฒนาทักษะและส่งเสริมอาชีพสำหรับลูกหนี้ที่เรียนจบแล้วแต่ยังไม่มีงานทำ พร้อมร่วมกันการรณรงค์สร้างจิตสำนึกและความรับผิดชอบในการขำระหนี้คืนแก่เด็กอีกทั้ง ยังขอให้ กยศ.เพิ่มช่องทางจัดสรรเงินสู่เด็กผ่านธนาคารอิสลามกลางด้วย จากเดิมที่จะจัดสรรเงินผ่านธนาคารกรุงไทยเท่านั้น เพื่อความสะดวกแก่ลูกหนี้ที่เป็นนักศึกษามุสลิม
เห็นชอบการขยายโครงการนมโรงเรียน

ทั้งนี้ จะจัดสรรงบประมาณผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เช่นเดิม และเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ ๒๕๕๓ ซึ่งจะทำให้เด็กอนุบาล – ป.๖ ทุกคน ได้ดื่มนมโรงเรียนในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๒
การดำเนินงานตามโครงการต่างๆ ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)

๑) กิจกรรมห้องเรียนนักเรียน ศอ.บต.
๒) กิจกรรมครอบครัวอุปถัมภ์เพื่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้
๓) โครงการเรียนดีมีสุขกับโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ยะลา
๔) กิจกรรมให้ความร่วมมือทางการศึกษาแก่เยาวชนในเขตพัฒนาเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้
๕) โครงการพัฒนาผู้สอนอิสลามศึกษา (อุสตาซ) ที่จบปริญญาตรีศึกษาต่อหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตศึกษา (ป.บัณฑิต) สาขาวิชาชีพครู
๖) โครงการสนับสนุนผู้จบการศึกษาระดับอาชีวะศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่น
๗) กิจกรรมจัดสรรทุนการศึกษาและสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา
๘) โครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีฮัจย์
๙) โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล
สำหรับการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้ ศอ.บต. ประสาน ศธ.เพื่อจัดสรรทุนการศึกษาประเภทเดียวกันให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และการเบิกจ่ายเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ สำหรับงบประมาณที่จะต้องใช้จ่ายในแต่ละปีซึ่งยังไม่มีความชัดเจนในแต่ละรายการ เห็นควรดำเนินการตามความต้องการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและความเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
ครม.อนุมัติตามที่ ศธ.เสนอแต่งตั้ง นายศุภชัย บัญชาศึก เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๒ เป็นต้นไป
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
นงศิลินี โมสิกะ
สรุป/รายงาน


