นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการ รมว.ศธ. และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน โครงการอาชีวะ อยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่วิทยาลัยการอาชีพปากท่อ จังหวัดราชบุรี
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ เป็นโครงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญตามนโยบายเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้เกิดปัญหาเด็กตกหล่น ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเรียนและการเดินทางมาเรียน รัฐบาลจึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ดำเนินโครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ เพื่อช่วยเหลือเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษามาเรียนฟรี 3 ปี และมีที่พักอาศัย
“จากการตรวจเยี่ยมพบว่า วิทยาลัยการอาชีพปากท่อ สามารถเพิ่มจำนวนผู้เรียนจาก ปีการศึกษา 2562 ที่มีเพียง 60 คน เป็น 631 คน ในปีการศึกษา 2564 ซึ่งเน้นการแนะแนวในโรงเรียนชายขอบของ อ.สวนผึ้ง อ.บ้านคา อ.โป่งกระทิง และ อ.เบิกไพร ที่มีระยะทางห่างจากวิทยาลัยประมาณ 50-60 กิโลเมตร ทั้งนี้ วิทยาลัยจัดสวัสดิการให้แก่นักเรียน อาทิ รถรับ-ส่ง ฟรี หอพักแยกชายและหญิง ตามมาตรฐานของ สอศ. ฟรีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอม นอกจากนี้ยังมีงบฯ เรียนฟรี 15 ปี นำมาจัดสรรเป็นชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน หนังสือเรียน ฟรี และมีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพื่อช่วยเหลือให้นักเรียน ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมถึงประสานงานเชื่อมโยงกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการส่งต่อเด็กด้วย
ขอแสดงความชื่นชมผู้บริหาร ที่สามารถคิดนอกกรอบ และปรับงบประมาณที่มีอยู่มาใช้ดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นต้นแบบที่ดี อย่างไรก็ตาม จะนำข้อดี รวมถึงปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ไปปรับปรุงการดำเนินโครงการต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการของโครงการ ซึ่ง สอศ.จะจัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอขอความเห็นชอบการใช้งบประมาณดำเนินโครงการต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินโครงการ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ซึ่ง สอศ.ได้คัดเลือกสถานศึกษาที่มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการ จำนวน 87 แห่งทุกภูมิภาค รับนักเรียนได้จำนวน 5,200 คน ส่วนระยะที่ 2 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2566 เพิ่มสถานศึกษาที่มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการอีก 169 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน กว่า 116,000 คน” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว