เมื่อวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ Thailand Partnership Initiative Phrase 2 (โครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ระยะที่ 2) ระหว่างบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กับศูนย์ระดับภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษา ขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO STEM-ED) โดยมี นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด, ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ SEAMEO STEM-ED ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท กรุงเทพฯ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการรวมพลังของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการขับเคลื่อนการเรียนการสอน “สะเต็มศึกษา” (STEM Education) ในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) เพื่อยกระดับความร่วมมือ พร้อมวางรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งการให้ความรู้และสร้างการแข่งขันเพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย
ขอขอบคุณบริษัทเชฟรอนฯ ที่ให้ความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการอย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการถ่ายทอดองค์ความรู้และการพัฒนาบุคลากร ซึ่งการดำเนินงานต่อจากนี้ มุ่งหวังที่จะขยายผลความร่วมมือไปยังสถานศึกษาอื่น ๆ ให้กว้างขวางมากขึ้น รวมถึงขยายผลไปยังสถาบันการอาชีวศึกษาและสถาบันอุดมศึกษา โดยกระทรวงศึกษาธิการพร้อมให้ความร่วมมือ และสนับสนุนแนวทางต่าง ๆ ของโครงการฯ ซึ่งมีผลการดำเนินงานเป็นที่ประจักษ์มาตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ในการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ให้ครู และส่งเสริมให้นักเรียนได้รับความรู้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการกับบริษัทเชฟรอนฯ ถือเป็นตัวอย่างรูปแบบความร่วมมือ ที่สามารถนำไปผลักดันความร่วมมือกับภาคเอกชนอื่น ๆ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมด้วย
สำหรับโครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของประเทศไทย พร้อมเสริมสร้างศักยภาพในระบบการศึกษา สร้างนวัตกรรมการพัฒนางานวิชาการของสถานศึกษา รวมถึงพัฒนาโครงการ Career Academies เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างโอกาสให้เยาวชนเข้าสู่เส้นทางอาชีพด้านสะเต็มศึกษา ตลอดจนส่งเสริมนโยบายและแนวปฏิบัติที่สนับสนุนงานด้านการวิจัย โดยมีระยะเวลาการดำเนินโครงการ 7 ปี ภายใต้งบประมาณกว่า 1,160 ล้านบาท เริ่มดำเนินการเมื่อปี 2558 ปัจจุบันมีผลการดำเนินโครงการฯ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนักเรียน ครู และผู้บริหารสถานศึกษา จำนวนกว่า 3 ล้านคน
อรพรรณ ฤทธิ์มั่น: สรุป
นวรัตน์ รามสูต: เรียบเรียง
อิทธิพล รุ่งก่อน, ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.: รายงาน
28/8/2563