รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวดุริยา อมตวิวัฒน์)
ได้รายงานความคืบหน้าของไทยในด้านการศึกษา
ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ เป้าหมายที่ 4 ด้านการศึกษา
ในการประชุมเวทีระดับสูงทางการเมืองว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ภายใต้คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ ประจำปี 2562 (High-Level
Political Forum on Sustainable Development – HLPF 2019) ณ
สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562
โดยได้กล่าวถึง การจัดการศึกษาของไทยว่าสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
เน้นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
และจัดการศึกษาให้กับประชาชนทุกคน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย
ซึ่งจะครอบคลุมถึงเด็กที่ไม่มีทะเบียนราษฎร์ เด็กไร้สัญชาติ
และลูกหลานแรงงานต่างด้าว ซึ่งพ่อแม่เดินทางมาทำงาน
ดังนั้นรัฐบาลจึงได้จัดสรรงบประมาณให้กับการจัดการศึกษามากที่สุด
ซึ่งถือเป็นการจัดการศึกษาแบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ปัจจุบันการเข้าเรียนในระดับปฐมวัยที่มีอายุระหว่าง 3 – 5 ปี
จะอยู่ในอัตราที่สูงขึ้น โดยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 92.6 อย่างไรก็ตาม
ประเทศไทยยังมีเด็กวัยเรียนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้อยู่บ้าง
ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงได้จัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มเด็กที่มาจากครอบครัวที่ยากจนได้เข้าถึงการศึกษามากขึ้น
และได้จัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชนมากกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ
เพื่อให้โอกาสกับผู้สูงอายุได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาเพื่อการมีงานทำ
สำหรับด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา ได้ปรับหลักสูตรที่เน้นการปฏิบัติมากขึ้น
โดยพัฒนาความร่วมมือร่วมกับภาคเอกชนในการจัดทำหลักสูตรที่เน้นการปฏิบัติ
เพื่อเป็นการเชื่อมโยงการศึกษาเข้ากับการประกอบอาชีพอย่างแท้จริง ทั้งนี้
กระทรวงศึกษาธิการได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาใน
6 ภูมิภาค รวม 18 แห่ง
เพื่อทำการศึกษาวิจัยความต้องการแรงงานของภาคธุรกิจและนำมาใช้ประกอบการผลิตกำลังคนให้มีความสอดคล้องกัน
สำหรับการลดความเหลื่อมล้ำ
ประเทศไทยมุ่งการสำรวจหาเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคันเพื่อนำกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา
โดยจะใช้ระบบข้อมูลกลางที่กำลังดำเนินการร่วมกับหน่วยงานการศึกษาอื่นๆ
เพื่อเป็นการเชื่อมโยงและส่งต่อเด็กกลุ่มดังกล่าว นอกจากนี้
กระทรวงศึกษาธิการและกองทุนความเสมอภาคทางการศึกษายังได้แบ่งกลุ่มนักเรียน
กลุ่มยากจนและกลุ่มยากจนพิเศษ โดยกลุ่มยากจนพิเศษจำนวน 600,000 คน
จะได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนค่าครองชีพและสถานศึกษาของนักเรียน
เพื่อลดการลาออกกลางคัน
รวมถึงการสนับสนุนทุนการศึกษาเด็กยากจนในพื้นที่ห่างไกล
ที่ประสงค์จะกลับไปเป็นครูในท้องถิ่นของตน ทั้งนี้
เพื่อสร้างโอกาสและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู
อนึ่ง
การประชุมเวทีระดับสูงทางการเมืองว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ
ประจำปี 2562 (High-Level Political Forum on Sustainable Development –
HLPF 2019) จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 9 – 19 กรกฎาคม 2562
ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก โดยมีหัวข้อหลัก คือ “Empowering
people and ensuring inclusiveness and equality”
มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนความคืบหน้าเชิงลึกการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนรายเป้าหมาย
โดยเป็นการประชุมประจำปีที่จัดขึ้นเพื่อติดตามและทบทวนผลการอนุวัติวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน
ค.ศ. 2030 ซึ่งในปีนี้จะทบทวนเชิงลึกเป้าหมายที่ 4 (การศึกษา) 8
(การจ้างงานที่มีคุณค่า การพัฒนาทางเศรษฐกิจ) 10 (การลดความไม่เท่าเทียม)
13. (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) 16 (สังคมสงบสุข
เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม) และ 17 (หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน)
***************************************************
สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
11 กรกฎาคม 2562