ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) หรือ “กระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) : Forward Section, Ministry of Education” สรุปผลงานรอบ 6 เดือน และเตรียมการขับเคลื่อนการศึกษาตาม (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21
เมื่อ
(พ.ศ.2560-2579)
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา และความมั่นคง มีอัตลักษณ์ทางด้านภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมแตกต่างจากภูมิภาคอื่นของประเทศ ดังนั้นการจัดการศึกษาจึงต้องคำนึงถึงความลงตัวและสอดคล้องกับอัตลักษณ์ดังกล่าว เพื่อสนองตอบต่อความต้องการตามวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่และบริบทของการพัฒนาประเทศ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้พื้นที่ 44 อำเภอ ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และสงขลา (4 อำเภอ คือ เทพา จะนะ นาทวี และสะบ้าย้อย) เป็นการจัดการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) หรือกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานเชื่อมโยงและบูรณาการงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชนและประชาชน ซึ่งสถาบันและสถานศึกษาในพื้นที่มีจำนวนทั้งสิ้น 5,747 แห่ง ผู้เรียน 946,746 คน และครูผู้สอน 75,744 คน
การแถลงผลงานและความก้าวหน้าในครั้งนี้ แยกเป็น 2 ส่วนที่สำคัญ คือ
รอบ 6 เดือน
นายบุญรักษ์ ยอดเพชร ผอ.ศปบ.จชต. กล่าวว่า ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) หรือกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) เดิมตั้งอยู่ที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 8 อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ปัจจุบันได้ย้ายสำนักงานมาจัดตั้งที่ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย จ.ปัตตานี โดยมีภารกิจเพื่อยกระดับการบริหารงานให้มีเอกภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า)
จุดเน้นที่ 1 การเสริมสร้างความปลอดภัยครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และสถานศึกษา
จุดเน้นที่ 2 การพัฒนาคุณภาพการศึกษา
จุดเน้นที่ 3 การเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา
จุดเน้นที่ 4 การผลิตคนและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่และการมีงานทำ
จุดเน้นที่ 5 การศึกษาเพื่อความมั่นคง
จุดเน้นที่ 6 การสร้างความรับรู้ความเข้าใจ
จุดเน้นที่ 7 การบริหารจัดการ
จุดเน้นที่ 1
เสริมสร้างความเข้มแข็งของบุคลากร โดยจัดจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาและศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพอำเภอ สพฐ.จำนวน 1,085 คน 1,303 โรง สอศ. สถานศึกษาจำนวน 18 แห่ง ศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพอำเภอ 22 แห่ง จำนวน 125 คน และมีการแต่งตั้งผู้ประสานงานระดับอำเภอและจังหวัด จำนวน 44 อำเภอ 44 คน
พัฒนา ครุภัณฑ์ อาคาร สถานที่ให้มีความปลอดภัย โดยซ่อมแซมเสาสัญญาณ อุปกรณ์สื่อสาร และซ่อมแซมบ้านพักครู จำนวน 85 แห่ง
ระบบเครือข่ายรักษาความปลอดภัย โดยปรับปรุงระบบวิทยุสื่อสาร ให้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง 5 จังหวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 จุด (ยะลา ปัตตานี) มีการประสานแผนระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหน่วยงานสถานศึกษากับหน่วยงานความมั่นคง จำนวน 13 เขต และจัดทำแผนความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับหน่วยงานความมั่นคงเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยครูและสถานศึกษา 1,215 โรง
การพัฒนาศักยภาพโรงเรียนในโครงการพระราชดำริฯ โดยพัฒนาครุภัณฑ์ สื่อการเรียนการสอน อาคารสถานที่ กิจกรรมพัฒนาการเรียนการสอน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จำนวน 14 แห่ง และส่งเสริมการพัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามให้มีคุณภาพ จำนวน 734 คน
พัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยการสอนเสริมเพื่อสร้างศักยภาพทางการเรียนรู้ 5 กลุ่มสาระหลัก สังกัด สพฐ. 7,758 คน สังกัด สช. 7,826 คน และสังกัด กศน. 543 คน การพัฒนาทักษะทางภาษา (ไทย-มลายู- อังกฤษ) สังกัด สอศ. 409 คน สังกัด สพฐ. 8,218 คน และสังกัด กศน. 10,616 คน และการส่งเสริมการสอนพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โรงเรียนในสังกัด สพฐ. 313 โรง
การพัฒนาห้องเรียนพิเศษ โดยเปิดห้องเรียนพิเศษกีฬา (10 ประเภทกีฬา) สพฐ. 8 แห่ง และพัฒนาห้องเรียนวิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังกัด สช. 8 แห่ง สังกัด สกอ. 3 แห่ง
ผลิตและพัฒนาศักยภาพครู เช่น การพัฒนาระบบผลิตครูชายแดนใต้ การผลิตบัณฑิตและบุคลากรเฉพาะสาขาที่ขาดแคลนและสาขาที่สร้างความเข้มแข็งของชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จำนวน 858 คน การพัฒนาครูโดยเปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตโดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จำนวน 136 คน การเพิ่มครูอาสาสมัคร กศน.ประจำสถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวน 399 คน (1 คน ต่อ 1แห่ง) การพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนเอกชน หลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลง สังกัด สช. จำนวน 490 คน และพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สังกัด สพฐ. จำนวน 329 คน
หลักสูตรและสื่อการเรียนการสอน โดยสร้างหลักสูตรปอเนาะสาธิต และตาดีกาสาธิต และใช้หลักสูตรอิสลามศึกษาตอนต้น (ฟัรฎูอีน) 2559
การพัฒนาโรงเรียนและศูนย์การเรียนรู้ โดยพัฒนาศูนย์เรียนรู้แม่ลาน พัฒนาห้องสมุดโรงเรียน โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จำนวน 20 โรงเรียน พัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามขนาดเล็กสังกัด สช. เพิ่มเงินอุดหนุนจำนวน 199 โรง พัฒนาโรงเรียนประถมและมัธยมระดับอำเภอ สังกัด สพฐ. จำนวน 90 โรงและจัดตั้งห้องเรียนพิเศษ Science Mathematics Program (SMP) โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จำนวน 9 โรงเรียน และมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จำนวน 6 โรงเรียน นอกจากนี้ยังมีการให้ความรู้โดยการอบรมซึ่งดำเนินการโดยศูนย์นวัตกรรมเพื่อการออกแบบหัตถกรรมชายแดนใต้ ศูนย์พัฒนาธุรกิจชายแดนใต้ Southern Border Business Center : SBBC และศูนย์ตาดีกาสัมพันธ์
สื่อและช่องทางการเรียนรู้ โดยการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV รวมทั้งระบบ DLIT, ETV, สพฐ. โดยแยกเป็น DLTV 356 โรงเรียน DLIT 509 โรงเรียน กศน. ETV 416 แห่ง (กศน.ตำบล) เพื่อสร้างโอกาสให้ครูและนักเรียนได้เข้าถึงสื่อเทคโนโลยีการจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัย แก้ปัญหาความขาดแคลนครูผู้สอน และเพื่อให้ครูสามารถพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้ส่งผลต่อคุณภาพการจัดการเรียนการสอนให้สูงขึ้น
สานฝันการกีฬาสู่นักกีฬาอาชีพ ตามโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรแผนการเรียนวิทย์-กีฬา และศิลป์-กีฬา 8 โรงเรียน แผนการเรียนศิลป์-ดนตรี 2 โรงเรียน และแผนการเรียนศิลป์-อาชีพ 3 โรงเรียน
จัดสรรทุนการศึกษาพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการศึกษา โดยแต่ละหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการมีการจัดสรรทุนการศึกษาเพื่อใช้ในการศึกษาต่อ เช่น ทุนการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา (ทุนกีฬา) สังกัด สกอ. จำนวน 92 ทุน ๆ ละ 55,000 บาท ทุนการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัด สพฐ. 856 ทุนๆ ละ 40,000 บาท ทุนการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา สังกัด สกอ. 250 ทุน ๆ ละ 40,000 บาท ทุนจูงใจนักเรียนต่างวัฒนธรรม ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 1,000 ทุน ทุนคุรุทายาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ระดับปริญญาโท 4 ทุน ระดับปริญญาเอก 6 ทุน ทุนภูมิทายาทสังกัด สพฐ. 8,000 ทุน ทุนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสังกัด สป. 6,500 ทุน และทุนการศึกษาในโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกมุสลิมของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 100 ทุน
การศึกษาเพื่อผู้ด้อยโอกาส และผู้พิการ ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนการศึกษาพิเศษในเขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อจัดการศึกษาที่เหมาะสมให้กับนักเรียนในพื้นที่ และเปิดโอกาสให้นักเรียนเหล่านี้มีสิทธิในการศึกษาที่เท่าเทียมและมีคุณภาพเช่นเดียวกับเด็กพิการในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ รวมทั้งได้รับการศึกษาที่สอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิต ศาสนา วัฒนธรรม และประเพณีของตนเอง โดยจะให้บริการแก่เด็กที่มีความบกพร่อง 5 ประเภทความพิการ
ส่งเสริมทักษะอาชีพเพื่อการมีงานทำให้กับนักเรียน นักศึกษา โดยการจัดการเรียนการสอนในศูนย์ฝึกอาชีพประจำอำเภอ จำนวน 5,653 คน เพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างสมรรถนะในการแข่งขันให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน จัดตั้งกลุ่มอาชีพและส่งเสริมทักษะในสถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวน 45 แห่ง 945 คน ฝึกอบรมอาชีพให้กับนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ 550 คน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 1,055 คน และหลักสูตรระยะสั้น 1,610 คน และการจัดการเรียนการสอนอาชีพแบบคู่ขนาน (สอนอาชีพคู่กับเรียนศาสนา) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ 332 คน และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 590 คน ความร่วมมือสหกิจศึกษากับต่างประเทศ โดยนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ฝึกงาน ณ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในต่างประเทศ และส่งเสริมองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ แข่งขันทักษะวิชาชีพ 140 คน
การฝึกอาชีพสำหรับประชาชน โดยมีโครงการฝึกอาชีพตามแนวทางโรงเรียนพระดาบส จำนวน 80 คน การฝึกอาชีพให้กับชาวบ้าน โดยสถาบันวิทยาลัยชุมชนให้ความรู้กับประชาชน 3,500 คน อบรมฝึกอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กศน. 730 คน นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยางพาราต้นแบบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนและช่วยผลิตเครื่องสีข้าวซ้อมมือให้กับประชาชน
มุ่งพัฒนาเยาวชนให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถดำรงชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างมีความสุข
มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การขจัดความขัดแย้งโดยสันติวิธี บนพื้นฐานความหลากหลายของสังคมพหุวัฒนธรรม โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
การศึกษาและพัฒนาเพื่อสร้างชุมชนชายแดนใต้ต้นแบบ ที่เหมาะสมท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบ 2 ชุมชน โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
กิจกรรมการมีส่วนร่วมของชุมชนรอบสถานศึกษาเอกชน เช่น เมาลิดสัมพันธ์ ตาดีกาสัมพันธ์ งานวันเด็ก มหกรรมวิชาการ การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน และงานวันสำคัญต่าง ๆ
การสร้างเครือข่ายแกนนำเพื่อพัฒนาการเห็นคุณค่าในตนเอง (Self-Esteem), เครือข่ายเยาวชนต้นแบบทำดีดูดี, ค่ายศิลปกรรมศาสตร์ของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
กิจกรรมกีฬา ได้แก่ กิจกรรมกีฬาสายสัมพันธ์ชายแดนใต้ของนักศึกษา กศน. ระดับอำเภอและจังหวัด มีนักศึกษาเข้าร่วม 10,937 คน และในขณะนี้ได้เตรียมการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาภาคฤดูร้อนครอบคลุม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเดือนเมษายนนี้
กิจกรรมลูกเสือ จัดค่ายเยาวชนสานสัมพันธ์ ลูกเสือ กศน. ชายแดนใต้ ระดับจังหวัด มีลูกเสือเข้าร่วมจำนวน 2,004 คน และการจัดงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 5-7 เมษายน 2560 ณ จังหวัดสตูล
เป็นการประชาสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สร้างความเข้าใจในการร่วมกันพัฒนาการศึกษา โดยมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา ได้พัฒนานักสื่อสารชุมชน จำนวน 90 คน จัดทำสื่อสันติภาพ จำนวน 33 เรื่อง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จัดสัมมนาผู้นำศาสนา 37 คน สัมมนาผู้บริหารอิสลามศึกษาระดับนานาชาติ จำนวน 500 คน นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาในสังกัดอาชีวศึกษา ยังได้จัดกิจกรรม Road Show เปิดบ้านคนพันธุ์ R สร้างแรงจูงใจในการศึกษาสายอาชีพในสถาบันอาชีวศึกษาทั้ง 18 แห่ง และจัดกิจกรรมแนะแนวในการศึกษาต่อของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
พัฒนาสถานศึกษาด้านอาคารสถานที่ สังกัด สอศ. ก่อสร้างหอพักนักเรียน จำนวน 7 แห่ง, สังกัด สพฐ. ก่อสร้างบ้านพักครู 135 หลัง ซ่อมแซมบ้านพักครู 174 หลัง ปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร 29 หลัง
สนับสนุนค่าตอบแทนพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และสนับสนุนวิทยากรอิสลามศึกษาในสถานศึกษา 361 แห่ง
ดำเนินการวิจัย โดยสถาบันวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และกำหนดทิศทางในการพัฒนาการศึกษาโดยจัดทำแผนยุทธศาสตร์การศึกษา เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี ที่สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
(พ.ศ.2560-2579) ของกระทรวงศึกษาธิการ
วิสัยทัศน์ของแผนดังกล่าว คือ “ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21”
โดยมี 6 ยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานขับเคลื่อน คือ
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในการแข่งขัน
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ยุทธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา
กลไกสำคัญในการขับเคลื่อน ตามแผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) มี 2 ระดับ คือ ระดับอำนวยการ โดยมี
นอกจากนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำมาโดยตลอดเกี่ยวกับการทำงานด้วยว่า ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้เกิดขึ้นในหน่วยงานและสถานศึกษาของตนเอง ตลอดจนผู้ปกครอง พี่น้องประชาชน องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต่จำนวน 521 องค์กร เพราะเมื่อมีความเข้าใจเกิดขึ้น ทุกคนจะมีส่วนเข้าถึง และร่วมพัฒนา อันจะส่งผลให้ความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้เกิดขึ้นโดยเร็ว
บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
30/3/2560