![]() |
ชีวิตเปลี่ยนไปเลยค่ะ”
แบมบู น.ส.ญานิศา เป้าเปี่ยมทรัพย์ วัย 17 ปี เล่าถึงความรู้สึกที่ได้เป็น 1 ใน 3 เยาวชนไทยเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) เมื่อไม่นานนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เยาวชนไทยมีโอกาสเข้าร่วมการประชุมยูเอ็นจีเอ แม้สหประชาชาติจะก่อตั้งมา 60 ปีแล้วก็ตาม โดยไทยเป็น 1 ในสมาชิกจาก 192 ประเทศทั่วโลก
ทุกๆ ปี คนหลายพันคนจากทั่วทุกมุมโลกจะเดินทางไปยังมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมประชุมยูเอ็นจีเอ มีตั้งแต่ระดับผู้นำประเทศ รัฐมนตรี องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งเยาวชนจากหลากหลายประเทศ
งานนี้ต้องยกนิ้วให้แบมบู ผู้จุดประกายให้เกิดโครงการส่งตัวแทนเยาวชนไทยไปยูเอ็นจีเอ หลังจากส่งจดหมายถึงรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเมื่อเดือนธ.ค.2549 เพื่อขอให้จัดโครงการนี้และได้รับคำตอบที่ทำให้ฝันกลายเป็นจริง
แบมบูสั่งสมประสบการณ์ด้านยูเอ็นมาตั้งแต่อายุ 14 ปี หลังจากต้องตามคุณแม่ไปเรียนที่มาเลเซียและมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมยูเอ็นจำลอง (Model United Nation) หรือ มุน เป็นครั้งแรกที่โรงเรียนอลิซ สมิธ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยสมมติว่าเป็นตัวแทนคณะกรรมาธิการจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมประชุมยูเอ็น
จากนั้นมา แบมบูก็สนใจศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับยูเอ็นมาเรื่อย จนได้เข้าร่วมการประชุมยูเอ็นจำลองสำหรับเด็กมัธยมที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อเดือนม.ค.2550
![]() |
ตอนนี้แบมบูกำลังเรียนชั้นมัธยมที่บริติช อินเตอร์เนชั่นแนล เมืองเซี่ยงไฮ้ เพราะติดตามคุณแม่ซึ่งไปทำงาน การติดต่อขอสัมภาษณ์เข้าโครงการนี้จึงต้องไปที่กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้
ในห้องประชุมที่นิวยอร์ก แบมบูบังเอิญพบเพื่อนๆ ที่เคยร่วมกิจกรรมจำลองยูเอ็นหลายคนและยังพบเพื่อนใหม่ๆ ด้วย
ตลอด 3 สัปดาห์ในนิวยอร์ก แบมบูเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากตำราใดๆ ซึ่งจะเป็นทุนในการต่อยอดสำหรับการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา ที่ตั้งใจว่าจะเรียนด้านการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่อังกฤษปลายปีนี้
ส่วนเพื่อนที่ไปนิวยอร์กพร้อมแบมบู คือ ยุ้ย น.ส.กุศลิน วงษ์น้ำคบ วัย 20 ปี เรียนภาษาอังกฤษและรัฐศาสตร์ควบคู่กันไปที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสามารถผ่านด่านการคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการต่างประเทศมาได้
ประสบการณ์ตรงจากห้องประชุมยูเอ็นทำให้เห็นว่าความตั้งใจของเยาวชนทำให้โลกพัฒนาได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เพื่อนและประสบการณ์มากมาย อีกทั้งเห็นว่าในเวลาเดียวกันนี้มีอะไรเกิดขึ้นในโลกเรามากมาย ปัญหาก็ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมทั้งเห็นว่าการทำงานในระดับประเทศและระหว่างประเทศนั้นต้องใช้ความรอบคอบและความรับผิดชอบสูง ประสบการณ์ที่ได้มาช่วยเสริมความพร้อมในการทำงานในองค์กรระหว่างประเทศตามที่ต้องการได้ในอนาคต
เมื่อมีเวลาว่าง ยุ้ยจะเดินเที่ยวรอบเมืองและรู้สึกประทับใจบ้านเมืองเขาที่สะอาดและเป็นระเบียบมาก
![]() |
อีกหนึ่งหนุ่มที่มีโอกาสไปร่วมประชุมยูเอ็นจีเอก่อน 2 สาว คือ บุ๊ค นายกัณตภณ พร้อมมูล วัย 20 ปี นักศึกษาเอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ก่อนที่จะเป็นลูกแม่โดมบุ๊คใช้ชีวิตวัยเด็กและวัยรุ่นเรียนชั้นป.5-ม.5 ที่รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา เพราะตามคุณพ่อซึ่งไปเรียนปริญญาเอกอยู่ที่นั่น
บุ๊คและเพื่อนๆ ตัวแทนเยาวชน 18 ประเทศมีโอกาสดีที่ได้พบ นายบัน คี มุน เลขาธิการยูเอ็นเป็นเวลา 10 นาที นายบันพูดคุยอย่างเป็นกันเองและบอกว่าตอนเด็กๆ เคยเจออดีตประธานา ธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และเข้าไปขอลายเซ็น แต่ปรากฏว่าลายเซ็นเลือนหายไปเพราะเพื่อนๆ ขอดูกันเยอะ
หนุ่มเดียวจากเอเชียและจากไทยบอกว่า ส่วนใหญ่เพื่อนๆ เป็นชาวยุโรปซึ่งทำงานเป็นทีมดีมาก แต่ทัศนคติค่อนข้างแตกต่างจากชาวเอเชียเพราะประเทศยุโรปเป็นประเทศที่เป็นผู้ให้ ขณะที่เอเชียส่วนใหญ่เป็นประเทศผู้รับ ด้วยความที่เป็นเยาวชนไทยคนแรกที่ได้ไปยูเอ็นจีเอ จึงไม่มีข้อมูลในการเตรียมตัวมากนัก รู้เพียงว่าต้องไปยืนที่แท่นยืนพูดและถ่ายรูปกับเลขาฯ ยูเอ็นทำให้ไม่ค่อยมั่นใจและตื่นเต้นมาก แต่ก็เตรียมตัวให้ดีที่สุดด้วยการอ่านเอกสารเกี่ยวกับยูเอ็นเป็นปึกเหมือนกับเพื่อนอีก 2 คน
วันแรกที่ไปถึง บุ๊คจำได้แม่นว่าเข้าไปฟังตัวแทนเยาวชนประเทศอื่นพูดและช่วยทำรายงานการประชุม ที่สำคัญจากมติข้อเสนอของตัวแทนเยาวชนทั้งหมด 14 ข้อ มี 1 ข้อที่เด็กไทยโชว์วิสัยทัศน์คือ “การเก็บข้อมูลให้เยาวชนเพื่อให้สามารถระบุปัญหาและเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ”
หนุ่มสงขลาเล่าให้ฟังว่า ในการประชุมตัวแทนของแต่ละประเทศต่างเสนอปัญหาในประเทศตนเอง เช่น นอร์เวย์ผลักดันเรื่องน้ำ เนเธอร์แลนด์เน้นเรื่องสิทธิเยาวชนสตรี ส่วนสวิตเซอร์แลนด์เสนอเรื่องการทำงานของเยาวชน ซึ่งบางคนมีโอกาสเดินทางไปรอบประเทศของตัวเองเพื่อดูงานด้านที่สนใจและนำข้อมูลมาเสนอที่ประชุม สำหรับตนนำเสนอเรื่องการศึกษาของเด็กไทยที่อยากให้เท่าเทียมกัน และอยากให้โรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชนมีมาตรฐานการสอนเดียวกัน
ความฝันที่มุ่งมั่นอีกสิ่งหนึ่งคือ ก่อตั้งสมาคมยูเอ็นเยาวชน (UN Youth Association) หรือยูเอ็นวายเอ เพื่อให้เด็กและเยาวชนจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ ร่วมทำกิจกรรมเกี่ยวกับยูเอ็นและเตรียมการให้กับผู้แทนเยาวชนที่จะไปประชุมยูเอ็นจีเอ
ส่วนความประทับใจที่ได้จากการเป็นตัวแทนเยาวชนไทย คือการได้พูดข้อเสนอด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านมาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงบัวแก้วเป็นผู้กล่าว แต่บุ๊คขอพูดเอง และยังขอให้ยูเอ็นทีวีถ่ายทอดสดตอนที่พูดด้วย
แม้จะเป็นเวลาแค่ 1 นาที แต่ก็ทำให้หัวใจของเด็กไทยพองโตและพร้อมก้าวสู่หนทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งตั้งความหวังไว้ว่าจะสอบเข้ากระทรวงการต่างประเทศให้ได้ เพื่อนำประสบการณ์และความรู้ในครั้งนี้มาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม



