เสนอใช้ ม.44 ควบรวม กยศ.กับกองทุน กรอ.

เสนอใช้ ม.44 ควบรวม กยศ.กับกองทุน กรอ.

          นิด้า เสนอทางแก้ไขใช้ระบบภาษีเก็บคืนหนี้จากผู้กู้ / ชี้ช่อง ม.44 เอื้ออำนาจรัฐบาลทำได้ทันที
          เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.59 ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้มีการจัด “สภาการศึกษาเสวนา (OEC Forum) ครั้งที่ 8 เรื่อง ระบบการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา สำหรับประเทศไทย โดย ศ.ดร.เมธี ครองแก้วคณะพัฒนการเศรษฐกิจ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) อดีตรักษาการ ผอ.กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนเพื่อการศึกษาของนักเรียน และนักศึกษาในประเทศไทย มี 2กองทุน คือกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) และ กรอ. แต่ที่ผ่านมาทั้ง 2 กองทุน มีปัญหาทางด้านการชำระหนี้เงินกู้คืน ซึ่งวิธีแก้ปัญหาที่ดี คือ ต้องเปลี่ยนจากกองทุน กยศ. เป็น กรอ.ให้หมด และต้องปรับเงื่อนไขระบบการชำระหนี้ของ กยศ.เพราะการชำระหนี้คืนเงินกู้ กยศ. ขณะนี้เป็นการออกแบบที่ไม่ถูกต้อง เพราะบังคับให้ต้องคืนเงินเมื่อจบปริญญาตรี มาแล้ว 2 ปี ซึ่งเป็นการฝืนธรรมชาติ เนื่องจากบางคนอาจยังหางานทำไม่ได้ หรือมีงานแล้วแต่เงินเดือนไม่พอมาชำระหนี้
          กระทรวงการคลัง จึงมีความพยายามที่จะควบรวมทั้ง 2 กองทุน เข้าด้วยกัน เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวกับกู้ยืมให้อยู่ในรูปแบบเดียวกัน และให้การบริหารมีประสิทธิภาพ และสามารถผลิตแรงงานสาขาขาดแคลนได้มากขึ้น ซึ่งตนเห็นด้วยกับการรวมกองทุนนี้
          “กยศ.ไม่สามารถไปรอดได้ในภาวะปัจจุบัน ต้องยกเลิกระบบ กยศ. แล้วมาควบรวมกับ กรอ. โดยยกมูลหนี้จาก กยศ.มาอยู่ กรอ.ให้หมด แล้วใช้ระบบภาษีโดยกรมสรรพากรในการจัดเก็บหนี้ ซึ่งทำให้แน่ใจได้ว่าจะเก็บได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ กรอ. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราสามารถปรับแก้ระบบกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาได้ทันที เพราะรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้อำนาจรัฐบาลทหารในการแก้กฎหมาย โดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 ดังนั้น หากมีใครไปนำเสนอนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาดังกล่าว และดูมูลหนี้ต่าง ๆ ก็สามารถทำได้”
          ศ.ดร.เมธี กล่าวและว่า สำหรับข้อเสนอที่จะให้ผู้ค้างชำระหนี้เงินกู้ยืมฯ ไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้นั้น เรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วย เพราะป็นคนละเรื่องกัน และบัตรประชาชนถือเป็นสิทธิพื้นฐานที่ทุกคนต้องได้รับ นอกจากนี้ควรมีการขยาย หรือกำหนดสาขาประเภทของเงินกู้ กรอ.เพิ่มเติม ไม่ต้องกำหนดเฉพาะสาขาขาดแคลน เพราะถือเป็นสิทธิของนักศึกษาในการเลือกเรียน หากนักศึกษาพอใจที่จะเรียนในสาขาที่จบออกมาแล้วได้รับเงินเดือนน้อย ก็เป็นความรับผิดชอบของนักศึกษา แต่ยังคงต้องชำระหนี้คืนตามเงื่อนไขการกู้เรียน

          ที่มา: http://www.siamrath.co.th