หลักเกณฑ์โอนใบอนุญาตให้จัดตั้ง รร.เอกชน

ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๑ เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๑

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชน ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ยื่นคำขอรับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชน โดยมีความสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันและมีความเหมาะสมยิ่งขึ้นสำหรับการโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน ในระบบและโรงเรียนนอกระบบ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ (๑๐) มาตรา ๑๐๖ และมาตรา ๑๒๗ แห่งพระราชบัญญัติ โรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ ประกอบกับมติคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนในการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๑ คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๑”

ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์และ วิธีการโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชน ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

ข้อ ๔ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดประสงค์จะโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนให้บุคคลอื่นให้ยื่นคำขอ ต่อผู้อนุญาตตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามประกาศนี้ โดยผู้รับโอนต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องห้าม ตามมาตรา ๒๑ หรือมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ แล้วแต่กรณี

ข้อ ๕ กรณีการโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งตามพระราชบัญญัติ โรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้ผู้โอนยื่นคำขอตามแบบ อ.๑ ท้ายประกาศนี้พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปนี้
   (๑) สำเนาตราสารจัดตั้ง
   (๒) สำเนารายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียน
   กรณีการโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งก่อนพระราชบัญญัติ โรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ มีผลใช้บังคับ นอกจากยื่นคำขอ พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน ตามวรรคหนึ่งแล้ว จะต้องมีหลักฐานที่แสดงว่าโรงเรียนได้รับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดิน หรือสิทธิเหนือพื้นที่ดินหรือสิทธิเก็บกินหรือสิทธิการเช่าแล้ว

ข้อ ๖ กรณีการโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนนอกระบบ ให้ผู้โอนยื่นคำขอตามแบบ อ.๒ ท้ายประกาศนี้พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปนี้
   (๑)
สำเนารายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียน
   (๒) สำเนาหนังสือสำคัญแสดงการเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสำเนาสัญญาเช่าอาคาร ที่มีกำหนดเวลาการเช่าไม่น้อยกว่าสามปีที่ใช้จัดตั้งโรงเรียน

ข้อ ๗ นอกจากเอกสารและหลักฐานตามความในข้อ ๕ และข้อ ๖ แล้ว ให้บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลซึ่งรับโอนแล้วแต่กรณี ต้องแนบเอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปนี้
   (ก) กรณีบุคคลธรรมดา
     (๑) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชน
     (๒) สำเนาทะเบียนบ้าน
     (๓) สำเนาหลักฐานการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
     (๔) รูปถ่าย ขนาด ๔ x ๖ เซนติเมตร จำนวน ๒ รูป
   (ข) กรณีนิติบุคคล
     (๑) สำเนาสำคัญแสดงการจดทะเบียนของนิติบุคคล พร้อมด้วยวัตถุประสงค์
     (๒) สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น กรณีนิติบุคคลเป็นบริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัด
     (๓) สำเนาบัญชีรายชื่อผู้เป็นหุ้นส่วน กรณีนิติบุคคลเป็นห้างหุ้นส่วน
     (๔) สำเนารายชื่อและสัญชาติของกรรมการ กรณีนิติบุคคลเป็นมูลนิธิ สมาคม หรือสหกรณ์
     (๕) สำเนารายชื่อและสัญชาติของสมาชิกทุกคน กรณีนิติบุคคลเป็นสมาคมหรือสหกรณ์
     (๖) สำเนาหนังสือมอบอำนาจจากผู้มีอำนาจทำการแทนนิติบุคคลให้เป็นผู้จัดการหรือ ผู้แทนนิติบุคคล

ข้อ ๘ เมื่อผู้อนุญาตได้รับคำขอพร้อมเอกสารและหลักฐานครบถ้วนแล้ว ให้ผู้อนุญาต ตรวจสอบคำขอพร้อมเอกสารและหลักฐานนั้น และตรวจสอบด้วยว่าผู้รับโอนมีคุณสมบัติและไม่มี ลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๒๑ หรือมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ แล้วแต่กรณี หากเห็นสมควรอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้รับโอนโรงเรียน แต่หากตรวจพบว่ามีข้อใดไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนให้ผู้อนุญาตสั่งไม่อนุญาต
   ใบอนุญาตให้รับโอนโรงเรียนในระบบ ให้ใช้แบบ อ. ๓ ท้ายประกาศนี้
   ใบอนุญาตให้รับโอนโรงเรียนนอกระบบ ให้ใช้แบบ อ. ๔ ท้ายประกาศนี้

ข้อ ๙ ในกรณีที่ใบอนุญาตให้รับโอนโรงเรียนสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตให้รับโอนโรงเรียนตามแบบ อ. ๕ ท้ายประกาศนี้
   ใบแทนใบอนุญาตให้รับโอนโรงเรียนให้ใช้แบบใบอนุญาตตามแบบ อ. ๓ หรือ อ. ๔ ท้ายประกาศนี้แล้วแต่กรณี และมีข้อความว่า “ใบแทน” ด้วยหมึกสีแดงไว้ที่มุมบนด้านขวา

ข้อ ๑๐ ผู้รับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนประเภทในระบบ และประเภทนอกระบบจะต้อง ถือปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนว่าด้วยการคุ้มครองการทำงาน หรือ ตามกฎหมายแรงงาน แล้วแต่กรณี

ข้อ ๑๑
บรรดาคำขอโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชนที่ได้ยื่นไว้และยังพิจารณา ดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ถือว่าเป็นคำขอโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชนตามประกาศนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน

อ้างจาก ราชกิจจานุเบกษา


Rewriter/Editor บัลลังก์ โรหิตเสถียร