15 ธันวาคม 2568 – กระทรวงศึกษาธิการ จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณครูดีไม่มีอบายมุข “ครูผู้อารี” รับมือโลกเดือดแต่ใจไม่เดือด ประจำปีการศึกษา 2568 (ปีที่ 14) โดยนายชาญวิทย์ มุนิกานนท์ พร้อมด้วย นายวีระ แข็งกสิการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมมอบโล่ฯ ให้แก่ผู้เข้าร่วม จำนวน 333 คน ณ ห้องประชุมใกล้รุ่ง โรงเรียนราชวินิต
นายชาญวิทย์ กล่าวว่า เหตุผลที่คนเราหันเข้าหาอบายมุขมากขึ้นเพราะต้องการหาความสุข ที่จริงแล้ว “อบายมุขคือศัตรูของความสุข” ความสุขนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายทาง จากการทำงาน จากการที่ครูได้สอนหนังสือ การใช้ชีวิตกับครอบครัว การที่ได้ช่วยเหลือลูกศิษย์ให้พ้นจากความไม่รู้ ความสุขมีตั้งแต่ระดับพื้นไปจนถึงระดับสูง การได้ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ครูมีภูมิต้านทานอบายมุขได้ ทำให้ชีวิตพบกับความสุขที่ประณีต
ขอเชิญชวนให้ครูทุกคนเน้นไปที่ความสุขในการทำงาน เพราะครูเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อบ้านเมือง หากครูทำงานอย่างมีความสุข จะทำให้สามารถออกห่างจากอบายมุขที่เปรียบเสมือนรู้รั่วของชีวิต ต้นเหตุของการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เสียเงินไปกับการเสี่ยงโชคเกิดหนี้สิน และการเป็นครูจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกศิษย์ หากเราหยุดอบายมุขเราจะได้สัมผัสชีวิตดีมีคุณธรรม
รองปลัด ศธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้มีความสุขมากที่ได้เห็นกิจกรรมที่งดงามในการสร้าง “ครูดีไม่มีอบายมุข” ที่เป็นต้นแบบของเด็กและเยาวชน เชื่อว่าโครงการนี้จะสร้างคนดีให้กับแผ่นดิน โดยเฉพาะคนที่เป็นครู พอมีครูดีแล้วก็จะส่งต่อความดีนี้ไปให้ลูกศิษย์และเครือข่ายครู ขอบคุณหน่วยงานทุกสังกัดและทุกภาคส่วนที่ช่วยผลักดันครูของเรา ในอนาคตอยากให้โครงการนี้ยกระดับให้ครูมีวิทยฐานะสูงขึ้น จะได้เป็นตัวอย่างของการเป็นครูที่ดี เป็นต้นแบบของครูที่รู้กิเลส มีความเข้มแข็งทางจิตใจ สามารถพาตัวเองออกจากสิ่งยั่วยุ เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยแก้ปัญหาสังคมได้ เป็นที่พึ่งทางใจให้กับเด็กและเยาวชนได้
สำหรับงานในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ และภาคีเครือข่ายต่าง เพื่อเสริมแรงทางศีลธรรมให้แก่ครู มิให้ครูตกเป็นทาสอบายมุข เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติครู ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาที่ตั้งใจรักษาศีล 5 งดเว้นอบายมุขทุกประเภท และมีส่วนช่วยลดภาวะโลกเดือด (Global Boiling)
โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีความประพฤติดี มีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต และอุทิศตนเพื่อประโยชน์ของนักเรียน โรงเรียน และชุมชน สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นแบบอย่างที่ดีของวิชาชีพครูอย่างแท้จริง เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ จำนวน 333 คน และยังมุ่งหวังเพื่อสร้างพลัง แห่งความดี กระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงคุณค่าของครูผู้มีศรัทธาในความดีงาม พร้อมทั้งส่งเสริมให้สถานศึกษาเป็นพื้นที่ปลอดอบายมุข และเป็นแหล่งบ่มเพาะคุณธรรมให้แก่นักเรียนในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและท้าทายยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการกล่าวปฏิญาณตน ความว่า ข้าพเจ้า ขอตั้งจิตกล่าวคำปฏิญาณตน ในการดำรงความเป็นครูดีไม่มีอบายมุขเพื่อประเทศชาติ ดังนี้ ข้อ 1 ข้าพเจ้าจะรักษาศีล 5 เว้นขาดจาก เหล้า เบียร์ บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า การพนัน อบายมุขทั้งปวงและปฏิบัติตนตามหลักศาสนาของข้าพเจ้า เพื่อสานต่อพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อมิให้ชีวิตตกเป็นทาสอบายมุข ข้อ 2 ข้าพเจ้าจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่ครู ดังนี้ “ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกัน แต่ให้แข่งกับตนเอง ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่าช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า ให้ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนทำร่วมกันเพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี” ข้อ 3 ข้าพเจ้าจะประพฤติตนให้เป็นครูที่ดี ดำรงไว้ซึ่งเกียรติยศของครูดีไม่มือบายมุข และช่วยเหลือคนรอบข้าง ใหเปลอดจากอบายมุขทั้งปวง ด้วยหน้าที่ของความเป็นเพื่อนมนุษย์
พบพร ผดุงพล / ข่าว , กราฟิก
ธนภัทร จันทร์ห้างหว้า / ภาพ
