รมว.ศธ. “นฤมล” มอบรางวัลคุณากร ครูยิ่งคุณ ครูขวัญศิษย์ รุ่นที่ 6 ปี 2568 “ชื่นชมครูไทยเสียสละ ฝากขยายผลสู่การศึกษาคุณภาพทั่วประเทศ”

16 ตุลาคม 2568 / ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีมอบรางวัลคุณากร รางวัลครูยิ่งคุณ และรางวัลครูขวัญศิษย์ ให้แก่ครูเครือข่ายมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี (ครูไทย) รุ่นที่ 6 ปี 2568 (Princess Maha Chhakri Award Ceremony) ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม 2 เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวแสดงความชื่นชมยินดีผู้ที่มาร่วมรับรางวัลในครั้งนี้ พร้อมกล่าวว่า เพราะครูเป็นบุคคลที่สำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของศิษย์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินและพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีในครั้งนี้ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของ “ครู” ทรงอุทิศพระองค์เพื่อการศึกษามาโดยตลอด พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยคุณลักษณะของความเป็นครูที่สอดคล้องกับมาตรฐานของคณะกรรมการส่งเสริมวิชาชีพครู ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพครูต้องยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ อันประกอบด้วยคุณลักษณะที่สำคัญ 4 ประการ คือ ความรอบรู้ การสอนดี มีคุณธรรมจรรยาบรรณ และมุ่งมันพัฒนาแม้ว่าในปัจจุบันและอนาคต เราสามารถหาความรู้ได้จากสื่อต่าง ๆ ในทุกแห่ง ไม่เฉพาะจากครูและในห้องเรียนเท่านั้น หากแต่ไม่มีสื่อประเภทใดที่จะสามารถอบรมสั่งสอนกล่อมเกลาให้ศิษย์ได้อย่างทุ่มเทและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความเสียสละได้เฉกเช่นครู

 

พิธีมอบรางวัลให้แก่ครูในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความมีคุณค่าและพลังของคำว่า “ครู” ที่ส่งผลถึงเด็กในทุกพื้นที่ไม่ว่ายากลำบากเพียงใด ครูจึงเป็นผู้สมควรได้รับรางวัลอย่างแท้จริงในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะโลกในศตวรรษที่ 21 ครูจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ และให้เท่าทันกับการเรียนรู้ ในสิ่งใหม่ ทั้งองค์ความรู้และเทคโนโลยี อีกทั้งต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการสอนที่มิใช่เพียงแต่การสอนความรู้ในหนังสือหรือแบบเรียนเท่านั้น แต่ต้องสามารถพัฒนาให้เด็กและเยาวชนไทยมีกระบวนการคิดที่มีวิจารณญาณ สามารถเลือกรับและเรียนรู้ในสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิต เพื่อที่จะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมือง

รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญในการสรรหาและคัดเลือกครูดีในทุกจังหวัด ด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อที่ครูเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนครูและนักศึกษาครูในอนาคต ที่จะร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับชีวิตลูกศิษย์ ดังนั้น ครูผู้ได้รับรางวัลคุณากร รางวัลครูยิ่งคุณ และรางวัลครูขวัญศิษย์ ในวันนี้ ควรมีความภาคภูมิใจที่จะเป็นกำลังสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญที่ยิ่งต่อการพัฒนาการศึกษาและวิชาชีพครู จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนร่วม

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่า ในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการศึกษา เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี เด็กและเยาวชนของเราไม่ได้เรียนรู้กับครูเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่ออยากรู้อะไร ก็มักจะไปถามจาก AI ทั้ง Google, Chat GPT จนบางครั้งอาจถูกมองว่า อาชีพครูเป็นอีกอาชีพที่ถูก Distruption แต่การที่ครูกว่า 200 คน ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า ความเป็นครูไม่ได้ทำเพียงการสอนวิชาการในสาขาต่าง ๆ เท่านั้น แต่ครูยังมีบทบาทสำคัญในการบ่มเพาะ ขัดเกลาจิตใจของเด็ก และที่สำคัญที่สุดคือ ครูเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตของเด็ก ๆ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดาร ซึ่ง AI คงทำไม่ได้ ถ้าไม่มีครูเป็นผู้ชี้แนะ”

ขอฝากให้กำลังใจกับครูทุกท่านในการก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ โดยยังดำรงหลักการ ในการถ่ายทอดความรู้และการดูแลเด็ก ๆ ไม่ใช่เฉพาะด้านวิชาการ แต่ดูแลไปถึงจิตใจ ชีวิตความเป็นอยู่ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเขาด้วย เชื่อว่าวิชาชีพครูจะไม่มีวันหมดไปจากสังคมไทยแน่นอน พร้อมกันนี้ขอแสดงความขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกและกลั่นกรองผู้ที่ได้รับรางวัล ซึ่งทราบว่าเป็นกระบวนการที่เข้มข้นตั้งแต่ระดับจังหวัดมาจนถึงระดับภูมิภาค ซึ่งก็ถือเป็นความภาคภูมิใจของตัวครู ครอบครัว และสถานศึกษา และท้ายสุดขอขอบคุณมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ที่สามารถดำเนินงานได้สำเร็จลุล่วงตามเจตนารมณ์ และเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญในการสรรหาและคัดเลือกครูดีในทุกจังหวัด เพื่อที่ครูเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนครูและ นักศึกษาครูในอนาคต ที่จะร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับชีวิตลูกศิษย์ และสร้างคุณูปการต่อการศึกษา”

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้องค์กรหลักทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หารือร่วมกันเพื่อวางแผนต่อยอดครูที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เพื่อขยายผลให้เกิดการเรียนรู้และการนำไปปฏิบัติสู่นักเรียนทั่วประเทศ ที่จะเป็นการ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ และสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาต่อไป โดยก่อนหน้านี้ได้มีการรับฟังปัญหาอุปสรรคในการทำงานของครูบางท่าน และยืนยันว่าหากมีนโยบายใดที่จะช่วยแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการทำงานของครูได้ จะทำอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยดูแลเด็กและเยาวชนของเราต่อไปในอนาคต

การดำเนินกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นโดยมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วม ได้แก่ นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา รวมถึงศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด ผู้แทนองค์กรและหน่วยงานอื่น อาทิ สถาบันส่งเสริมการการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ มีครูที่ได้รับรางวัลทั้งหมดรวมกว่า 200 คน

สุกัญญา จันทรสมโภชน์ / สรุป – กราฟิก
ศศิวัฒน์ แป้นคุ้มญาติ / ภาพ
ข้อมูล : สำนักงาานเลขาธิการคุรุสภา และสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ