มติ ครม.25 พย.53




สรุปมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ๒ เรื่อง









 src=

@ อนุมัติให้โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค เพื่อกระจายโอกาสสำหรับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์

ครม.ได้อนุมัติให้โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค มีภารกิจหน้าที่ในการจัดการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑–๖ ในลักษณะของโรงเรียนประจำ ทั้งนี้เพื่อกระจายโอกาสสำหรับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ นอกจากนั้นได้อนุมัติการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาโรงเรียน เพื่อทำหน้าที่กำหนดแนวทาง ให้คำแนะนำ ส่งเสริมการดำเนินงานของโรงเรียน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับนักเรียนประจำและค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอน เห็นควรสนับสนุนค่าใช้จ่ายดังกล่าวในอัตราคนละ ๘๔,๐๐๐ บาทต่อปี ตามอัตราที่โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ได้ให้การสนับสนุนห้องเรียนวิทยาศาสตร์โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยในปัจจุบัน ส่วนในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๔ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๔ (พฤษภาคม–กันยายน ๒๕๕๔) ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ จากโครงการสนับสนุนการจัดการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ๑๕ ปี ที่ได้รับมาดำเนินการก่อน และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อๆ ไป ตามความจำเป็นและเหมาะสม 

ทั้งนี้ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยมีอยู่ ๑๒ แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เป็นโรงเรียนที่มีจุดมุ่งหมายของการจัดตั้งเป็นพิเศษ นอกจากจัดตั้งเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๓ รอบแล้ว ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ให้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมีภารกิจในการจัดการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๖ ในลักษณะโรงเรียนประจำ ศธ.จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค เพื่อการกระจายโอกาสสำหรับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ขึ้น

จุดมุ่งหมายของโครงการพัฒนาโรงเรียน เพื่อพัฒนาให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมีคุณภาพระดับเดียวกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำของนานาชาติ (World Class) มีภารกิจในการจัดการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๖ ในลักษณะของโรงเรียนประจำ และเน้นการให้โอกาสกับผู้มีความสามารถพิเศษที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ 

สำหรับคณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาโรงเรียน เพื่อให้การดำเนินงานของโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาคบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ จำเป็นต้องมีคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรีเป็นกรรมการบริหารโครงการ เพื่อทำหน้าที่กำหนดแนวทาง ให้คำแนะนำ ส่งเสริมการดำเนินงานของโรงเรียนและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายกฤษณพงศ์ กีรติกร เป็นประธานกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. เป็นกรรมการและเลขานุการ และกรรมการอื่นอีก ๑๖ คน โดยมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายในภาพรวม กรอบและทิศทางการพัฒนาการดำเนินการของแต่ละโรงเรียนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน กำหนดแนวทาง ให้คำแนะนำ ส่งเสริม กำกับติดตาม ดูแลและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามประเมินผลการดำเนินงานของโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค จัดทำรายงานผลการติดตามประเมินผลเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้ข้อคิดเห็นทุกปีการศึกษา

วัตถุประสงค์โครงการพัฒนาโรงเรียน เพื่อพัฒนาให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ซึ่งมีกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยเน้นการให้โอกาสกับผู้มีความสามารถพิเศษที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในภูมิภาคนั้นๆ นอกจากนี้เพื่อเป็นฐานในการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้มีปริมาณและคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ที่สามารถทำการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างความรู้และนวัตกรรมได้ ตลอดจนเพื่อเป็นต้นแบบและกระตุ้นการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

——————————————————————————–

@ อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีการวมศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ไปเป็นส่วนราชการมีฐานะเทียบเท่าภาควิชาในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ….

ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีการวมศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ไปเป็นส่วนราชการ มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ

ทั้งนี้ ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ และเพื่อเป็นศูนย์รวมในการบำบัดผู้ป่วย ศึกษาค้นคว้า วิจัยทางการแพทย์ ด้านการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเป็นส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีฐานะเทียบเท่าคณะ

ซึ่งสภามหาวิทยาลัยขอนแก่นพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการของศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ มีประเด็นปัญหาที่สำคัญควรได้รับการแก้ไข ๓ ด้าน คือ ด้านโครงสร้าง ด้านระบบบริหารงาน และด้านบุคคล ซึ่งปัญหาดังกล่าวและผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากระบบการบริหารงาน ระบบการให้บริการและโครงสร้างการบริหารงานที่มีความบกพร่อง นอกจากนี้ยังพบว่าความร่วมมือระหว่างศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ ในการดำเนินภารกิจการให้บริการรักษาพยาบาล และภารกิจของการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนในการผลิตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อีกทั้งการผลิตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดของคณะแพทยศาสตร์จะเกิดข้อจำกัดและไม่สมบูรณ์ หากไม่มีส่วนร่วมจากศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขณะเดียวกันการให้บริการในการรักษาพยาบาลของศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หากไม่มีส่วนร่วมจากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ จะมีความจำเป็นในแง่ศักยภาพ คุณภาพ และไม่ครบวงจร ตลอดจนยังไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของมหาวิทยาลัย กล่าวคือ ขาดความเชื่อมโยงและการบูรณาการกับการจัดการเรียนการสอนทั้งการผลิตบัณฑิตสาขาแพทย์ศาสตร์และสาขาทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ และการผลิตผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด และยังทำให้เกิดความสูญเสีย หรือเกิดภาวะทางการเงินและงบประมาณเนื่องจากการบริหารทรัพยากรที่ขาดประสิทธิภาพ

จึงได้มีมติให้ปรับปรุงโครงสร้างศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเสียใหม่ โดยโอนภารกิจไปสังกัดคณะแพทยศาสตร์ และให้มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา เพื่อให้การบริหารงานของศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและโรงพยาบาลศรีนครินทร์มีความเชื่อมโยง มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ซึ่งคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้เห็นชอบด้วยแล้ว.

บัลลังก์ โรหิตเสถียร
นงศิลินี โมสิกะ
สรุป/รายงาน


More Photoes : ข่าวที่ 406/2553