ศึกษาธิการ – นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2556 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา 15.30-18.30 น. ที่ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีนางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา นำเสนอวาระการประชุม โดยมีประเด็นสำคัญต่างๆ สรุปดังนี้
1. เห็นชอบบัญชีรายชื่อการย้าย
ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ https://www.moe.go.th/websm/2013/nov/379.html
2. เห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการกรณีครูผู้ช่วยที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการ และมีการร้องทุกข์ กรณีทุจริตการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็น หรือมีเหตุพิเศษ (ว 12)
ที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องนี้มีการปฏิบัติตามมติ ก.ค.ศ.มาโดยลำดับ แต่มีความเข้าใจที่แตกต่างกันไป ซึ่ง ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้เข้าสอบคัดเลือกตำแหน่งครูผู้ช่วยที่เกี่ยวข้องกับการส่อไปในทางไม่สุจริตจำนวน 344 รายนั้น มีการดำเนินการในกรณีต่างๆ ไปแล้ว จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความชัดเจน ดังนี้
@ กรณีที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งไปแล้ว จำนวน 262 ราย
– กรณีถูกสั่งให้ออกจากราชการแล้ว และได้ร้องทุกข์ต่อ ก.ค.ศ. จำนวน 187 ราย กรณีนี้ให้มีการพิจารณาคำร้องทุกข์ตามกระบวนการขั้นตอน ตาม กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาร้องทุกข์ พ.ศ.2551 ให้เสร็จสิ้น ส่วนอีก 1 ราย ที่ไม่ได้ร้องทุกข์ ก็ไม่ต้องดำเนินการใดๆ
– อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 62 ราย ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 กล่าวคือ ให้มีการตั้งกรรมการสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหา และดำเนินการสอบสวน จนเสร็จสิ้นกระบวนการ
– มีการขอลาออกจากราชการ จำนวน 4 ราย ไม่ต้องดำเนินการใดๆ
– กรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายังไม่ดำเนินการใดๆ จำนวน 8 ราย ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 กล่าวคือ ให้มีการตั้งกรรมการสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหา และดำเนินการสอบสวน จนเสร็จสิ้นกระบวนการ
@ กรณีที่ยังไม่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง จำนวน 51 ราย ยังไม่ต้องดำเนินการใดๆ
@ กรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายังไม่รายงานผลการดำเนินการ จำนวน 8 เขตพื้นที่การศึกษา รวม 31 ราย ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 กล่าวคือ ให้มีการตั้งกรรมการสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหา และดำเนินการสอบสวน จนเสร็จสิ้นกระบวนการ
3. การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย 2,161 ราย
จากการที่
1. ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติ
2. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งจำนวน 2,161 ราย ตามที่ DSI แจ้ง
3. ให้ประสานกับสำนักเลขาธิการคุรุสภาให้ความร่วมมือกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน
4. แนวทางการตรวจสอบ ให้มีการตรวจสอบในวันสมัครคัดเลือก ว่าผู้สมัครได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่การสอนตามคำสั่งหรือสัญญาจ้างอย่างใดอย่างหนึ่งรวมกันไม่น้อยกว่า 3 ปีหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบหลักฐานในวันสมัครคัดเลือก ตรวจสอบคำสั่งหรือสัญญาว่าจ้าง ตรวจสอบหนังสือรับรองคุณสมบัติของผู้สมัคร ตรวจสอบข้อความในหนังสือรับรองคุณสมบัติ ตรวจสอบลายมือชื่อผู้รับรองเอกสาร และอื่นๆ ว่าเป็นไปโดยถูกต้องหรือไม่
5. เอกสารที่ใช้ในการตรวจสอบ ได้แก่ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกฯ ตามหนังสือ ว12 ลงวันที่ 19 เมษายน 2556 รวมทั้งมาตรฐานตำแหน่ง ตาม ว28 และแนวปฏิบัติทุกฉบับ ประกาศรับสมัคร หนังสือ DSI รวมทั้งเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
6.
4. เตรียมการสอบคัดเลือก ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบเกี่ยวกับการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง กรณีการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 19 ตำแหน่ง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการฟ้องร้องในศาลปกครองว่า ขณะนี้ผู้ฟ้องร้องได้มีการถอนฟ้องแล้ว ดังนั้น จากนี้ไป สพฐ.จะดำเนินการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อดำรงตำแหน่งที่ว่าง
โดยจะนำเรื่องนี้หารือใน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคล เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือก และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา ซึ่งมีปลัด ศธ.เป็นประธาน เพื่อดำเนินการสรรหาโดยเร็ว เนื่องจากหลายเขตพื้นที่การศึกษาไม่มีผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามาเป็นเวลานานแล้ว
5. การพิจารณา
รมว.ศธ.กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณีการประกาศผลการขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านเกณฑ์การสรรหาร้อยละ 60 เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา ในสังกัด สพฐ. ในการสอบคัดเลือกครั้งที่ผ่านมา ปี 2555 ว่าให้ใช้เกณฑ์ตัดสินร้อยละ 60 และให้ขึ้นบัญชีผู้ที่สอบผ่านร้อยละ 60 เท่ากับจำนวนตำแหน่งว่างในปัจจุบัน และตำแหน่งที่คาดว่าจะว่างจากการเกษียณอายุราชการใน 2 ปีงบประมาณ ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวทำให้ผู้ที่สอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 บางส่วนไม่ได้รับการขึ้นบัญชี โดยเชื่อว่าการคำนวณตำแหน่งว่างมีความคลาดเคลื่อน จึงเรียกร้องขอให้มีการสำรวจข้อเท็จจริง เพื่อหาอัตราว่างที่ตรงกับความเป็นจริง
ที่ประชุมได้มีมติให้ สพฐ.ไปสำรวจข้อมูลดังกล่าวให้ตรงกับความเป็นจริงที่สุดโดยเร็ว ทั้งนี้ หากได้ข้อมูลอัตราว่างมากกว่าที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ก็จะให้ประกาศขึ้นบัญชีเพิ่มเติม โดยพิจารณาเพิ่มจากผู้ที่สอบได้ร้อยละ 60 ขึ้นไปเพิ่มเติมโดยให้นับเวลาการขึ้นบัญชี 2 ปี นับตั้งแต่ที่ได้มีการประกาศขึ้นบัญชีไว้ในครั้งที่ผ่านมา
ดรุวรรณ บุญมาก
นวรัตน์ รามสูต
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
3/10/2556