พิธีมอบประกาศนียบัตร ‘ปริญญาชีวิต บัณฑิตปัจฉิมวัย’
แก่นักเรียนชราบาล ที่เชียงใหม่
โรงเรียนชราบาลวุฒิวิทยาลัย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จัดพิธีมอบ ‘ปริญญาชีวิต บัณฑิตปัจฉิมวัย’ แก่นักเรียนชราบาลในปีนี้ 350 คน ซึ่งถือเป็นต้นแบบสร้างคุณค่าให้ผู้สูงวัยถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาสู่สังคม โดยมี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559 ที่โรงเรียนชราบาลวุฒิวิทยาลัย เทศบาลตำบลเชิงดอย วัดพระธาตุดอยสะเก็ด อ.ดอยสะเก็ด ได้มีพิธีมอบประกาศนียบัตร “ปริญญาชีวิต บัณฑิตปัจฉิมวัย ประจำปี 2559” โดยมี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน โดยมีผู้สูงวัยที่จบหลักสูตรปริญญาชีวิต “บัณฑิตปัจฉิมวัย” ประจำปี 2559 ที่มีอายุรวมกันกว่า 22,734 ปี จำนวน 350 คน เข้ารับใบประกาศนียบัตร โดยมีพระราชโพธิวรคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง และเจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
นายเฉลิม สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย กล่าวรายงานถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า โรงเรียนชราบาลวุฒิวิทยาลัย เป็นสถานที่ให้ผู้สูงอายุได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถ่ายทอดประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะองค์ความรู้ภูมิปัญญาที่เป็นประโยชน์ และมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ “ถ่ายทอดภูมิปัญญา ศึกษาเทคโนโลยี แก่อย่างมีคุณค่า ชราอย่างมีคุณภาพ” ซึ่งการจัดพิธีมอบประกาศนียบัตร ประจำปี 2559 ครั้งนี้ เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ
สำหรับโรงเรียนชราบาลวุฒิวิทยาลัย จัดตั้งเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2556 มีหน่วยงานทั้งภายในและต่างประเทศได้มาเรียนรู้และศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก โดยได้รับการคัดเลือกเป็นต้นแบบระดับประเทศ ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะพระราชโพธิวรคุณ เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด ที่ให้สถานที่ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในวันนี้มีผู้เข้ารับมอบใบประกาศนียบัตร ประจำปี 2559 จำนวนทั้งสิ้น 350 คน แบ่งเป็นชาย 86 คน หญิง 264 คน ปีที่ 1 จำนวน 115 คน ปีที่ 2 จำนวน 48 คน ปีที่ 3 จำนวน 187 คน มีอายุรวมกัน 22,734 ปี นักเรียนที่มีอายุมากที่สุด คือ นางจันทร์ฟอง สุขสำราญ อายุ 93 ปี

โอกาสนี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ได้กล่าวแสดงความชื่นชมผู้สูงวัยที่จบหลักสูตร “ปริญญาชีวิต บัณฑิตปัจฉิมวัย” ได้ช่วยกันรักษาความดีต่าง ๆ ที่เป็นต้นแบบที่ดีแก่คนรุ่นหลังสืบไป รวมทั้งชื่นชมผู้บริหารเทศบาลตำบลเชิงดอยที่เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ โดยได้น้อมนำอัญเชิญกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่คณะบุคคลผู้เข้าเฝ้าฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2531 ว่า “การที่คนสมัยใหม่บอกว่า คนสมัยเก่ามีความรู้น้อยก็อาจเป็นจริง แล้วคนสมัยใหม่ดูถูกหรือเหยียดหยามคนสมัยเก่าก็มีสิทธิ์ แต่ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้ว สิทธิ์ที่จะเหยียดหยามคนรุ่นเก่าไม่ควรจะมี ด้วยเหตุว่าคนรุ่นเก่านี้เองที่ทำให้คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาได้ มีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อมาได้ ซึ่งสะท้อนได้ว่าคนรุ่นเก่ามีความสำคัญเพียงใด”
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล กล่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับทิศทางการปฏิบัติราชการในตำแหน่งใหม่ ภายหลังได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการด้วยว่า จะได้มุ่งมั่นปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถดั่งเช่นที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการมาตลอด 37 ปี โดยเฉพาะโครงการเยี่ยมเยียนและการบรรยายเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ ณ สถานศึกษาต่าง ๆ ทั้ง 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาเรียนรู้ “สืบสานพระราชปณิธาน ตามรอยพระยุคลบาท” การร่วมกันหวงแหนดำรงรักษาแผ่นดินไทยสนองคุณบรรพชน หลักการเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเอกลักษณ์ของชาติ ที่นายกรัฐมนตรีอยากแลเห็นกรอบความคิดประการนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว อันจะก่อให้เกิดความรู้รักสามัคคีของคนในชาติ ตามที่ตนได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รับราชการที่กระทรวงมหาดไทย กระทั่งได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม จังหวัดเชียงใหม่ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
จึงอยากให้สังคมได้เกิดความรับผิดชอบร่วมกันว่า ความรักสมัครสมานและความพอเพียงในชีวิตตามพระราชดำรัสคำสอนของในหลวง ถือเป็นเข็มทิศชีวิตที่จะนำพาลูกหลานเยาวชนไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ มีความแม่นยำทางหลักวิชาการ มีความแตกฉานในการต่างประเทศและการทูต เป็นคนดีและมีความรู้ความสามารถในการดำเนินชีวิต ไม่ทุจริตหรือเอารัดเอาเปรียบใครผู้ใด ซึ่งตนจะพยายามทำหน้าที่ดังกล่าวร่วมกับครูอาจารย์และลูกหลานเยาวชน พร้อมไปกับงานนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวมีความภาคภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจให้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการที่กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งถือเป็นกระทรวงหลัก มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเป็นกระทรวงเก่าแก่ของชาติ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการก่อตั้งขึ้นตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งในสมัยนั้นมีชื่อว่ากระทรวงธรรมการ
บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
ขอบคุณข้อมูลและภาพถ่ายจาก Facebook: Panadda Diskul
18/12/2559