ปรับลดกิจกรรม

ผลประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก

พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก เมื่อวันพุธที่ 10 มิถุนายน 2558 ว่า ที่ประชุมได้หารือใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ การเปิดหลักสูตร กศน. ภาคค่ำ การปรับลดกิจรรมที่ดึงนักเรียนออกจากห้องเรียน และการแก้ปัญหาการเปิดสถานบันเทิงที่ตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษา

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการติดตามนักเรียนที่ออกนอกระบบการศึกษาเพื่อไปทำงาน โดยอาจเชิญชวนให้นักเรียนกลับเข้าสู่ระบบอีกครั้งด้วยการศึกษานอกระบบของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันในการเปิดหลักสูตร กศน.ภาคค่ำสำหรับผู้เรียนที่ต้องทำงานในเวลากลางวันและไม่สะดวกที่จะเรียนในเวลานั้น จึงมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องจากสำนักงาน กศน.และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) หารือร่วมกันว่าจะมีความพร้อมในการเปิดหลักสูตรดังกล่าวมากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าหากมีการเปิดหลักสูตร กศน.ภาคค่ำก็จะเป็นผลดี เพื่อเป็นการเพิ่มความรู้และขีดความสามารถให้กับผู้ที่ออกนอกระบบการศึกษาไปแล้วได้มีโอกาสกลับมาเรียนอีกครั้ง

นอกจากนี้ จากการที่ได้มอบแนวทางปรับลดกิจกรรมที่ดึงครูและนักเรียนออกจากห้องเรียนไปแล้วว่า ในรอบปีการศึกษาควรมีกิจกรรมสำหรับครูและนักเรียนไม่เกินร้อยละ 10 หรือไม่เกิน 20 วันต่อปีการศึกษานั้น ได้เน้นย้ำที่ประชุมให้กำชับดูแลเรื่องดังกล่าวอีกครั้งเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย แม้ว่าบางกิจกรรมจะจัดขึ้นโดยกระทรวง หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องนำครูหรือนักเรียนออกนอกห้องเรียนเพื่อมาร่วมกิจกรรม

สำหรับปัญหาสถานบันเทิงที่เปิดใกล้สถานศึกษาที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ แม้ว่ากระทรวงศึกษาธิการจะไม่ได้มีอำนาจในการดูแลโดยตรง แต่ก็ได้กำชับให้ผู้บริหารองค์กรหลักเข้มงวดในการดูแลนักเรียนนักศึกษาให้มากขึ้น ทั้งในเวลาเรียนและนอกเวลาเรียน โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และ สอศ. ทั้งนี้ การกำหนดมาตรการดูแลนักเรียนนักศึกษาจะขึ้นอยู่กับสถานศึกษาแต่ละแห่งเพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสม การกำชับสถานศึกษาให้ดำเนินการต่างๆ นั้นเป็นเพียงนามธรรม ดังนั้น สถานศึกษาแต่ละแห่งจะต้องกำหนดมาตรการและดำเนินการต่อไปให้เป็นรูปธรรม ซึ่งอาจขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หากมีความจำเป็น

กุณฑิกา พัชรชานนท์
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน