จุฬาฯคว้าแชมป์นวัตกรรมต้นทางแก้ “วิกฤตน้ำ”

       เยาวชนโชว์เจ๋ง สร้างนวัตกรรมใหม่ บริหารจัดการน้ำด้วยนวัติกรรม 3R หวังจุดประกายให้คนในสังคมเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำให้มีคุณค่า เชื่อ เป็นการก้าวแรกแก้ปัญหาวิกฤตน้ำ ผลปรากฎเด็กจุฬาฯ คว้าแชมป์ ด้วยผลงาน “ระบบเพาะเลี้ยงและเพิ่มจำนวนพืช”

       ท่ามกลางสภาวะวิกฤติน้ำท่วมอย่างน่าตกใจ ที่นับเป็นอุททกภัยครั้งใหญ่ที่สุดที่ทำให้มองเห็นว่า “น้ำ”นั้นมีความสำคัญและบทบาทกับมนุษย์อย่างยิ่ง เพราะน้ำทำให้ชีวิตมนุษย์อยู่รอด และก็สามารถคร่าชีวิตได้ ฉะนั้นมนุษย์ต้องรู้จักการแก้ปัญหากันตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าภาวะจะเป็นวิกฤตน้ำท่วม ที่จะต้องจัดการระบบเขื่อน ระบบท่อ ระบบอุตุนิยมวิทยา หรือจะเป็นภาวะขาดแคลนน้ำ ก็เช่นกัน วิกฤติล่าสุดก็ได้รับความสนใจเห็นความสำคัญทางด้านการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ให้เกิดการใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

       นายเจริญสุข วรพรรณโสภาค รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวางแผนและบริการลูกค้า บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้มีการประเมินกันว่าในอนาคตเรื่องน้ำอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ที่ผ่านมาบริษัททำงานอย่างหนักในการบริหารจัดการน้ำในฝั่งอุปทาน (Supply Side Management) หรือการพยายามจัดสรรหรือหาแหล่งน้ำเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้น้ำที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
       
       “แต่ถึงวันนี้เราเริ่มพบว่า การบริหารจัดการน้ำในฝั่งอุปทานอย่างเดียวไม่พอ วิธีการเดียวที่จะทำให้การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนเกิดขึ้น ต้องทำให้ฝั่งความต้องการใช้น้ำ หรือฝั่งอุปสงค์ (Demand Side Management) ลดลงด้วย น้ำในอนาคตจะไม่มีวันพอใช้หากคนเราไม่ลดหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำหรือแม้แต่น้ำท่วมเราก็ต้องรู้จักใช้น้ำสะอาดให้ประหยัด”

       รักษาการรองกรรมการ กล่าวต่ออีกว่า การลดหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำ จึงกลายมาเป็นโจทย์ตั้งต้นของการริเริ่มโครงการประกวดนวัตกรรมจัดการน้ำด้วย 3R ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเป็นต้นแบบในการลดการใช้น้ำตลอดจนใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีคุณค่า สำหรับครัวเรือนและอุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิด 3R ได้แก่ ลดการใช้น้ำ (Reduce) ใช้ซ้ำ (Reuse) นำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle)
       
       ทั้งนี้ โครงการประกวดนวัตกรรมจัดการทรัพยากรน้ำด้วย 3R แข่งขันเป็นประเภททีม ทีมละ 2 – 5 คน โดยมีนิสิตนักศึกษาจากทั่วประเทศให้ความสนใจ ส่งผลงานนวัตกรรมเข้าประกวด จนได้ 12 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ซึ่งผลปรากฎว่าผลงาน “ระบบเพาะเลี้ยงและเพิ่มจำนวนพืช” ทีม Biounique (ไบโอยูนิค) ได้รับรางวัลชนะเลิศ และยังได้รับรางวัลความคิดสร้างสรรค์อีกหนึ่งรางวัล สมาชิกในทีมประกอบด้วย นายพีรดนย์ พักตร์เพียงจันทร์ (ต้นปาม) นางสาวกุลธิดาวัลย์ เหล่าน้อย (ปูนา) และนางสาวอรทัย คชสิทธิ์ (ปุ๋ย) นิสิตชั้นปีที่ 4 ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ผศ.เตือนใจ โก้สกุล เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

       “พีรดนย์ พักตร์เพียงจันทร์” ตัวแทนทีมแชมป์ บอกเล่าถึงผลงานว่า “ปกติแล้วการเพาะเนื้อเยื่อจะต้องใช้น้ำจำนวนมากในการล้างขวด แต่ระบบใหม่นี้สามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 10 เท่า และเพิ่มจำนวนพืชได้เร็วกว่าระบบแบบเดิม ส่วนการปลูกในแปลงจะมีการเวียนน้ำกลับมาใช้ซ้ำได้ด้วยครับ”
       

       ส่วนน้องๆ ทีม Biounique ยังบอกถึงโครงการประกวดนวัตกรรมจัดการทรัพยากรน้ำด้วย 3R ว่า “เป็นโครงการที่เปิดโอกาสแสดงความสามารถและทักษะที่เป็นนวัตกรรม ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการจัดการด้านน้ำ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญและจำเป็นต่อความอยู่รอดของทุกชีวิต หลังจากนี้ พวกเราก็จะพัฒนาโครงการเพื่อให้สามารถขยายผลเป็นต้นแบบนวัตกรรม 3R ให้กับชุมชนหรือภาคอุตสาหกรรมได้จริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการลดใช้ทรัพยากรน้ำของประเทศเรา”
       
       สำหรับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ทีม กุ้งแห้ง จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น กับผลงาน “การประยุกต์ใช้บึงประดิษฐ์เป็นสวนน้ำในบ้านพักอาศัย” ที่สร้างขึ้นเพื่อบำบัดน้ำเสียในครัวเรือน โดยการใช้พืชเป็นตัวดึงออกซิเจนลงไปในน้ำ และดูดซึมไนโตรเจนในน้ำเสียให้เป็นปุ๋ย ด้วยหลักการเลียนแบบพื้นที่ชุ่มน้ำตามธรรมชาติ
       
       รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม เทคนิคสิชล 1 จากวิทยาลัยเทคนิคสิชล จ.นครศรีธรรมราช กับผลงาน “ฝักบัวประหยัดน้ำ” ซึ่งเป็นฝักบัวที่ช่วยลดการใช้น้ำมากถึง 20 ลิตรต่อการอาบน้ำหนึ่งครั้ง ด้วยการทำงานของน้ำที่จะไหลออกมาโดยอัตโนมัติในขณะที่มีคนยืนอยู่บนแท่น และจะหยุดไหลทันทีที่ก้าวลง
       
       ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 ได้แก่ ทีม CU-HiPEAT จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับผลงาน “HiPEAT – High Performance Electrocoagulation Algae Treater” ที่เป็นระบบการกำจัดสาหร่ายในระบบน้ำประปา โดยให้น้ำไหลผ่านแผ่นโลหะสองแผ่นเพื่อให้เกิดกระแสไฟฟ้า สาหร่ายก็จะจับตัวเป็นตะกอน สามารถกวาดออกได้ง่าย ช่วยให้เกิดน้ำดีโดยไม่ต้องใช้สารเคมี

ที่มา : http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9530000147690