กระทรวงศึกษาธิการ กับการสนอง โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการศึกษา
และโรงเรียนนำร่องประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ดร.จรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขึ้นครองราชย์ แรกมีปฐมพระราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนชาวสยาม” เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นต้นมา ไม่เพียงพสกนิกรชาวไทยเท่านั้นแม้แต่ชาวต่างประเทศย่อมได้เห็นและรับทราบถึงการเสด็จฯออกเยี่ยมเยียนอาณาประชาราษฎรในทุกเขตคามด้วยพระองค์เองตลอดมา
ด้วยเหตุนี้ ทำให้พระองค์ทรงพบว่าราษฎรไทย มีปัญหาอย่างมากไม่ว่าในเรื่องด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและชลประทาน ด้านการพัฒนาที่ดิน ด้านเกษตรกรรม ด้านการศึกษา ด้านงานวิจัย ด้านการแพทย์และการ สาธารณสุข ด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ ด้านอาชีพเสริมและอื่นๆ
เหล่านี้ คือ ที่มาของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 1000 โครงการ และนับวันก็จะขยายกว้างขวางออกไปตามลำดับ
ดังนั้นการที่จะให้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต่างๆสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญอย่างมากกับการส่งเสริมการศึกษาแก่ประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคน พัฒนางาน และพัฒนาประเทศ ให้เหมาะสมกับสภาพบริบทสอดคล้องกับวิถีชีวิตของสังคมไทยและสากล ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่งที่ว่า
“…งานด้านการศึกษาเป็นงานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของชาติ เพราะความเจริญและความเสื่อมของชาตินั้นขึ้นอยู่กับการศึกษาของชาติเป็นข้อใหญ่ตามข้อเท็จจริงที่ทราบกันดีแล้วระยะนี้บ้านเมืองของเรามีพลเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งมีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้นด้วยว่า พลเมืองของเราบางส่วนเสื่อมทรามลงไปในความประพฤติและจิตใจ ซึ่งเป็นอาการที่น่าวิตก ถ้าหากยังคงเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไปเราจะเอาตัวไม่รอด ปรากฎการณ์เช่นนี้นอกจากเหตุอื่นแล้ว ต้องมีเหตุมาจากการจัดการศึกษาอย่างแน่นอน เราต้องจัดงานด้านการศึกษาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่นักศึกษาวิทยาลัยวิชาการประสานมิตร
เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๒
“…การศึกษาเป็นเครื่องมืออันสำคัญในการพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติ ทัศนคติ ค่านิยม และคุณธรรมของบุคคล เพื่อให้เป็นพลเมืองดีมีคุณภาพและประสิทธิภาพ การพัฒนาประเทศก็ย่อมทำได้สะดวกราบรื่นได้ผลที่แน่นอนและรวดเร็ว…”
แนวพระราชดำริเกี่ยวกับความหมายของการศึกษา
เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๐
พระบรมราโชวาทในหลายวโรกาส สะท้อนความหมายของการศึกษาได้เป็นอย่างดีว่า เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาประชากรของประเทศให้เป็นคนที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างครบถ้วน การศึกษาเป็นเสมือนหนึ่งเครื่องมือที่ใช้เพื่อช่วยสร้างทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้เกิดการพัฒนาอย่างครบถ้วน ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจและสติปัญญา ให้สามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมของประชาชนให้อยู่ในวิถีทางที่ถูกที่ควรตลอดการสร้างมาตรฐานในลักษณะของ “ความรู้คู่คุณธรรม” ในชีวิตของผู้เรียนด้วย
พระราชปณิธานแน่วแน่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริที่จะให้การศึกษาเป็นหนทางในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ของขาติอย่างครบถ้วน ปรากฏในพระราชกรณียกิจมากมาย อาทิ พระราชทานทุนทรัพย์ในการก่อตั้ง “โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์” ขึ้นเพื่อจัดการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนชาวเขา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดตั้งโรงเรียนสำหรับบุตรของผู้ป่วยโรคเรื้อนโดยเฉพาะ เนื่องจากพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อในขณะนั้นบังคับมิให้โรงเรียนใดรับบุตรผู้ป่วยโรคเรื้อนเข้าเป็นนักเรียน โดยปีถัดมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “โรงเรียนราชประชาสมาสัย”
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯริเริ่มก่อตั้งกองทุนการศึกษา “ทุนนวฤกษ์” ในมูลนิธิช่วยเหลือนักเรียนขาดแคลนในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยผู้ที่จบการศึกษาภาคบังคับที่มีผลการเรียนดี ความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา เป็นต้น
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัด รับสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ไปดำเนินการ ดังนี้
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
มีโรงเรียนมัธยมศึกษา(เดิม)ที่จัดเป็นโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติที่กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ จำแนกเป็น กลุ่มโรงเรียนมัธยมศึกษา ( เดิม ) ตามพระราชดำริ กลุ่มโรงเรียนมัธยมศึกษาเฉลิมพระเกียรติ และกลุ่มโรงเรียนมัธยมศึกษาที่จัดให้มีโครงการสนองพระราชดำริ
กลุ่มที่ 1 โรงเรียนมัธยมศึกษา ( เดิม )ตามพระราชดำริ จำแนกเป็น
กลุ่มโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 21 โรงเรียน
กลุ่มโรงเรียนร่มเกล้า สนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะส่งเสริมการศึกษาและความมั่นคงของชาติ แก่นักเรียนในพื้นที่ซึ่งมีปัญหาด้านความมั่นคง โดยความสนับสนุนของกองทัพบก จำนวน 6 โรงเรียน
กลุ่มโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จำนวน 6 โรงเรียน
กลุ่มโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 3 โรงเรียน
กลุ่มที่ 2 โรงเรียนมัธยมศึกษา เฉลิมพระเกียรติ จำแนกเป็น
กลุ่มโรงเรียนนวมินทราชูทิศ จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นราชสักการะ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 5 รอบ (5 ธันวาคม2530) ประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2529 จำนวน 5 โรงเรียน
กลุ่มโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ (12 สิงหาคม 2535) จำนวน 11 โรงเรียน
กลุ่มโรงเรียนรัชดาภิเษก จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ 25 ปี เมื่อ พ.ศ. 2514 จำนวน 9 โรงเรียน
กลุ่มโรงเรียนรัชมังคลาภิเษก จัดตั้งขึ้นจากโรงเรียนที่มีอยู่เดิม ให้เข้าร่วมเป็นโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ยืนนากว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ จำนวน 31 โรงเรียน
กลุ่มโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภช จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานทางการศึกษาสี่มุมเมือง ในวโรกาสที่กรุงเทพมหานครมีอายุครบ 200 ปี ในปี พ.ศ. 2525 จำนวน 4 โรงเรียน
กลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัคราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 3 รอบ ในปี พ.ศ. 2536 จำนวน 12 โรงเรียน
กลุ่มโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในมหามงคลวโรกาสที่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 50 ปี พ.ศ. 2539 จำนวน 10 โรงเรียน
โรงเรียนมัธยมศึกษาเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร จัดตั้งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ที่พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ในการศึกษาของชาติ และได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2536
กลุ่มโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อการศึกษาของชาติ ทรงส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนในทุกพื้นที่ ที่พระองค์เสร็จฯ ให้ได้รับการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมสามัญศึกษาจึงถือเป็นโอกาสที่จะได้สนองพระราชปณิธานด้วยการจัดสร้างสถานศึกษาเป็นอนุสรณ์สถาน ให้อนุชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านสืบไป จำนวน 12 โรงเรียนในทุกเขตการศึกษา
กลุ่มที่ 3 โรงเรียนมัธยมศึกษา ที่จัดให้มีโครงการสนองพระราชดำริ จำนวน 43 โรงเรียน
สำหรับกลุ่มโรงเรียนประถมศึกษาที่จัดเป็นโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ จำแนกเป็น กลุ่มโรงเรียนประถมศึกษาตามพระราชดำริ กลุ่มโรงเรียนประถมศึกษาในโครงการพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และกลุ่มโรงเรียนประถมศึกษาในโครงการด้วยรักและห่วงใย
กลุ่มที่ 1 โรงเรียนประถมศึกษาตามพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเงินให้กระทรวงศึกษาธิการ สร้างโรงเรียนประชาบาลที่ถูกพายุโซนร้อน “แฮเรียต” พัดพังเมื่อวันที่ 25-26 ตุลาคม 2505 จำนวน 12 โรงเรียน และได้พระราชทานชื่อว่า “โรงเรียนราชประชานุเคราะห์” ต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างเพิ่มขึ้นอีก มีจำนวน 19 โรงเรียน คือ
กลุ่มที่ 2 โรงเรียนประถมศึกษาในโครงการพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ซึ่งได้มีพระราชดำริให้จัดทำแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร จำนวน 111 โรง ระยะที่ 2 พ.ศ. 2540-2544 โดยมีโครงการตามพระราชดำริ 8 โครงการ คือ โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร โครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา โครงการนักเรียนในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีโครงการฝึกอาชีพ โครงการส่งเสริมสหกรณ์ และโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กลุ่มที่ 3 โรงเรียนประถมศึกษาในโครงการด้วยรักและห่วงใยในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สืบเนื่องจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยเด็กนักเรียนในระดับประถมศึกษา ที่อยู่ในพื้นที่แห้งแล้งกันดารเป็นอย่างยิ่ง ทรงมีพระราชประสงค์ให้เด็กที่ขาดแคลนอาหารกลางวันได้มีอาหารรับประทานอย่างเพียงพอและมีคุณค่าทางโภชนาการ พระองค์ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อจัดทำโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กเหล่านี้ จึงเกิดโครงการด้วยรักและห่วงใยขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2529 ที่อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ดำเนินการจัดกิจกรรม โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน และโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านต่างๆของนักเรียน ปัจจุบันมีโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในโครงการนี้ ทั้งหมด จำนวน 82 โรงเรียน
กรมการศึกษานอกโรงเรียน กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้ดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจาก
พระราชดำริ จำนวน 9 โครงการ
โครงการขยายวิทยาลัยในวังชาย ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
โครงการฝึกอบรมเยาวชนเกษตรตามโครงการพัฒนาพื้นที่ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
โครงการส่งเสริมการศึกษาโรงเรียนจรรยาอิสลาม (ปอเนาะ) บ้านศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
โครงการจัดการเรียนการสอนเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร บ้านเหมืองเต่าดำ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
โครงการพัฒนาชุมชนชาวไทยภูเขา บ้านน้ำแคะ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน โครงการจัดการศึกษาสำหรับชาวไทยภูเขา พื้นที่อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
โครงการส่งเสริมอาชีพบ้านกุดหว้า อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น
โครงการส่งเสริมอาชีพแก่คนพิการบ้านสงแดง อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีคนพิการมาแต่กำเนิดจำนวนมาก ประมาณ 200 คน และโครงการตามพระราชดำริศูนย์ฝึกอาชีพบ้านอีกุด อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
ดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 8 โครงการ ได้แก่
โครงการการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชมะเกี๋ยง โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี โครงการหวายเพื่อบริโภค โครงการอนุรักษ์พรรณไม้ท้องถิ่น โครงการรวบรวมและอนุรักษ์ผักพื้นบ้าน โครงการพัฒนาอาชีพในชนบท เขาหินซ้อน โครงการฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร และโครงการฝึกสร้างหอพักนักเรียนที่โรงเรียนมัธยมบ่อเกลือ
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
ดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 9 โครงการ ได้แก่ การสนับสนุนการปฏิบัติงานในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา และที่ห้วยทราย จ.เพชรบุรี จัดตั้งศูนย์สาธิตและขยายพันธุ์ไม้ผล ตามพระราชดำริ บริเวณปราสาทหนองหงส์ ท้ายเขื่อนลำนางรอง ตำบลโนนดินแดง อำเภอละหานทราย จ.บุรีรัมย์ การสนับสนุนงานศิลปาชีพ โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิชาชีพเกษตรกรรม บางไทร จ.อยุธยา
ร่วมสนับสนุนโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็กอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการฝึกอบรมเยาวชนเกษตร ตามโครงการพัฒนาพื้นที่วัดญานสังวรารามวรมหาวิหาร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โครงการหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา นครศรีธรรมราช โครงการทับทิมสยาม โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำบางทรายตอนบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.มุกดาหาร และโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำแม่อาว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ลำพูน
สำหรับการศึกษาพัฒนาสืบสานงานโครงการส่วนพระองค์ มี โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช เพื่อศึกษาพัฒนาอนุรักษ์พืชพรรณไม้ผล ไม้ยืนต้นที่อยู่ในพื้นที่ โครงการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ตามที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้ทรงมีพระราชดำริ โครงการหวาย กรมอาชีวศึกษา ขยายผลในการศึกษาของนักศึกษาไปสู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง
โรงเรียนนำร่องประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนนำร่องประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสังกัดศธ. 8 แห่ง จำแนกเป็นสังกัดสพฐ. ๓๘ แห่ง สังกัด กศน. ๒๐ แห่ง สังกัดสอศ.๒๔ แห่ง สังกัด กทม. 2 แห่ง สังกัด อปท. 1 แห่ง รวม ๘๕ แห่งทดลองใช้ตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นจุดเด่นในการดำเนินงาน หลากหลายโครงการที่กำลังดำเนินการอย่างจริงจัง อาทิ โครงการบูรณาการการเรียนรู้สู่วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาโรงเรียนอย่างยั่งยืน ที่บูรณาการการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนไทยและเน้นเป็นต้นแบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในระดับโรงเรียนของเทศบาลเพื่อเผยแพร่สู่องค์กร การปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ โครงการกิจกรรมสหกรณ์โรงเรียน ส่งเสริมแนวคิดสหกรณ์ให้เกิดขึ้นในโรงเรียนให้นักเรียนได้เรียนรู้และปฏิบัติจริง โครงการเกษตรครบวงจร เพื่อสนับสนุนอาหารกลางวัน โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่สนองปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่จะมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงในระดับชุมชนให้พึ่งตนเองได้โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานความรู้วิทยาการเข้าสู่ชุมชนในโรงเรียนจำนวน ๒๑ แห่ง ๒๖ หมู่บ้าน โครงการอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมและวิถีชีวิตไทย รวมไปถึงการใช้ชีวิตหรือที่เรียกว่าวิถีชีวิตของคนไทยทั้งในอดีต ปัจจุบันทั้งในเขตชุมชนเมืองและชนบท โครงการพัฒนางานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนตามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสืบสานงานพระราชดำริ เผยแพร่ความรู้จัดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชน โครงการสืบสานวิถีชีวิตสู่เศรษฐกิจพอเพียงลุ่มน้ำประแส เพื่อพลิกฟื้นลุ่มน้ำประแสให้กลับมามีสภาพที่อุดมสมบูรณ์ โดยชุมชน จะได้ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำได้ต่อไป และจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้จากแหล่งการเรียนรู้อาชีพในชุมชนลุ่มน้ำประแส โครงการธนาคารโรงเรียน ที่ฝึกให้นักเรียนได้เรียนรู้การจัดทำบัญชี รายรับ รายจ่าย และเพื่อการรู้จักออมทรัพย์ ตามแนวพระราชดำริ ฯลฯ โครงการในพระราชดำริเลี้ยงไก่แจ้ต้านภัยยาเสพติดและการทำนาสาธิต
โครงการพัฒนาครู- บุคลากร และนักเรียนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทุกอย่างพอเพียง คิดแล้วทำร่วมกัน สู่ครอบครัวและสังคมตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
โครงการนักสืบสายน้ำ โครงการโต๊ะเรียนเพื่อน้อง โครงการผักสวนครัวรั้วกินได้ โครงการกล้วย..กล้วย..กล้วย โครงการคลินิกวิชาการ โครงการสร้างผู้ประกอบการร้านซ่อมจักรยานยนต์ให้กับนักเรียน นักศึกษา ให้สามารถประกอบอาชีพอิสระของตนในท้องถิ่น โครงการเศรษฐกิจพอเพียงให้บันทึกอนุทินชีวินวิวัฒน์ คล้ายๆไดอารี่ที่จะโน้ตไว้บันทึกไว้เป็นสัตยาบันเป็นธรรมนูญของตัวเอง บันทึกประจำวันที่นำหลักธรรมทางพุทธศาสนา มาเป็นแกนหลักในการสอนให้นักเรียนรู้จักตัวเองมากขึ้น โครงการปุ๋ยชีวภาพจากเศษวัสดุและจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ โครงการหาราได้ระหว่างเรียน โครงการชีววิถี โครงการอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมและภูมิทัศน์ในโรงเรียนเครือข่ายการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ
โครงการวิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ งานไม้ประดับตกแต่งบูรณาการวิชาชีพเน้นให้ผู้เรียนเกิดความตระหนักสู่การปฏิบัติ พัฒนาครู- บุคลากรเป็นแบบอย่างโดยยึดหลักความพอเพียงแบบยั่งยืน
โครงการสร้างผู้ประกอบการร้านซ่อมจักรยานยนต์ให้กับนักเรียน นักศึกษา ให้สามารถประกอบอาชีพอิสระของตนในท้องถิ่น
โครงการปุ๋ยชีวภาพจากเศษวัสดุและจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ โครงการหาราได้ระหว่างเรียน โครงการชีววิถี โครงการอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมและภูมิทัศน์ในโรงเรียนเครือข่าย และ สถานศึกษาดีเด่น “ร่วมใจสู้ภัยเศรษฐกิจ” การบูรณาการวิชาชีพสู่การปฏิบัติ การบริการชุมชน
เรื่องราวดีๆเกี่ยวกับงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโรงเรียนนำร่องประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งหมดนี้สืบค้นรายละเอียดได้จาก www.moe.go.th
โปรย๑
“…งานด้านการศึกษาเป็นงานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของชาติ เพราะความเจริญและความเสื่อมของชาตินั้นขึ้นอยู่กับการศึกษาของชาติเป็นข้อใหญ่ตามข้อเท็จจริงที่ทราบกันดีแล้วระยะนี้บ้านเมืองของเรามีพลเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งมีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้นด้วยว่า พลเมืองของเราบางส่วนเสื่อมทรามลงไปในความประพฤติและจิตใจ ซึ่งเป็นอาการที่น่าวิตก ถ้าหากยังคงเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไปเราจะเอาตัวไม่รอด ปรากฎการณ์เช่นนี้นอกจากเหตุอื่นแล้ว ต้องมีเหตุมาจากการจัดการศึกษาอย่างแน่นอน เราต้องจัดงานด้านการศึกษาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น…”
พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่นักศึกษาวิทยาลัยวิชาการประสานมิตร
เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๒
โปรย ๒
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ ต่างรับสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ไปดำเนินการหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนนำร่องประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สังกัดศธ. 8๒แห่ง จำแนกเป็นสังกัดสพฐ. ๓๘ แห่ง สังกัด กศน. ๒๐ แห่ง สังกัดสอศ.๒๔ แห่ง สังกัด กทม. 2 แห่ง สังกัด อปท. 1 แห่ง รวม ๘๕ แห่งทดลองใช้ตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นจุดเด่นในการดำเนินงาน หลากหลายโครงการที่กำลังดำเนินการอย่างจริงจัง