15 พฤศจิกายน 2568 – นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกล่าวปาฐกถาในการประชุมด้านการสร้างระบบการศึกษาภาษาจีนในยุคปัญญาประดิษฐ์
หัวข้อพัฒนาการและประสบการณ์ด้านการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ปลัด ศธ. กล่าว ในฐานะผู้กำกับดูแลงานนโยบายและการบริหารของกระทรวงศึกษาว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อที่ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบันและมีความสำคัญคือ “การสร้างระบบการศึกษาภาษาจีนในยุคปัญญาประดิษฐ์” หากกล่าวถึง “พัฒนาการและประสบการณ์ด้านการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย” คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนมีบทบาทเพิ่มขึ้นในเวทีโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี และการศึกษา ภาษาจีนจึงมิใช่เพียงแค่ภาษาต่างประเทศทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็น “ภาษาแห่งโอกาส” ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความร่วมมือเชิงลึก และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลก
กระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยให้ความสำคัญกับการจัดการเรียน
การสอนภาษาจีนอย่างเป็นระบบ เพื่อตอบสนองต่อกระแสความต้องการของผู้เรียนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีพัฒนาการความก้าวหน้า โดยได้บรรจุภาษาจีนไว้ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทำให้นักเรียนไทยสามารถเลือกเรียนภาษาจีนได้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการวางรากฐานทางภาษาที่มั่นคง โดยได้กำหนด นโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาจีนโดยมุ่งเน้นการสื่อสาร ฟัง พูด อ่าน เขียน สอดคล้องกับบริบทและความต้องการ
ของแต่ละพื้นที่ และได้รับความร่วมมือในการจัดส่งครูอาสาสมัครสอนภาษาจีน และ ครูผู้ช่วยสอนชาวจีน (จากฝูเจี้ยน และกุ้ยโจว) มาปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนไทยทั่วประเทศ เป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มจำนวนและคุณภาพของครูผู้สอน ทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานมากขึ้น
จากนี้ไปประเทศไทยจะยังคงสานต่อความร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างแนบแน่น พร้อมทั้งมุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้ภาษาจีนเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนมาโดยตลอด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบนิเวศน์การเรียนรู้ภาษาจีนที่เข้มแข็งและทันสมัยยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จากความมุ่งมั่นและพัฒนาความร่วมมือ ประเทศไทยได้รับประสบการณ์และผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ดังนี้
- การขยายโอกาสการเรียนรู้
มีการเปิดห้องเรียนพิเศษภาษาจีน (Chinese Program) และห้องเรียนปกติที่เปิดสอนภาษาจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโรงเรียนเอกชน ทำให้ผู้เรียนมีทางเลือกและโอกาสในการเข้าถึงการเรียนภาษาจีนที่มีคุณภาพ - การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
เครื่องมือหลักในการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนเพื่อรับมือกับยุค “ดิจิทัล”เพื่อช่วยในการฝึกทักษะการฟังและการพูด รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ภาษาจีนคุณภาพสูง ซึ่งช่วยขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้กว้างขวางไร้ข้อจำกัด - การยกระดับคุณภาพครูและการใช้บุคลากรจีน
มีการจัดค่ายฝึกอบรมเข้มข้น และการสนับสนุนการเข้ารับการทดสอบวัดระดับความรู้และใบรับรองคุณภาพครูภาษาจีนนานาชาติ โดยครูอาสาสมัครและครูผู้ช่วยสอนชาวจีนถือเป็นกำลังสำคัญในการถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และวัฒนธรรมที่เป็นของแท้ ให้กับนักเรียนไทยได้อย่างมีประสิทธิผล - การประเมินมาตรฐานสากล
มีการส่งเสริมการทดสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำผลไปใช้ในการศึกษาต่อและการทำงานในระดับโลก รวมถึงการจัดสอบแบบอินเทอร์เน็ตที่ใช้เทคโนโลยีเป็นกลไกสำคัญสำหรับความท้าทายในปัจจุบัน คือ การขับเคลื่อนการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ กระทรวงศึกษาธิการจึงมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะ 3 ภาษาได้แก่ ไทย อังกฤษ และจีน ควบคู่กับ ทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเสริมสร้างกำลังคน ที่มีสมรรถนะสูง พร้อมแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก
รูปภาพเพิ่มเติม https://www.facebook.com/share/p/1Fya348WsP/?mibextid=wwXIfr
พบพร ผดุงพล / ข่าว , กราฟิก
สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สป. ศธ. / ภาพ , ข้อมูล
