SCG Excellent Internship ปันโอกาสให้นิสิตฝึกงานจริง สร้างผลงานจริง

SCG Excellent Internship ปันโอกาสให้นิสิตฝึกงานจริง สร้างผลงานจริง

          เอสซีจีถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์กรนวัตกรรมแห่งการสร้างคน ดังนั้น ทุกปิดเทอมจะมีนิสิตนักศึกษามาขอฝึกงานเป็นจำนวนมาก

          ภายใต้โครงการSCG Excellent Internship ในปีนี้เอสซีจีจึงขอขีดเส้นรับนักศึกษาจากทั่วประเทศเพียง200 คน เพื่อให้สามารถพัฒนาศักยภาพเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดีที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

          “กิติ มาดิลกโกวิท”หรือพี่เบนซ์ผู้อำนวยการสำนักงานบุคคลกลาง บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) บอกเล่าถึงโครงการดี ๆ นี้ว่า ที่ผ่านมาเอสซีจีได้เปิดรับนักศึกษาฝึกงานอย่างต่อเนื่องมา30-40 ปีแล้ว โดยจะรับนักศึกษาฝึกงานจากหลายช่องทาง มีทั้งเด็กที่เดินเข้ามาติดต่อเองอาจารย์ติดต่อเข้ามา ญาติพี่น้องที่ทำงานในเอสซีจีแนะนำเข้ามา หรือแม้กระทั่งลูกค้า
          ผู้มีอุปการคุณฝากเข้ามา

          และเมื่อ10 ที่แล้วได้เปิดเป็นโครงการSCG Excellent Internship ขึ้น ปรากฏว่า
          มีนักศึกษาสมัครเข้ามาฝึกงานเป็น1,000 คน แต่รับได้ประมาณครั้งละ50 คน

          ในวันนั้นผู้บริหารจึงมานั่งคิดกันว่าเราน่าจะรับผ่านช่องทางเดียว แล้วทำทุกอย่างให้เป็นระบบมากขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
          มาในปีนี้เอสซีจีจึงเปิดรับนักศึกษาฝึกงานผ่านโครงการSCG Excellent Internship เพียงช่องทางเดียวทั้งหมด200 คน แต่ก็ยังยืดหยุ่นให้กับผู้มีอุปการคุณส่วนหนึ่ง

          โดยโปรแกรมฝึกงานได้พัฒนาให้มีมาตรฐานมากขึ้น มีการปฐมนิเทศ มีแคมป์ให้น้อง ๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วจัดพี่เลี้ยงคอยดูแลการฝึกงานอย่างใกล้ชิด

          นอกจากนั้นยังมีโปรเจ็กต์ให้น้องฝึกงานได้ทำ ที่เป็นไฮไลต์คือกิจกรรมInnovative Suggestion Contest ที่เปิดโอกาสให้น้อง ๆ เสนอโครงการความคิดสร้างสรรค์ชิงทุนการศึกษา รวมมูลค่ากว่า120,000 บาท

          แบ่งเป็นรางวัลละ10,000 บาท ซึ่งนักศึกษามีสิทธิเลือกที่จะทำโครงการในลักษณะบุคคล หรือทำเป็นทีมก็ได้
          “ตรงนี้จะทำให้นักศึกษาฝึกงานได้มีโอกาสแสดงศักยภาพที่โดดเด่นของตัวเองออกมา และองค์กรก็สามารถนำอินโนเวชั่นเหล่านี้ไปพัฒนาประยุกต์ใช้กับองค์กรได้”

          “ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายโปรเจ็กต์ที่น้อง ๆเสนอ แล้วองค์กรนำมาพัฒนาใช้งานจริงเช่นGL (General Ledger) เป็นโปรแกรมการปรับปรุงระบบงานในเรื่องของบัญชี หรือรถมินิซีแพคกระเบื้องที่ใช้กาวทาแทนใช้ปูนเพื่อให้สะดวกกับการใช้งาน”
          นอกจากนั้นแล้ว โครงการSCG Excellent Internship ยังส่งเสริมให้น้อง ๆ ทำกิจกรรม CSR Activity โดยเปิดโอกาสให้น้อง ๆ รวมตัวกันไปทำโครงการCSR ด้วยตัวเองในงบประมาณดำเนินการ100,000 บาท

          “กิติ” บอกว่า สิ่งที่โครงการSCG Excellent Internship เน้นมาก คือการให้นิสิตนักศึกษาได้ฝึกงานจริง ทำงานจริงและมีผลงานจริง โดยมีพี่เลี้ยงคอยสอนงาน

          และให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัวอย่างดี
          ตลอดระยะเวลาการฝึกงาน
          ไม่เพียงเท่านั้น ยังจัดให้มีฝึกอบรมเรื่องCorporate
          Governance (CG) ใน
          ห้องเรียนแล้วสอดแทรก
          เรื่องCG ในทุกกิจกรรมที่น้อง ๆ ทำ
          และให้น้อง ๆ ได้สัมผัสการบริหารงาน โดยยึดหลักบรรษัทภิบาล จากการที่ได้ฝึกงานจริงในหน่วยงานต่าง ๆ และมีการจัด
          อบรมความรู้พื้นฐานทาง
          ธุรกิจ มีการจัดกิจกรรม

          เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการสร้าง  เครือข่ายที่เข้มแข็ง
          “Corporate government ถือเป็นหัวใจสำคัญที่เราย้ำ เพราะเรามองว่าตรงนี้คือความแตกต่างเพราะที่อื่นอาจจะเน้นเรื่องงานแต่ที่เอสซีจีเน้นอยากให้คนเป็นคนดี

          เสียงเล็ก ๆ จากผู้ร่วมโครงการ
          “นันทพร แย้มจั่น”นักศึกษาฝึกงานในส่วนฝ่ายบัญชีกลาง จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เล่าว่า ในช่วงแรกที่เข้ามาฝึกงานกับเอสซีจี ก็รู้สึกเกรง เพราะว่าเป็นองค์กรใหญ่ แต่พอเข้ามาฝึกงานจริง ๆก็ผ่อนคลายลง เพราะพี่ ๆ จะสอนงานเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่มีกั๊กข้อมูลอย่างเรื่องการเสนอInno พี่ ๆ ก็จะช่วยชี้แนะ ช่วยดูให้

          เมื่อถามถึงสิ่งที่อยากได้จากการมาฝึกงานกับเอสซีจีในครั้งนี้ “นันทพร”บอกว่า อย่างน้อยก็ต้องได้ความรู้ และสิ่ง ที่น่าจะได้ติดตัวกลับไปอีกอย่างหนึ่งคือวัฒนธรรมองค์กรซึ่งจะนำไปปรับใช้ที่

          มหาวิทยาลัย
          เช่นเดียวกับ”ชวาลวงศ์ กิตติยศยิ่งยง”นักศึกษาฝึกงานในส่วนสำนักงานบุคคลกลาง จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกเล่าถึงความรู้สึกว่า

          การมาฝึกงานครั้งนี้ อยากเรียนรู้การปฏิบัติงานจริง ไม่ใช่การถ่ายเอกสาร หรือจัดเอกสาร ตามวัตถุประสงค์ที่สนใจตรงนี้ คือเราได้เรียนรู้งานจริง ปฏิบัติจริง แล้วได้เจอพี่ ๆ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร การมาฝึกงานในองค์กรที่ใหญ่ ช่วยให้เรามีมาตรฐานในการทำงาน พอเราไปทำงานในองค์กรที่เล็ก เราก็สามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้นแล้วมีมาตรฐานในการทำงานที่ดี

          ซึ่งไม่ต่างจาก”พัทธนันท์เรืองตระการ”นักศึกษาฝึกงานในฝ่ายการตลาด SCG Network จากมหาวิทยาลัยราชมงคลกรุงเทพ บอกว่าอยากเรียนรู้การทำงานจริง เพราะโดยปกติ การเรียนอยู่ในห้องเรียนก็ทำให้เรารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เหมือนกับว่ายังมีจิ๊กซอว์บางตัวที่ขาดหายไป เมื่อมี

          โอกาสเข้ามาฝึกงานกับเอสซีจี จึงเหมือนกับเราได้จิ๊กซอว์ตัวที่ขาดหายไปมาต่อทำให้กระบวนการเรียนรู้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น มองเห็นชัดขึ้น ว่าเรื่องไหนเป็นอะไร ดังนั้น สิ่งที่อยากได้จากการฝึกงานในครั้งนี้ คือการทำงานจริงซึ่งจะเข้ามาเชื่อมต่อกับทฤษฎีต่าง ๆ ที่เรียนมาคำว่าเป็นคนดี คือให้เรียนรู้ว่า  ในเอสซีจีเราทำธุรกิจอย่างไร เราโปร่งใสอย่างไรเรามีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไร น้องที่มาฝึกงานที่นี้ถือว่าโชคดีกว่าองค์กรอื่น ๆเพราะพี่กานต์(กานต์ ตระกูลฮุน) จะลงมาพูดคุยกับน้อง ๆ ด้วยตัวเองในวันปฐมนิเทศซึ่งองค์กรใหญ่ ๆ น้องฝึกงานแทบไม่มีโอกาสอย่างนี้”

          แม้ว่า “กิติ” จะบอกว่าไม่ได้คาดหวังว่านักศึกษาฝึกงานจำนวน200 คนจะต้องกลับเข้ามาทำงานกับเอสซีจี100 เปอร์เซ็นต์ การดำเนินโครงการSCG Excellent Internship ก็เพื่อช่วยสถาบันการศึกษาสร้างคนที่มีศักยภาพ แต่ก็ไม่ได้ปิดประตูน้อง ๆ ไม่ได้ปิดโอกาสองค์กร

          ในระหว่างการฝึกงาน ถ้าน้องคนไหนที่ฝึกงานแล้วหน่วยก้านดี เมื่อจบแล้วอยากทำงานกับเอสซีจี องค์กรนี้ก็ยินดีอ้าแขนรับทันที บางคนมีการตีตราจองล่วงหน้าด้วยซ้ำ

          ซึ่งที่ผ่านมา นิสิตนักศึกษาที่ฝึกงานกับเอสซีจีมีสัดส่วนถึง20-30 เปอร์เซ็นต์ที่กลับมาทำงานให้กับเอสซีจี ส่วนที่เหลือใช่
          ว่าไม่สนใจ แต่เป็นเพราะคนส่วนหนึ่งต้องไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท บางส่วนบริษัทไม่มีตำแหน่งงานว่างตรงกับสิ่งที่บัณฑิตใหม่อยากทำ

          “ทุก ๆ ปี ก่อนถึงเทศกาลรับนักศึกษาฝึกงานที่เอสซีจีกลาง จะมีการสำรวจความต้องการขององค์กรธุรกิจในเครือข่ายทั่วประเทศว่าแต่ละองค์กรต้องการนักศึกษาฝึกงานในส่วนไหนบ้าง สาขาที่เปิดรับจึงค่อนข้างกว้างและหลากหลาย โดยจะให้น้ำหนักกับนักศึกษาในคณะวิศวกรรมศาสตร์มากหน่อย เพราะธุรกิจของเอสซีจีส่วนใหญ่เป็นเคมิคอล รองลงมาเป็นบริหารธุรกิจส่วนสาขาอื่น ๆ ก็มีความต้องการเช่นกันไม่ว่าจะเป็นคณะวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์นิเทศศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมศาสตร์ และสาขาอื่น ๆ ตามที่องค์กรธุรกิจเสนอมา”

          “กิติ” บอกว่า นักศึกษาที่สมัครเข้าร่วมโครงการทุกคนจะต้องผ่านเกณฑ์เดียวกันนอกจากจะต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า3.00 แล้วยังต้องสอบข้อเขียน ซึ่งจะมีทั้งเรื่องความรู้ทั่วไป ความรู้เบื้องต้นทางธุรกิจ และภาษาอังกฤษ เด็กกลุ่มนี้จึงถือว่าเป็นเด็กหัวกะทิที่มีความมุ่งมั่นที่จะมาฝึกงานและกระหายความรู้จริง ๆ

          ช่วง2 เดือน ตั้งแต่22 มีนาคม ถึง24 พฤษภาคม 2553 แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่นักศึกษาจะได้ฝึกงานกับเอสซีจี แต่ทุกคนก็เต็มอิ่ม เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้การทำงานขององค์กรขนาดใหญ่ รับรู้ถึงวัฒนธรรมที่ดีงามของบริษัทที่โดดเด่นเรื่องธรรมาภิบาล

          นักศึกษาทุกคนที่มาฝึกงานที่นี่ยังจะได้รับเบี้ยเลี้ยงอีกคนละ300 บาทต่อวัน และถ้าคนไหนต้องไปประจำต่างจังหวัดนอกจากจะได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศการทำงานต่างพื้นที่แล้ว องค์กรแห่งนี้ยังจัดที่พักและรถรับส่งให้ฟรีงานนี้เรียกว่าได้กับได้ทั้งผู้ให้และผู้รับ

          โครงการ SCG Excellent Internship ยังส่งเสริมให้น้อง ๆ ทำกิจกรรม
          CSR Activity โดยเปิดโอกาสให้น้อง ๆ รวมตัวกันไปทำโครงการ CSR

          แหล่งที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 22 – 25 เม.ย. 2553–