One Tablet per Child




ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล – ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีเปิดโครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย “One Tablet per Child : OTPC” เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2555









 src=

รมว.ศธ.กล่าวในนามประธานคณะกรรมการบริหารนโยบาย ๑ คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ ๑ นักเรียน ว่า นับตั้งแต่ได้รับมอบนโยบายพร้อมคำขวัญ “เติมปัญญาด้วยเทคโนโลยี” จากนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ได้ประชุมหารือ วางแผน และดำเนินงานเรื่องแท็บเล็ตมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ภารกิจใหญ่ ๔ ประการ คือ การจัดหาแท็บเล็ตพีซีและการบริหารจัดการ การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนอิเล็กทรอนิกส์ การพัฒนาครูและบุคลากร และการพัฒนาระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดย ICT เป็นผู้ดำเนินการจัดหาเครื่องแท็บเล็ตพีซี และ ศธ.โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้ดูแลเรื่องหลักสูตร การพัฒนาบุคลากรและการจัดส่งสู่มือผู้เรียน ซึ่งที่ผ่านมา การจัดหาแท็บเล็ตพีซี ได้ดำเนินการจนถึงการส่งมอบเครื่องจำนวน ๒,๐๐๐ เครื่อง สำหรับใช้ในการอบรมวิทยากรแกนนำในทุกพื้นที่ ให้มีความพร้อมในการพัฒนาครูกว่า ๕๐,๐๐๐ คน ที่จะนำสู่การส่งเสริมเด็กให้ใช้ของขวัญชิ้นนี้ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ

รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า วันนี้เครื่องแท็บเล็ตพีซี จำนวน ๒,๐๐๐ เครื่อง ได้มาถึงเมืองไทยแล้ว และได้มาอยู่ ณ ที่นี้กว่า ๑,๐๐๐ เครื่อง ซึ่งพร้อมที่จะให้สื่อมวลชน ประชาชน และผู้ปกครองได้พิสูจน์ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๒ จากโรงเรียนในบริบทต่างกัน มาช่วยย้ำให้เห็นว่า แท็บเล็ตพีซีสามารถกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียนได้ดีเพียงใด

และขอกล่าวย้ำความมั่นใจในนโยบายของนายกรัฐมนตรี เรื่องการให้เด็กชั้น ป.๑ ได้ใช้เครื่องแท็บเล็ตพีซี เป็นเครื่องมือส่งเสริมการเรียนรู้ ว่า ในหลายประเทศ เช่น เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา ได้มีโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการการใช้เครื่องแท็บเล็ตพีซีกับเด็กชั้น ป.๑ ใน ๒ ปีที่ผ่านมา ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เป็นการเปิดมิติใหม่ของการเรียนรู้ของนักเรียน และยังพบอีกว่า เครื่องแท็บเล็ตพีซีทำให้นักเรียนใช้เวลาเพื่อการเรียนรู้มากขึ้น เช่น การฝึกอ่าน ฝึกเขียน การฝึกสรุป การสร้างองค์ความรู้ และการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน นอกจากนี้ ยังใช้ในการวัดผลและประเมินผล เพื่อทำให้ทราบความก้าวหน้าเป็นรายบุคคล หลังจากที่ใช้มาเป็นเวลา ๒ ปี เมืองชิคาโกจึงมีแผนที่จะขยายไปยังโรงเรียนอย่างเต็มที่

ขณะนี้ “แท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย” เกิดขึ้นจริง และประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมนำประโยชน์สู่ลูกหลานของเรา การจัดงานเปิดตัวโครงการในวันนี้ จะเป็นสัญลักษณ์หนึ่งในการยืนยันถึงความพร้อมในทุกด้าน อย่างไรก็ตาม งานด้านการพัฒนาก็จะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่ง ศธ.ขอสัญญาต่อนายกรัฐมนตรีและประชาชนว่า จะให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง 

นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดตอนหนึ่งว่า โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย เป็นโครงการ ๑ ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่เกิดเป็นรูปธรรม พร้อมกล่าวขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันดำเนินการทั้งในส่วนของเนื้อหา การจัดซื้อจัดจ้างในราคาที่เหมาะสมและมีคุณภาพ ซึ่งรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเด็กไทยที่จะให้มีการปลูกฝังตั้งแต่เด็กให้มีพัฒนาการที่ดี เพราะจะทำให้เด็กเรียนรู้ได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ซึ่งอยู่ในช่วงวัยที่จะเรียนรู้ได้ควบคู่กับการเตรียมปรับตัวไปกับเทคโนโลยี ซึ่งจะดีกว่าการไปเรียนข้างนอกอาจจะไม่ได้มีการถูกขัดเกลาในส่วนที่ถูกต้อง

โครงการดังกล่าวไม่ใช่โครงการที่แจกแท็บเล็ตพีซีเท่านั้น แต่เป็นโครงการที่เติมภูมิปัญญา ภูมิความรู้ให้กับเด็กไทย ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการมุ่งที่จะพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรการศึกษา เพื่อพัฒนาการเจริญเติบโตทางสมอง คลังความรู้ การพัฒนาของเด็กและเยาวชน ทั้งในเรื่องของความรู้รอบตัวทุกๆ ด้าน รวมถึงเทคโนโลยีที่ไร้ขีดจำกัด แม้ว่าจะเป็นรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นและเติบโตในอนาคต ซึ่งการใช้แท็บเล็ตพีซีนี้ จะต้องมีการอบรมทั้งครู ผู้ปกครอง และเด็ก ให้รู้จักการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง ถูกวิธี และเหมาะสม 

สำหรับแท็บเล็ตพีซี มีระบบป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เป็นประโยชน์ เนื้อหาของหลักสูตรจะเข้าตามรูปแบบของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่เนื้อหาแรกที่เหมือนในหลักสูตรหนังสือเรียน ซึ่งอาจจะไปช่วยชดเชยในส่วนของเด็กที่อยู่ต่างจังหวัดที่ไม่มีโอกาส มีเงินในการซื้อหนังสือเรียน นอกจากนี้ยังเติมเนื้อหาที่เป็นรูปแบบของมัลติมีเดีย สื่อทางด้านภาพ เสียงและวีดิโอ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม ครูในฐานะที่เปรียบเสมือนแม่พิมพ์ของชาติ ต้องช่วยนำสื่อเสริมการเรียนการสอนครั้งนี้ เข้าไปใช้ในหลักสูตรการเรียนการสอน พร้อมทั้งได้มอบเครื่องแท็บเล็ตพีซีให้กับครูเพื่อที่จะนำไปศึกษา และนำไปใช้สอน พร้อมทั้งขอให้บันทึกพัฒนาการของเด็กว่ามีความรู้ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการนำสื่อการเรียนการสอนนี้ไปเติมภูมิปัญญาของเด็กไทย เพื่อเติมความแข็งแรงของประเทศไทยต่อไป

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบแท็บเล็ตพีซีให้กับตัวแทนนักเรียนและวิทยากรหลักทั่วประเทศ พร้อมทั้งถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกันกับคณะผู้บริหารโครงการ รวมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการการใช้แท็บเล็ตพีซีในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วย

นวรัตน์ รามสูต
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน


More Photos : ข่าวที่ 151/2555