รมว.ศธ. “นฤมล” ลุยพัทลุง ดัน 3 นโยบายเพื่อครูไทย “ลดภาระงาน เร่งแก้หนี้ เพิ่มทางเลือกเลื่อนวิทยฐานะ”

จังหวัดพัทลุง – 9 พฤศจิกายน 2568/ ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและอุปสรรค ติดตามผลการขับเคลื่อนงานด้านการศึกษา พร้อมหารือกับผู้บริหารหน่วยงานการศึกษา เพื่อเร่งยกระดับคุณภาพสถานศึกษา ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ ณ ห้องประชุมวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง

พร้อมด้วย นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด.ศธ. นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการ กพฐ. นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ รองเลขาธิการ กอศ. นายสุภชัย จันปุ่ม รองเลขาธิการ สกศ. ตลอดจนคณะผู้บริหาร ศธ. ครู บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุมได้มีการยืนสงบนิ่ง เพื่อถวายความอาลัย และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

รมว.ศธ. กล่าวว่า ในโอกาสที่ผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการได้ลงพื้นที่ร่วมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะอย่างใกล้ชิด ตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่มีประเด็นท้าทายที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่มีลักษณะร่วมกันคือเรื่อง “วิทยฐานะครู” ซึ่ง ศธ. ได้ดำเนินการเพิ่มทางเลือกในการประเมิน โดยยังคงหลักเกณฑ์เดิมไว้ และเพิ่มเติมทางเลือกใหม่ คือการนำเสนอผลงานวิจัยที่โดดเด่น มีนวัตกรรม และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในสถานศึกษา การยื่นขอประเมินโดยใช้ผลงานที่มีรางวัลระดับประเทศที่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งการดำเนินงานมีขั้นตอนและผลลัพธ์ชัดเจน สามารถใช้ได้จริง “นี่คือ 3 ทางเลือกที่จะช่วยปลดล็อค และเพิ่มความก้าวหน้าให้แก่ครูทุกท่าน”

การปรับปรุงเกณฑ์การประเมินฯ ก็ควรมาพร้อมกับการปรับปรุงกระบวนการประเมิน โดยคณะกรรมการประเมินควรเป็นผู้ที่มาจากหน่วยงานในสังกัดเดียวกัน เพื่อให้เข้าใจโครงสร้างงานและภารกิจได้อย่างถูกต้องตรงประเด็น ทั้งในสังกัด สพฐ. สกศ. รวมถึง สช. เพื่อให้ครูเอกชนมีช่องทางความก้าวหน้าที่เท่าเทียมกัน

อีกนโยบายสำคัญคือ “การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู” ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ได้แสดงความห่วงใยด้านสวัสดิการครู และมอบหมายให้เร่งดำเนินการ โดย ศธ. และ สกสค. ได้ร่วมกันจัดทำข้อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดตั้ง “สหกรณ์กลาง” โดยมีเป้าหมายดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ปีแรก 0% ปีที่ 2 อัตรา 1% ปีที่ 3 อัตรา 2% ปีที่ 4 อัตรา 3% และตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป อัตราคงที่ 4% เริ่มต้นวงเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งอาจยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญเพื่อลดภาระหนี้สินครูในระยะยาว

การคืนตำแหน่งครูธุรการเพื่อแบ่งเบาภาระงานเอกสารให้ครูสามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่สอนได้เต็มที่ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 2,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน สำนักงาน ก.ค.ศ. อยู่ระหว่างปรับเกณฑ์การจัดอัตรากำลังเพื่อให้โรงเรียนขนาดเล็กมีครูธุรการอย่างเพียงพอ

สำหรับเรื่องอาหารกลางวันของนักเรียนโรงเรียนเอกชน กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอของบประมาณ 3,900 ล้านบาทต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนค่าอาหารกลางวัน เนื่องจากนักเรียนโรงเรียนเอกชนควรได้รับสิทธิเช่นเดียวกัน รวมถึงครูและบุคลากรทางการศึกษาเอกชนต้องได้รับการดูแลด้านสวัสดิการไม่ต่างจากครู สพฐ.

“กระทรวงศึกษาธิการจะพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแล แก้ไขปัญหา และสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการศึกษาทุกภาคส่วน เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพการศึกษาบรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม”

อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว-กราฟิก
ธนภัทร จันทร์ห้างหว้า / ภาพ
ศศิวัฒน์ แป้นคุ้มญาติ / วิดีโอ