ยะลา ปัตตานี มีเฮ! รมว.ศธ. “นฤมล“ ลงพื้นที่ 2 จังหวัด รุกพัฒนาคุณภาพการศึกษา เดินหน้าส่งเสริมสวัสดิการครูทั้งระบบ

จังหวัดปัตตานี ยะลา – 8 พฤศจิกายน 2568 / ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รอง นรม.และรมว.กษ.) นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) ลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดปัตตานีและยะลา เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรค ติดตามผลการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ณ สถาบันการศึกษาสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนดรุณศาสน์วิทยา ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ต.สะเตง อ.เมืองยะลา

พร้อมด้วยนายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการ กพฐ. นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. นางเกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดี สกร. นายธนู ขวัญเดช เลขาธิการ ก.ค.ศ. นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการ กช. นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ รองเลขาธิการ กอศ. นายสุภชัย จันปุ่ม รองเลขาธิการ สกศ. นายชูสิน วรเดช ผตร.ศธ. ผู้บริหาร ศธ. ครู บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วม ทั้งนี้ก่อนเริ่มการประชุมได้มีการยืนสงบนิ่ง 93 วินาที ถวายความอาลัย น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

โรงเรียนดรุณศาสน์วิทยา

ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้มอบทุนการศึกษาให้แก่ทายาทผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจและช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ซึ่ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นถือเป็นพื้นที่ที่มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ จากที่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีของพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งส่วนใหญ่สามารถเสนอขอรับการจัดสรรในพระราชบัญญัติงบประมาณได้

สำหรับโครงการสนับสนุนอาหารกลางวันแก่นักเรียนโรงเรียนเอกชน โดยกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอเรื่องต่อรองนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเข้าระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว และจะเข้าสู่การพิจารณาต่อไป โดยมีวงเงินงบประมาณกว่า 3,900 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ก็ขอฝากให้ทุกคนในพื้นที่ทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน เพราะหลายคนยังเข้าใจผิดว่า เด็กโรงเรียนเอกชนคือเด็กมีฐานะ ทั้งที่ความจริงแล้วยังมีหลายแห่งที่ขาดแคลน

ทั้งโรงเรียนเอกชนการกุศลและโรงเรียนศาสนาหลายแห่งมีเด็กยากจนจำนวนมาก จึงควรได้รับสิทธิ์อาหารกลางวันเช่นเดียวกับโรงเรียนของรัฐ เพราะหลักการคือเด็กทุกคนต้องเข้าถึงอาหารกลางวันอย่างเท่าเทียม ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เด็กในพื้นที่ชายแดนใต้จำนวนมากไม่ได้รับประทานอาหารเช้า ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญต่อพัฒนาการและสติปัญญาของเด็ก ซึ่งกระทรวงจะพิจารณาแนวทางให้เด็กในพื้นที่ได้เข้าถึงโภชนาการครบถ้วน

ในส่วนของบ้านพักครู ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติหลักการพัฒนาบ้านพักครูทั่วประเทศ โดยจะให้การเคหะแห่งชาติเข้ามาช่วยดำเนินการสร้างและปรับปรุง ซึ่งจังหวัดปัตตานีจะถูกบรรจุเป็นจังหวัดนำร่องเพิ่มเติมหลังจากดำเนินการใน 8 จังหวัดแรกแล้ว (โรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ อุดรธานี อุบลราชธานี กำแพงเพชร ตราด กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี และปทุมธานี) นอกจากนี้ยังมีการหารือเรื่องการจัดสรรงบประมาณด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนในพื้นที่ รวมถึงแนวทางสนับสนุนโรงเรียนขนาดเล็กให้มีที่พักนอนเพียงพอสำหรับนักเรียน

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังได้ดำเนินการเพิ่มค่าตอบแทนครูสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน และสำหรับร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ ขณะนี้ได้รับความเห็นชอบจากรองนายกรัฐมนตรีแล้ว และอยู่ระหว่างการบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี และหวังว่าทุกภาคส่วนจะร่วมกันผลักดันให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวด้วยว่า ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอื่น ๆ อีก 3 กระทรวง ยินดีรับฟังข้อคิดเห็นและปัญหาจากทุกหน่วยงานการศึกษา โดยเฉพาะการยกระดับสวัสดิการครู ซึ่งรัฐบาลตั้งใจดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงในระยะสั้น แต่เพื่อให้ครูได้รับสวัสดิการและความมั่นคงที่เหมาะสม เป็นแรงสนับสนุนในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มศักยภาพ

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

จากนั้น ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า และคณะได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และรับฟังสถานการณ์ด้านการจัดการศึกษาในพื้นที่ พร้อมหารือแนวทางการขับเคลื่อนงานร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษา จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกองค์กรภายใต้สังกัดกระทรวงศึกษาธิการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างสอดคล้องและเกิดประสิทธิผลสูงสุด การพัฒนาการศึกษาต้องเดินควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาสวัสดิการและคุณภาพชีวิตครู การบูรณาการทำงานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการดูแลคุณภาพชีวิต การส่งเสริมอาชีพร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การยกระดับมาตรฐานโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพอาหาร ผลผลิตทางการเกษตร และการเพิ่มขีดความสามารถด้านการกีฬาต่าง ๆ

การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านเกษตร หรือด้านการท่องเที่ยว ล้วนมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน และจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทุกภาคส่วนร่วมมืออย่างจริงจัง มีการบูรณาการข้อมูล ทรัพยากร และงบประมาณอย่างเป็นระบบ จึงจะสามารถขับเคลื่อนงานให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน และสอดคล้องตามเป้าหมายของรัฐบาล

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการด้านการศึกษา รวมถึงการสาธิตและให้บริการภายใต้กิจกรรม Fix It Center โดยสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอกะพ้อ อำเภอปานาเระ ศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพอำเภอยะรัง อำเภอมายอ และอำเภอแม่ลาน รวมถึงสาขาวิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับบริการด้านการซ่อมบำรุงอุปกรณ์เครื่องใช้ การให้คำปรึกษาทางวิชาชีพ และการส่งเสริมทักษะอาชีพ

มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา

หลังจากภารกิจตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเสร็จสิ้นแล้ว ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า และคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดยะลา เพื่อรับฟังสรุปผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค และหารือแนวทางการขับเคลื่อนงานร่วมกับผู้บริหารหน่วยงานทางการศึกษาในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง

ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ได้รับทราบถึงภาระงานนอกเหนือจากงานสอนที่ครูจำนวนมากต้องรับผิดชอบ ทั้งงานบัญชี งานธุรการ และงานเอกสารต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอน กระทรวงศึกษาธิการจึงได้หารือกับสำนักงาน ก.ค.ศ. เพื่อนำอัตรากำลังส่วนเกินมาจัดสรรคืนให้กับโรงเรียนที่ขาดครูธุรการ โดยได้จัดสรรไปแล้วกว่า 648 ตำแหน่งในรอบแรก และจัดสรรเพิ่มเติมอีก 1,706 ตำแหน่ง เพื่อให้โรงเรียนมีบุคลากรทำงานได้ตรงตามบทบาท ลดภาระงานของครูอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับประเด็นการเลื่อนวิทยฐานะของครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เห็นว่าควรมีแนวทางสอดคล้องกับครูในสังกัด สพฐ. โดยเปิดโอกาสให้ครูเลือกยื่นขอวิทยฐานะได้ใน 3 ทางเลือก คือ การยื่นผลงานวิชาการตามรูปแบบเดิม การเสนอผลงานหรือนวัตกรรมเชิงประจักษ์ และการใช้รางวัลระดับชาติที่ได้รับและอยู่ในขอบข่ายที่ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) รับรอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและสร้างเส้นทางความก้าวหน้าในวิชาชีพให้ครูมากขึ้น โดย ศธ. กำลังผลักดันให้เป็นมาตรการที่ดำเนินการได้จริงในเร็ว ๆ นี้

ในด้านการบริหารงบประมาณ โดยเฉพาะค่าน้ำและค่าไฟของสถานศึกษาในทุกสังกัด ซึ่งยังมีปัญหาค้างชำระอยู่ในหลายพื้นที่ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) อยู่ระหว่างพิจารณาหาแนวทางจัดสรรงบเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคดังกล่าว รวมถึงการเร่งปรับปรุงพระราชบัญญัติการศึกษาเอกชน เพื่อให้สามารถประกาศใช้ในปีงบประมาณ 2569 ตามแผนที่วางไว้ ส่วนการกำกับติดตามโรงเรียนตาดีกาในพื้นที่ ทั้งเรื่องเครื่องแบบ แบบเรียน งบประมาณ และประเด็นที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ กระทรวงศึกษาธิการจะนำข้อเสนอเหล่านี้ไปพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อหามาตรการที่เหมาะสมต่อไป

ภายหลังการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคณะ ได้พบปะและให้กำลังใจนักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกาย พร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการข้อมูลด้านการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย นิทรรศการสถานการณ์การจัดการศึกษาจังหวัดยะลา การขับเคลื่อนสานพลังการศึกษา “ยะลาเป็นหนึ่ง” นิทรรศกาการสร้างโอกาสทางการศึกษาและทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในพื้นที่ การบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมาและการช่วยเหลือแบบบูรณาการ และสภาพปัญหาและข้อเสนอเพื่อการพัฒนาการศึกษาในจังหวัดยะลา

“การลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดปัตตานีและยะลาในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการในการยกระดับคุณภาพการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งด้านการแก้ปัญหาเร่งด่วน การพัฒนาครู การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดสรรงบประมาณและการทำงานด้วยยความร่วมมือ บูรณาการระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ที่ร่วมลงพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและ นำไปสู่การวางมาตรการที่สามารถดำเนินงานได้จริง และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและโอกาสทางการศึกษาของเด็กและเยาวชนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม”

อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว-กราฟิก
ธนภัทร จันทร์ห้างหว้า / ภาพ
ศศิวัฒน์ แป้นคุ้มญาติ / วิดีโอ