กระทรวงศึกษาธิการ – 16 ธันวาคม 2568 / ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ครั้งที่ 4/2568 โดยมีนายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ สกศ. นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการ กช. นายสง่า แต่เชื้อสาย รองเลขาธิการ กอศ. ตลอดจนคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ และผ่านระบบ Zoom Meeting
รมว.ศธ. เปิดเผยว่า เนื่องจากท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ จึงส่งผลถึงเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ…. เพื่อขอความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี และเมื่อมีคณะรัฐบาลชุดใหม่แล้ว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันความเห็นและนำเสนอร่างกฎหมาย เพื่อเร่งผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเรื่องการบริหารงบประมาณ หากมีกรณีที่ต้องดำเนินการในช่วงรัฐบาลรักษาการ อาจจำเป็นต้องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) นำเรื่องหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาให้เป็นไปโดยไม่ขัดต่อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการประชุมในวันนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบ (ร่าง) ประกาศกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในส่วนของการบริหารกิจการโรงเรียน พ.ศ. ….
และ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบสำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในส่วนของการบริหารกิจการโรงเรียน พ.ศ. …. กำหนดดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี และปลอดดอกเบี้ยสำหรับสถานศึกษาที่ประสบเหตุจากภัยพิบัติ โดยมอบสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เสนอร่างประกาศฯ จำนวน 2 ฉบับให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาลงนามเพื่อประกาศใช้ต่อไป
รวมถึงการรับทราบรายงานสถานะการดำเนินงานของกองทุนสงเคราะห์ โดย รมว.ศธ. ได้กำชับให้ทางกองทุนฯ เร่งหารือและประสานความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อวางระบบการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบจ่ายตรง โดยไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า ให้แก่ครูและบุคลากรของโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มความมั่นคงด้านสวัสดิการ
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประสานงานโดยตรงกับเลขาธิการ สปสช. เพื่อเร่งรัดการดำเนินการให้เกิดผลโดยเร็ว โดยตั้งเป้าหมายให้สามารถลงนามในสัญญาระบบเบิกจ่ายตรงได้ทันก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อเป็นของขวัญแก่ครูและบุคลากรโรงเรียนเอกชน และเปิดใช้งานระบบอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2569 รองรับการเปิดภาคเรียนใหม่ เป็นของขวัญรับเปิดเทอมอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานผลการสำรวจความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ ระหว่างเดือนตุลาคม–ธันวาคม 2568 ซึ่งส่งผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง พัทลุง นครศรีธรรมราช สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยพบว่ามีนักเรียนโรงเรียนเอกชนได้รับผลกระทบ จำนวน 81,891 คน และโรงเรียนเอกชนได้รับความเสียหาย จำนวน 480 โรงเรียน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 390 ล้านบาท ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลความเสียหาย เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้การช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูสถานศึกษาให้สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติต่อไป
“ขอกำชับให้ทุกหน่วยงาน ปฏิบัติงานตามกรอบอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด มีความรอบคอบ โปร่งใส และคำนึงถึงประโยชน์ของสถานศึกษาเอกชน ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้การจัดการศึกษาได้รับผลกระทบและสามารถขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษาเอกชนได้อย่างต่อเนื่อง”

อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว-กราฟิก
ภารุจ พูลอำไภย์ / ภาพ
