รองปลัด ศธ. “พิเชฐ” ขยายเครือข่ายภาครัฐ ขับเคลื่อนจัดทำแผนพัฒนาความร่วมมือฯ ปักหมุดการศึกษาไทยสู่ประชาคมโลก

กระทรวงศึกษาธิการ – 10 กันยายน 2568 / นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้ นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดทำแผนพัฒนาความร่วมมือด้านการศึกษากับต่างประเทศ พ.ศ. 2569 – 2573 ของกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องประชุมก่อ สวัสดิ์พาณิชย์ อาคารรัชมังคลาภิเษก

โดยมีผู้แทนองค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และผู้แทนสำนักงานปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วม

รองปลัด ศธ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดทิศทางการพัฒนาหลักสูตร การเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีวิสัยทัศน์ในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ทัดเทียมกับนานาชาติ รวมทั้งเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในเวทีความร่วมมือด้านการศึกษาระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ สิ่งสำคัญคือ “การจัดทำกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาความร่วมมือด้านการศึกษากับต่างประเทศ”

เราจึงได้จัดทำร่างแผนพัฒนาความร่วมมือด้านการศึกษากับต่างประเทศ พ.ศ. 2569 – 2573 ฉบับนี้ขึ้นมา เพราะว่าการที่จะพัฒนาการศึกษาให้เท่าทันประเทศอื่นได้นั้น จำเป็นต้องเรียนรู้และติดตามทิศทางการดำเนินงานของนานาประเทศ เพราะประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก จึงต้องมีการเตรียมแผนเพื่อให้การศึกษาไทยก้าวทันโลกและสอดคล้องกับเจตจำนงขององค์การ UNESCO ซึ่งได้กำหนดแนวทางการศึกษาไว้ 4 ประเด็น

ประเด็นแรก คือการเรียนเพื่อรู้ สั่งสมและรักษาความรู้ที่ทันสมัย ประเด็นที่ 2 คือการเรียนเพื่อนำไปปฏิบัติ สามารถทำได้จริง ประเด็นที่ 3 การเรียนเพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ และประเด็นสุดท้าย คือการเรียนเพื่อค้นพบตนเอง สามารถประกอบอาชีพ มีรายได้ และ “เป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพ มีคุณธรรม และมีวิชาความรู้ควบคู่กันไป” ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเรียนรู้การพัฒนาด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคมจากนานาประเทศ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ “ครูต้องได้รับการพัฒนา”

ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องมีความร่วมมือกับต่างประเทศ โดยเราต้อง “กำหนดกลยุทธ์” ขึ้นมาเพื่อนำมาเป็นแนวปฏิบัติให้ไปในทิศทางเดียวกัน กลยุทธ์แรก คือการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนากลยุทธ์ที่ 2 คือส่งเสริมการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรการเรียนรู้ให้ทันสมัย ควบคู่กลยุทธ์ที่ 3 ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการศึกษา เพื่อนำไปสู่กลยุทธ์ที่ 4 คือการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความพร้อมสู่ความเป็นสากล และก้าวไปสู่กลยุทธ์ที่ 5 คือการขยายโอกาสทางการศึกษาและส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข

กระทรวงศึกษาธิการ จำเป็นต้องร่วมมือกับทั้งหน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานภายนอก เพื่อให้เกิดพลังการทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติ โดยต้องมีการวางแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในแผนระยะสั้น คือการมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมของบุคลากร การส่งเสริมการฝึกอบรม ศึกษาดูงาน และการทำวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในกลุ่มประเทศอาเซียน ยุโรป และอเมริกา รวมถึงประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม และยังได้ร่วมมือกับกระทรวงอื่น ๆ อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาดูงาน การฝึกอบรม หรือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในต่างประเทศรวมถึงหน่วยงานในสังกัด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมีความร่วมมือด้านการศึกษากับต่างประเทศ อาทิ ประเทศสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศในกลุ่มอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) และยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา ความร่วมมือในการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนครูและบุคลากร ส่งเสริมให้ครูจากต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาไทย ขณะเดียวกันครูไทยก็ได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในต่างประเทศ อันจะช่วยต่อยอดความร่วมมือให้กว้างขวางและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต

“ความร่วมมือด้านการศึกษากับต่างประเทศ จึงเป็นดั่งการเปิดประตูในการสร้างโอกาสให้บุคลากรของประเทศ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้เรียนรู้ ได้พัฒนา ได้เพิ่มพูนทักษะ จากเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งการศึกษาดูงาน การฝึกอบรม หรือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ฯ เพื่อนำองค์ความรู้กลับมาพัฒนาการศึกษาไทยให้มีคุณภาพและมาตรฐานสูงขึ้น ตลอดจนเป็นการขยายเครือข่ายความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐในระดับสากล และเป็นการสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรพัฒนาตนเองมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “ส่งเสริมคน พัฒนาคน เพื่อให้คนมีศักยภาพ พัฒนางาน และนำแผนสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม” โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ “ทุกภาคส่วนได้รับการพัฒนาอย่างเท่าเทียม” เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาของประเทศให้ก้าวทันนานาอารยประเทศ”

อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว-กราฟิก
ณัฐพล สุกไทย / ภาพ