ในโอกาส “100 ปี มหาธีรราชานุสรณ์” ครบรอบ 100 ปี แห่งการเสด็จสวรรคตของ “พระมหาธีรราชเจ้า” พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า “รัชกาลที่ 6” กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง แด่พระผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งการลูกเสือไทย” ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 พระองค์ทรงเล็งเห็นพลังของการศึกษานอกห้องเรียนและหลักสูตรการพัฒนาชีวิตแบบลูกเสือ ที่สามารถปลูกฝังระเบียบวินัย ความรักชาติ ความสามัคคี และจิตอาสาให้แก่เยาวชน พระราชกรณียกิจด้านการลูกเสือของพระองค์ ทรงสนับสนุนกิจกรรมการฝึกอบรม การตั้งกองลูกเสือในโรงเรียนทั่วประเทศ การเสริมสร้างผู้นำลูกเสือ และการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับสากล จนทำให้ กิจการลูกเสือไทยมีความมั่นคง เป็นที่ยอมรับ และเป็นพลังสำคัญในการสร้างพลเมืองคุณภาพให้แก่ชาติ
นอกจากพระราชกรณียกิจด้านการลูกเสือแล้ว พระองค์ยังทรงทุ่มเทพระวรกายในการสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาไทยในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการวางรากฐานโครงสร้างการบริหารการศึกษา การจัดตั้งสถาบันการศึกษาสมัยใหม่ การส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและวรรณคดีไทย ตลอดจนการพัฒนาระบบกฎหมายและการปกครองที่มุ่งยกระดับศักยภาพของประชาชนให้เท่าเทียมอารยประเทศ พระราชปณิธานอันแน่วแน่ของพระองค์ที่มุ่ง “สร้างคนให้เป็นกำลังของแผ่นดิน” ได้กลายเป็นหลักคิดสำคัญที่หนุนเสริมการพัฒนาประเทศไทยในทุกยุคสมัย
ตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมาหลังจากการเสด็จสวรรคตของพระองค์ นับเป็นช่วงเวลาแห่งการรำลึกถึงคุณความดีและพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่าของสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ที่ยังคงส่องสว่างนำทางสังคมไทยมาตลอด 100 ปี ไม่ว่าจะเป็นพระอัจฉริยภาพด้านการวางรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตย พระปรีชาญาณในการสร้างเอกภาพของชาติผ่านกิจการลูกเสือ และพระอุตสาหะในการพัฒนาการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม และความเจริญของบ้านเมือง พระราชกรณียกิจของพระองค์มิได้จางหายไปตามกาลเวลา กลับส่งต่อให้คนไทยรุ่นแล้วรุ่นเล่า ให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ มีวินัย มีความรับผิดชอบ และมีหัวใจอาสา พร้อมร่วมกันสืบสานปณิธานของพระองค์ในการสร้างชาติให้มั่นคงและยั่งยืนสืบไป

จวบจนเวลาล่วงเลยมาในกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ “10” พระผู้ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นประมุขแห่งคณะลูกเสือแห่งชาติ ทรงสืบสานพระราชปณิธานอันแน่วแน่และร้อยรำลึกครบศตวรรษ 100 ปี แห่งการสวรรคต “พระมหาธีรราชเจ้า” บูรพกษัตริย์ในการพัฒนากิจการลูกเสือไทยให้เป็นพลัง แห่งการสร้างพลเมืองดีของชาติ ทรงให้ความสำคัญกับการปลูกฝังทักษะชีวิต คุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบ ความเชื่อมั่นในตนเอง และความเสียสละเพื่อส่วนรวม เพื่อให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นคนดี มีวินัย และมีจิตสาธารณะ อันเป็นสาระสำคัญของวิชาลูกเสือที่สืบทอดมายาวนาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมสานต่อปณิธานของพระมหากษัตริย์ โดยริเริ่มโครงการหนึ่งจังหวัด “1,000” พลังลูกเสือชาวบ้านยืนหยัดทำความดีด้วยหัวใจอาสา พร้อมปกป้องชุมชน เคียงประชาชน ด้วยหัวใจของความเป็นไทย “1,000 คน หนึ่งจังหวัด พัฒนาลูกเสือชาวบ้าน” พลังอาสาสมัครเพื่อชุมชนไทย ถือเป็นแนวทางสำคัญที่ ศธ. มุ่งมั่นผลักดันในการยกระดับพลังอาสาสมัครทั่วประเทศ โดยสภานายกสภาลูกเสือไทย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้นำที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนางานลูกเสือไทย พร้อมด้วยศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้กำกับดูแลนโยบายหลักของกระทรวงในฐานะ “หัวเรือใหญ่” ตลอดจนได้รับความร่วมมือจากนายองอาจ วงษ์ประยูร รมช.ศธ. คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ คณะลูกเสือแห่งชาติ และบุคลากรทางการลูกเสือในทุกระดับ ทุกภาคส่วน มุ่งผลักดันให้การพัฒนาลูกเสือชาวบ้านเป็นระบบ เข้มแข็ง และตอบโจทย์สังคมไทยอย่างแท้จริง

แนวทางนี้สะท้อนพระราชปณิธานของบูรพมหากษัตริย์ ที่ทรงมุ่งหมายให้กิจการลูกเสือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างพลังพลเมืองของชาติ และยกระดับความเข้มแข็งของสังคมไทย ผ่านการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านให้มีทักษะรอบด้าน ทั้งด้านการจัดการภัยพิบัติ การดูแลชุมชนและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉิน การทำงานจิตอาสา รวมถึงทักษะการประสานงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายในทุกสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลูกเสือชาวบ้านจึงนับเป็น “เครือข่ายความมั่นคงทางสังคม” ที่สำคัญของประเทศ การยกระดับให้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 คนต่อจังหวัด เปรียบเสมือนการสร้างกองกำลังอาสาสมัครที่กระจายอยู่ในทุกพื้นที่ พร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่วนรวม ช่วยเหลือประชาชนในยามจำเป็น และร่วมขับเคลื่อนสังคมตามหลัก “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมที่ปลอดภัย น่าอยู่ เข้มแข็ง และยั่งยืนอย่างแท้จริง ทั้งหมดนี้คือการสืบสานพระราชปณิธานของพระมหากษัตริย์ไทยทั้งสองพระองค์ ผ่านการพัฒนากิจการลูกเสือให้เป็นพลังสำคัญของชาติ พร้อมก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง แข็งแรง และยั่งยืน

อานนท์ วิชานนท์ / สกู๊ป-กราฟิก
