4 กันยายน 2568 – ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาวิชาการ การขับเคลื่อนมาตรฐานการศึกษาของชาติ “AI for Education ปั้นคนไทยสู่อนาคต 5.0” และมอบนโยบายการขับเคลื่อนมาตรฐานการศึกษาของชาติสู่การปฏิบัติ โดยมี รอง ศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา คณะผู้บริหาร ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา นักเรียน นิสิต นักศึกษา จำนวน 400 คน เข้าร่วม ณ ห้องราชาบอลรูม ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์พาเลซกรุงเทพฯ และรับชมการถ่ายทอดสดผ่านเพจสภาการศึกษา
รมว.ศธ. กล่าวว่า เด็กทุกวันนี้เกิดมาในยุคที่ใช้ AI เป็นหลัก เลือกที่จะถามเครื่องมือแอปพลิเคชัน ChatGPT มากกว่าถามผู้ปกครอง หรือครู เพื่อหาคำตอบ ซึ่งก็มีข้อดีในการแสวงหาความรู้ได้รวดเร็ว แต่สิ่งที่น่ากังวลคือเด็กอาจไม่ได้หาความรู้เชิงวิชาการเท่านั้น แต่อาจหาข้อมูลถึงสภาพความมั่นคงของจิตใจ ความอ่อนแอทางอารมณ์ ที่ไม่พ่อแม่สามารถทราบได้เลยว่าเด็กจะได้คำตอบจาก AI ทิศทางใด หากได้คำแนะนำที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่การสูญเสีย ซึ่งในต่างประเทศเริ่มมีกรณีผู้ปกครองยื่นฟ้องบริษัทผู้พัฒนา AI ที่ไม่มีป้องกันเหตุดังกล่าวแล้ว
แม้ AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความรู้ความสามารถให้กับผู้เรียน แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางจิตใจและอารมณ์ในอนาคต หากขาดการดูแลที่เหมาะสม และอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าเสียใจ จึงขอฝากให้สภาการศึกษาช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิด ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา และพิจารณานำประเด็นดังกล่าวบรรจุในแผนการศึกษา เพื่อให้สังคมไทยมีเครื่องมือและแนวทางป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ให้เด็กไทยได้รับผลกระทบทางจิตใจจากการใช้ AI
เราจะป้องกันเด็กไทยให้ไม่ไปพึ่งพิงเครื่องมือโดย AI มากเกินไป สามารถพึ่งพิงครูที่โรงเรียน เพื่อนร่วมชั้น หรือผู้ปกครองได้ เพื่อให้ไม่เกิดผลกระทบกับเด็กไทย ฝากครูและผู้บริหารสถานศึกษาเป็นหูเป็นตา ดูแลการใช้ AI ให้ทั่วถึง สอนให้เด็กนำเครื่องมือไปใช้เพิ่มทักษะความรู้ความสามารถเชิงสร้างสรรค์ด้วย
ขอบคุณสภาการศึกษาที่เห็นความสำคัญในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นจุดเริ่มต้นในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ นำไปปรับมาตรฐานที่กำหนดไว้ ผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมสู่การปฏิบัติมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการสภาการศึกษาแห่งชาติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเห็นชอบในหลักการทิศทางการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศไทย หรือ Human Capital โดยได้ข้อคิด คำแนะนำ ในการบรรจุหลักสูตรที่มี AI มาใช้ประโยชน์ในการศึกษา ที่ตอนนี้สถานศึกษาส่วนใหญ่ทราบดีว่าจะนำเครื่องมือนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด แต่ต้องมีมาตรการป้องกันให้อยู่ในกรอบจริยธรรมที่เหมาะสม เกิดผลกระทบน้อยที่สุด สร้างคุณค่าที่แท้จริงต่อสังคมไทย
รมว.ศธ. ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า “วันนี้ฝากเป็นโจทย์ให้สภาการศึกษา ช่วยกันระดมสมองกับผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารสถาบันการศึกษา เพราะการเข้าถึงเรื่องมือทุกวันนี้ง่ายขึ้นมาก และเราคงไปจำกัดในการหาความรู้ของผู้เรียนได้ยาก ครูต้องเข้าใจแนวทาง และนโยบายควรมีเนื้อหาในการที่จะทำความเข้าใจและเข้าถึงง่าย เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย”
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้เกี่ยวกับประเด็นความท้าทายใหม่ ๆ ในการขับเคลื่อนมาตรฐานการศึกษา พัฒนาคนไทยให้ตอบสนองการพัฒนาประเทศและการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงเผยแพร่องค์ความรู้ที่ความก้าวหน้าและผลการดำเนินงาน สร้างผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กรณีตัวอย่างสถานศึกษาที่มีแนวทางการขับเคลื่อนมาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2561 สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ภายในงานมีการเปิดเวทีเสวนาเรื่อง “Al for Education ปั้นคนไทยสู่อนาคต 5.0” รวมถึงเรื่อง Show Cases & Best Practices นวัตกรรม Super Al Engineer ของเยาวชนไทย ไปจนถึงเรื่องการผลิต Al Innovator และเรื่องการสร้างเกราะคุ้มกันดิจิทัล : แนวทางจริยธรรม AI สำหรับการศึกษาไทย
ทั้งนี้ รมว.ศธ. ได้เยี่ยมชมนิทรรศการของสถานศึกษา อาทิ การพัฒนาผู้ประกอบการในยุค AI โดยวิทยาลัยเทคนิคชลบุรี, หลักสูตรวิศวกรรม AI ระดับมัธยมศึกษา โดยโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ฝ่ายมัธยม), โรงเรียนนวัตกรรมยุคใหม่ โดยโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี, การส่งเสริมความฉลาดทางดิจิทัล/พลเมืองดิจิทัล โดยโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์, การจัดการศึกษาเพื่อส่งเสริม Low-carbon โดยโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์, นวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน (ABSS รากแก้วคุณธรรม) โดยโรงเรียนอนุบาลสามเสน (สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอุปถัมภ์) และการเรียนรู้ตลอดชีวิตในยุคดิจิทัล โดยศูนย์การเรียนรู้ระดับอำเภอโพธิ์ทอง สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดอ่างทอง
พบพร ผดุงพล / ข่าว
นัทสร ทองกำเหนิด / TikTok
คณะทำงาน รมว.ศธ. , ประชาสัมพันธ์ สกศ. / ภาพ