พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมวิชาการและวิชาชีพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2562”4 ปีการศึกษา พัฒนาชายแดนใต้” เมื่อวันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2562
ในการนี้ มีคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการให้การต้อนรับและเข้าร่วมงานมหกรรมในครั้งนี้ อาทิ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้, พล.อ.สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายอดินันท์ ปากบารา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี, นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา, นายประชาคม จันทรชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน, นายศรีชัย พรประชาธรรม เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย, นายสุทิน แก้วพนา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายวาทิต มีสนุ่น ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) ตลอดจนผู้บริหารการศึกษา คณาจารย์ และนักเรียนนักศึกษา เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับผู้ที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ เกียรติบัตร และรางวัลทุกชนิดในครั้งนี้ สิ่งที่นักเรียนทุกคนได้รับในครั้งนี้ เป็นผลงานอันประจักษ์ที่เกิดจากความพยายาม ความขยันหมั่นเพียร ความตั้งใจ และความมุมานะในการศึกษาเล่าเรียนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งนอกจากความสำเร็จของนักเรียนแล้ว ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับคณะผู้บริหารสถานศึกษา คุณครู และผู้ปกครอง ที่มีส่วนร่วมสำคัญในการสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ บรรลุเป้าหมายที่ทางรัฐบาลได้กำหนดไว้
ความรู้ความสามารถที่ทุกคนได้รับจากการจัดการศึกษานั้น เป็นภาพสะท้อนความพยายามและความเอาใจใส่ของหน่วยงานทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่นักเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ทั้งหมดนั้นแสดงให้เห็นการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง
ในฐานะของรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานด้านการศึกษา ขอย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ได้รับเกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารสำนักงานศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย กองพลทหารราบที่ 15 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ในครั้งนั้นหน่วยงานนี้ยังเป็นเพียงหน่วยงานเฉพาะกิจของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในหน่วยล้วนมาจากการขอตัวช่วยราชการหรือการมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่ง จนมาถึงวันนี้มีความยินดีที่ได้รับทราบและเห็นความเจริญก้าวหน้าของศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยลำดับ ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็นหน่วยงานทางการศึกษา ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 ที่ให้ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานงานและบูรณาการการจัดการศึกษาร่วมกับหน่วยงานในทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย แผนยุทธศาสตร์ และมาตรการ ในการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปสู่การปฏิบัติให้สอดคล้องกับสภาพท้องถิ่นและพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลโดยการนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และมีการปฏิรูปประเทศในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งงานด้านการศึกษาก็เป็นงานสำคัญด้านหนึ่ง โดยการศึกษาในยุคประเทศไทย 4.0 นั้น รัฐบาลได้มุ่งเน้นให้เยาวชนได้พัฒนาตนเองสู่การมีอาชีพและมีงานทำตามความถนัดและความต้องการของตนเองโดยสอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน อย่างไรก็ตาม ในการที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพจนส่งผลให้ชุมชนและประเทศชาติมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยกลไกที่เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในทุกระดับตามกลไกประชารัฐ
ทั้งนี้ จากการรายงานและการติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศและการบริหารงานด้านการศึกษาในระดับประเทศจนถึงระดับพื้นที่ พบว่าการศึกษาไทยนั้นถือได้ว่ามีการพัฒนาอย่างเป็นระบบและตอบสนองต่อความต้องการของประเทศมากยิ่งขึ้น โดยกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี, แผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี, การขับเคลื่อนแผนบูรณาการด้านการศึกษาระดับภาค (ภาคใต้ชายแดน) รวมทั้งแผนการพัฒนาการศึกษาในระดับจังหวัดรองรับอย่างเป็นระบบ
สำหรับการพัฒนาการศึกษาที่ตอบสนองต่อบริบทในพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรากฏผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์อย่างมากมาย อาทิ โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้, โครงการโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้, โครงการยกระดับการใช้ภาษาไทย,โครงการในการแก้ไขปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษากลับเข้าสู่ระบบการศึกษาของ กศน.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้รับการชื่นชมจากองค์การยูเนสโก (UNESCO), โครงการ 1 ครูอาสา กศน. ต่อสถานศึกษาปอเนาะ, ชุมชนต้นแบบตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน, หลักสูตรอิสลามศึกษาตอนต้น, การจัดตั้งศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา, การจัดการอาชีวศึกษาเพื่ออาชีพและการมีงานทำ เป็นต้น
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอให้ทุกภาคส่วนได้น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่มุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้านคือ 1) มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง 2) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม 3) มีงานทำ-มีอาชีพ 4) เป็นพลเมืองดี ซึ่งพระบรมราโชบายทั้งหมดนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินกว่าครูจะทำและสั่งสอนศิษย์ให้ทำได้ หากครูตั้งใจสร้างศิษย์ให้ได้ผลตามพระบรมราโชบายทั้ง 4 ข้อนี้ ก็จะทำให้ชาติบ้านเมืองเจริญ ไม่มีคนที่นิ่งดูดายปล่อยให้เกิดความไม่ดีงามในบ้านเมือง
ที่สำคัญประการหนึ่งคือ การรู้จักแยกแยะสิ่งที่ถูกที่ผิด สิ่งที่ดีที่ชั่ว และเลือกรับเลือกทำแต่ทางที่ถูกที่ดี เด็กไทยควรรู้จักใช้วิจารณญาณของตน ไม่ตามค่านิยมตามกระแสของสังคมโดยไร้สติ อีกประการหนึ่งที่ควรน้อมนำมาใส่เกล้าฯ คือ พระบรมราโชบายที่ว่า เห็นอะไรที่ควรทำเพื่อบ้านเมืองก็ต้องทำ คนไทยเห็นอะไรที่ควรทำเพื่อบ้านเมืองก็ต้องลงมือทำ ไม่ปล่อยให้ผ่านไปด้วยความคิดที่ว่า “ธุระไม่ใช่”
และในเวลาอันใกล้นี้ จะถึงช่วงเวลาสำคัญของพี่น้องชาวไทย คือพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่รัฐบาลและหน่วยงานราชการจัดขึ้น หรือการประดับตราสัญลักษณ์ และการแต่งกายด้วยชุดสีเหลืองเพื่อถวายความจงรักภักดี
สุดท้ายนี้ ขออวยพรให้การจัดงานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ ขอให้คณะผู้บริหาร ครู นักเรียน นักศึกษาและแขกผู้มีเกียรติ ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานทุกท่าน จงประสบแต่ความสุขสวัสดีโดยทั่วกัน
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า เป็นผลมาจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล
นายวาทิต มีสนุ่น กล่าวถึงรายละเอียดการจัดงานในครั้งนี้ว่า กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยได้มอบหมายให้ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) ดำเนินการประสานให้มีการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรในสถานศึกษาของรัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเอง และแสดงความสามารถในด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
ศปบ.จชต. จึงจัดงาน มหกรรมวิชาการและวิชาชีพจังหวัดชายแดนภาคใต้ “4 ปีการศึกษา พัฒนาชายแดนใต้” ระหว่างวันที่ 30 เมษายน-1 พฤษภาคม 2562 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถานศึกษาพัฒนากิจกรรมเสริมหลักสูตรและจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แสดงออกตามความสามารถและความถนัดอย่างเหมาะสม โดยมีกิจกรรมการแข่งขันเสริมหลักสูตร จำนวน 23 กิจกรรม และกิจกรรมการแข่งขันทักษะทางวิชาชีพและทักษะพื้นฐาน จำนวน 5 กิจกรรม และการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในวาระพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ซึ่งประกอบด้วยพระราชประวัติ พระบรมราโชบายด้านการศึกษา พระราชดำรัสที่พระราชทานแก่พสกนิกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ “4 ปีการศึกษา พัฒนาชายแดนใต้” โดยมี ศปบ.จชต. ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานหลักด้านการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ภายหลังพิธีเปิด รองนายกรัฐมนตรี
Photo Credit ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี, ธนภัทร จันทร์ห้างหว้า (VDO)

















