เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั่วประเทศ ครั้งที่ 3/2563 โดยมี นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 225 เขต เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์การศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จังหวัดสมุทรสงคราม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในช่วงวิกฤต COVID-19 ที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบการศึกษาไทย ซึ่งจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนเป็นหลัก ในขณะเดียวกัน COVID-19 ก็สะท้อนความเข้มแข็งของระบบการศึกษาไทย ที่สามารถผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขในประเทศมีความเข้มแข็ง หากเราสามารถนำระบบนี้ มาใช้กับการผลิตบุคลากรและกำลังคนในสาขาอาชีพอื่น ๆ ก็จะทำให้ประเทศไทย มีกำลังคนที่มีคุณภาพ ส่งเสริมการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ จึงขอขอบคุณผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ทุกท่าน รวมถึงผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครู ที่ร่วมมือกันจัดการเรียนการสอนในช่วงวิกฤต COVID-19 พร้อมฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เรายังไม่คุ้นเคย แต่เราก็ได้พิสูจน์แล้วว่า หากเราร่วมมือกัน ก็สามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี แม้ขณะนี้จะเกิดการระบาดไปทั่วโลก ประเทศไทยก็ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา คือ ฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาไปสู่การปฏิบัติ ขอให้ทุกคนเป็นผู้นำในการพลิกประวัติศาสตร์การศึกษาไทย ในการร่วมกัน “ปลดล็อก” ปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อการพัฒนาการศึกษาไทย “ปรับเปลี่ยน” แนวทางและทัศนคติ เพราะเรายังทำแบบเดิม แต่คาดหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษา คงเป็นไปได้ยาก และ “เปิดกว้าง” รับสิ่งใหม่ ๆ ที่ยังไม่คุ้นเคยในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างเยาวชนให้มีศักยภาพ เพราะอนาคตของพวกเราขึ้นอยู่กับเด็กและเยาวชนในปัจจุบันนี้ เราจึงต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนนักศึกษามีทักษะความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศได้
นอกจากนี้ ขอฝากเรื่องการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นการดำเนินการที่ยาก แต่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะกระทรวงศึกษาธิการต้องดูแลเด็กทุกคนให้ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ปัจจุบันเด็กในโรงเรียนขนาดเล็กบางแห่ง ยังไม่ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเท่าที่ควร อันเนื่องมาจากข้อจำกัดด้านต่าง ๆ เช่น จำนวนนักเรียนที่มีน้อย ครูไม่ครบชั้น การขาดแคลนสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอน ทำให้เด็กได้รับความรู้ไม่เต็มที่ จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ ทั้งการจักรถรับ-ส่ง นักเรียน การจัดสรรผู้บริหารและบุคลากร ตลอดจนการจัดสรรงบประมาณ
ในส่วนของโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่พิเศษ มีนักเรียนมากกว่า 3,000 -4,000 คน ด้วยจำนวนเด็กที่มากเกินไป อาจทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ขอให้พิจารณาถึงการกระจายจำนวนเด็กไปยังโรงเรียนมัธยมอื่น ๆ ตามบริบทของพื้นที่ เช่น การพัฒนาสถานศึกษาให้เป็น “โรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง” เพื่อจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ รองรับเด็กจากพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้ง เชื่อมโยงกับโรงเรียนประถมศึกษาในพื้นที่โดยรอบ ในการรับช่วงต่อให้เด็กได้เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาอย่างมีคุณภาพด้วย
อรพรรณ ฤทธิ์มั่น: สรุป
นวรัตน์ รามสูต: เรียบเรียง
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.: รายงาน
30/10/2563