“บิ๊กน้อย” ปลื้มเด็กสานฝันฯ ชายแดนใต้ กับฝันที่เป็นจริง สู่นักฟุตบอลอาชีพ สโมสร “ยังสิงห์ หาดใหญ่ ยูไนเต็ด” สู้ศึกไทยลีก 3
บิ๊กน้อย “พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์” ภาคภูมิใจ สพฐ.และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ชายแดนใต้ ร่วมสนับสนุนเด็กสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก้าวสู่นักฟุตบอลอาชีพ ทีมสโมสรฟุตบอล “ยังสิงห์ หาดใหญ่ ยูไนเต็ด” สู้ศึกไทยลีก 3 ฤดูกาลนี้ รังเหย้าใช้สนามพรุค้างคาว (หาดใหญ่ซิตี้ เดิม) พร้อมสนับสนุนต่อเนื่อง เตรียมจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เยาวชนสานฝัน รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ครั้งที่ 1 ประจำปี 2564 ปลายปีนี้
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 – พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา และอดีต รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมทางไกล (Video Conference) กับผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เชิญเป็นประธานการประชุม โดยมีนายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์, นายกสมาคมสานฝันการศึกษาชายแดนใต้ และนายณาณุวัฒน์ ตัณฑุลเวสส ผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลยังสิงห์ หาดใหญ่ ยูไนเต็ด เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม สพฐ.
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบและภาคภูมิใจกับการมีส่วนร่วมพัฒนาการด้านกีฬาของนักเรียนโครงการสานฝันฯ ซึ่งนักเรียนหลายคนเข้ามาเป็นนักฟุตบอลอาชีพของสโมสรฟุตบอลยังสิงห์ หาดใหญ่ ยูไนเต็ด ที่เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2560 เกิดจากการรวมตัวของเยาวชนจากสมาคมสานฝันฯ และในภาคใต้ ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่สโมสร ก้าวจากการเป็นทีมสมัครเล่น จนกระทั่งในปีนี้ได้ร่วมกับสโมสรฟุตบอลหาดใหญ่ซิตี้ จนกลายมาเป็น “สโมสรฟุตบอลยังสิงห์ หาดใหญ่ ยูไนเต็ด” ที่ทำงานแบบมืออาชีพ และพัฒนาเยาวชนในพื้นที่ เพื่อก้าวสู่เป็นฟุตบอลอาชีพ พร้อมสู้ศึกไทยลีก 3 ฤดูกาล 2021-2022
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เยาวชนสานฝัน รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ครั้งที่ 1 ประจำปี 2564 โดย สพฐ. ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ และสโมสรฟุตบอลยังสิงห์ หาดใหญ่ ยูไนเต็ด มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดพื้นที่แสดงความสามารถของเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สงขลา สตูล) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมของโรงเรียนในโครงการสานฝันฯ และเพื่อพัฒนานักกีฬาเยาวชนสู่ความเป็นเลิศด้านกีฬาฟุตบอล
โดยมีทีมจากโรงเรียนในโครงการสานฝันฯ สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน 12 ทีม ในห้วงเดือนตุลาคม ถึงธันวาคม 2564 แข่งเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ณ สนามเขารูปช้าง และสนามในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยการจัดการแข่งขันเป็นไปตามมาตรการที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดสงขลา กำหนด
สำหรับ 12 ทีม ที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ โดยแบ่งเป็น 2 สาย แข่งแบบพบกันหมดในสาย คือ
1) โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ยะลา
2) โรงเรียนบันนังสตาวิทยา
3) โรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา
4) โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์
5) โรงเรียนทุ่งยางแดงพิทยาคม
6) โรงเรียนรือเสาะชนูปถัมภ์
7) โรงเรียนมัธยมสุไหงปาดี
8) โรงเรียนสวนพระยาวิทยา
9) โรงเรียนร่มเกล้า
10) โรงเรียนนาทวีวิทยาคม
11) โรงเรียนละงูพิทยาคม
12) โรงเรียนนวมินทราชูทิศ ทักษิณ
ทีมชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัลเป็นทุนการศึกษา 30,000 บาท พร้อมถ้วยชนะเลิศจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนรองแชมป์ ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท ที่ 3 รับเงินรางวัล 15,000 บาท ที่ 4 เงินรางวัล 10,000 บาท และอันดับที่ 5 รับเงินรางวัล 5,000 บาท โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิเบญจรงคกุล และสมาคมสานฝันการศึกษาชายแดนใต้
จากการจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน ผลปรากฏว่า สายที่ 1 ประกอบด้วยทีม โรงเรียนร่มเกล้า ทีมโรงเรียนมัธยมสุไหงปาดี ทีมโรงเรียนบันนังสตาวิทยา ทีมโรงเรียนนวมินทราชูทิศ ทักษิณ ทีมโรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา ทีมโรงเรียนนาทวีวิทยาคม และสายที่ 2 ทีมโรงเรียนสวนพระยาวิทยา ทีมโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ยะลา ทีมโรงเรียนละงูพิทยาคม ทีมโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ ทีมโรงเรียนทุ่งยางแดงพิทยาคม และทีมโรงเรียนรือเสาะชนูปถัมภ์
“สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เยาวชนสานฝัน ได้ดำเนินการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ในปีนี้จะเป็นปีที่มีความพิเศษ เพราะจะมีการคัดเลือกนักฟุตบอลดาวรุ่งจำนวนหนึ่ง ประมาณ 5-10 คน โดยความร่วมมือและสนับสนุนของสโมสรฟุตบอลยังสิงห์ หาดใหญ่ ยูไนเต็ด ในการสนับสนุนให้มีการคัดเลือกและส่งนักฟุตบอลดาวรุ่งไปพัฒนาต่อ ที่สโมสรฟุตบอลอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด (Oxford United) ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 3 เดือน ถือได้ว่าเป็นความก้าวหน้าอีกครั้งหนึ่ง ในการส่งเสริมให้เด็กนักเรียนโครงการสานฝันฯ ที่มีทักษะทางด้านฟุตบอล ได้มีโอกาสขยายความสามารถไปสู่ความเป็นเลิศต่อไปในอนาคต นับว่าเป็นความสำเร็จของโครงการอีกขั้นหนึ่ง ที่จะพัฒนานักกีฬาเยาวชนของไทย ก้าวไกลสู่มาตรฐานระดับโลก” พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว