โครงการ CONNEXT ED

เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาครัฐ เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน ประจำปี 2562 (CONNEXT ED Workshop 2019)” โดยมีนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาคเอกชน พร้อมด้วยผู้แทนภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนโครงการ ผู้แทนภาคประชาสังคม ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และ School Partner เข้าร่วมงาน ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว กรุงเทพฯ 


รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาการศึกษาไทยในโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ส่งผลต่อการสร้าง 3 สิ่งสำคัญให้เกิดขึ้น นั่นก็คือ “ประวัติศาสตร์” ในการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือของทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมพัฒนาการศึกษาในโรงเรียนทั้ง 4,700 แห่งทั่วประเทศ นำไปสู่ “การปฏิรูปการศึกษา” ในทุกมิติ ถือเป็น “ปาฏิหาริย์” ต่อการเสริมความเข้มแข็งของการจัดการศึกษาภาครัฐที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต


ขณะเดียวกัน ภาครัฐก็พร้อมสนับสนุนภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างเต็มที่เช่นกัน โดยเฉพาะการส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู และผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) ที่เกิดจากโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน กว่า 900 คน ไปจนถึงผู้นำด้านเทคโนโลยีการศึกษา (ICT Talent) ของภาคเอกชน เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดเป็นห้องเรียนแห่งอนาคต ตลอดช่วงเวลา 1 ปีการศึกษาที่จะต้องลงปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนประชารัฐเป้าหมายทั้ง 4,700 แห่ง โดยมีบทบาทสำคัญต่อการนำเสนอบริบทของโรงเรียนต่อองค์กร เพื่อคัดเลือกองค์ความรู้และจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ สนับสนุนได้อย่างเหมาะสมต่อไป


ในส่วนกระทรวงศึกษาธิการจะได้รวบรวมข้อมูลสู่ระบบ School Management เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาโรงเรียน พร้อมกับผลักดันให้ทุกโรงเรียนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างครอบคลุม และส่งเสริมการสื่อสารภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ จากทั่วทั้งโลก


“มีความมั่นใจว่า ผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School Partner จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริง ช่วยสร้างโอกาสที่ดีแก่เด็กและเยาวชนไทยให้เติบโตเป็นกำลังสำคัญ และเป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไป เช่นเดียวกับความมั่นใจที่มีต่อความสามารถของชาวกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะผ่านพ้นปัญหาต่าง ๆ ไปได้ เพราะตลอดระยะกว่า 3 เดือนที่มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทุกคนได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการดำเนินงานหลายส่วน ขณะเดียวกันก็พยายามผลักดันและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ลุล่วงหรือมีความก้าวหน้ามากขึ้น รวมทั้งพร้อมที่จะร่วมสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องสู่ระยะที่ 3 ตามโครงการสานอนาคตการศึกษา หรือ CONNEXT ED เพื่อขยายผลความสำเร็จในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย อย่างเท่าเทียมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ภายใต้การดำเนินงานของ “ประชารัฐ” ได้อย่างแน่นอน” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว


นายศุภชัย เจียรวนนท์ กล่าวว่า โครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED มีที่มาจากโครงการประชารัฐที่สนับสนุนให้ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศในด้านต่าง ๆ โดยการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ มีเป้าหมายนำความคล่องตัว และองค์ความรู้ด้านการบริหารงานของภาคเอกชน มาเชื่อมโยงกับการดำเนินงานของภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคุณภาพมนุษย์ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ


โดยตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีของโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED มีผลการดำเนินงานในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 4,781 โรงเรียน มีนักเรียนเข้าร่วมการพัฒนากว่า 1 ล้านคน ทั้งยังมีการขยายความร่วมมือใน 12 องค์กรเอกชนผู้ร่วมก่อตั้ง และพันธมิตรภาคเอกชน 21 องค์กร รวมทั้งสิ้น 33 องค์กร ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานทั้ง 5 ยุทธศาสตร์ในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ กว่า 3,153 ล้านบาท


ส่วนแนวทางการดำเนินงานในระยะที่ 3 ได้เตรียมการรองรับการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานในหลายส่วน อาทิ การจัดทำโครงการสมุดพกดิจิทัล เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลและการจัดการสถานศึกษา, การพัฒนาระบบการบริจาคออนไลน์ CONNEXT ED Crowdfunding เพื่อระดมทุนสนับสนุนการศึกษา, การจัดตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ด้านการยกระดับคุณภาพการศึกษาพื้นฐานของประเทศ ที่สำคัญคือการขยายความร่วมมือไปยังองค์กรภาคเอกชนอื่น ให้ครอบคลุมโรงเรียนที่ต้องการการสนับสนุนจากภาคเอกชน รวมทั้งเดินหน้าสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ ขอขอบคุณองค์กรภาคเอกชนทั้ง 33 องค์กร ที่ร่วมสนับสนุนโครงการมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง School Partner ที่เป็นผู้นำอาสาสมัครรุ่นใหม่ ที่มีความทุ่มเทแรงกายแรงใจ และมุ่งสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มีอนาคตและความเป็นอยู่ที่ดี ขอทุกคนอย่าละความตั้งใจ เพื่อที่เราจะเดินหน้าเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของไทยไปพร้อม ๆ กัน       


อรพรรณ ฤทธิ์มั่น: สรุป
นวรัตน์ รามสูต: เรียบเรียง
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
19/11/2562