เสมา3 ชื่นชม กศน.-สช.-มหาไถ่ บึงกาฬ เตรียมการเปิดเทอมอย่างมีมาตรฐาน สร้างศูนย์การเรียนรู้ชุมชนสำหรับคนทุกช่วงวัย พร้อมจับมือเครือข่ายพัฒนาการศึกษาเอกชน-คนพิการอย่างเป็นระบบ

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม 2563 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายพะโยม ชิณวงศ์ ประธานที่ปรึกษา รมช.ศธ. ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนและติดตามภารกิจ กศน. และ สช. ภายใต้สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ สำนักงาน กศน.จังหวัดบึงกาฬ และโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาบึงกาฬ โดยมีนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายธีระพงษ์ สารแสน รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายประเวช เหล่าประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดบึงกาฬ ตลอดจนคณะครู บุคลากร และนักเรียนนักศึกษา กศน. ให้การต้อนรับและเข้าร่วม

 width=

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการกล่าวรายงานถือว่า บึงกาฬเป็นจังหวัดที่ผู้คนอัธยาศัยดี มีมิตรไมตรี และยังมีพ่อเมืองที่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจังหวัดให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไปจนถึงการร่วมมือร่วมใจกันของคนบึงกาฬ เพื่อปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังของโควิด-19 เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเตรียมการเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2563 สถานศึกษาส่วนใหญ่สามารถเปิดเรียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ขอแสดงความชื่นชมในการสร้างโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาอาชีพ สำนักงาน กศน.จังหวัดบึงกาฬ ได้ขับเคลื่อนการจัดกิจกรรมทางการศึกษาที่มีความหลากหลาย จัดการศึกษาตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ และมีความก้าวหน้าในการนำนโยบาย WOW ไปสู่การปฏิบัติในหลายส่วน อาทิ พัฒนาครูภาษาอังกฤษ และจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์, ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้พร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ และการเรียนรู้ของประชาชน, การเรียนการสอนออนไลน์ Google classroom รถห้องสมุดเคลื่อนที่ ส่งเสริมการอ่านหนังสือผ่าน QR code เมล็ดพันธุ์พระราชทานแจกจ่ายประชาชน การสอนหลักสูตรอาชีพระยะสั้น, ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ส่งเสริมการขายสินค้าออนไลน์ โดยกลุ่มอาชีพร้านค้าออนไลน์ ตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ส่งเสริมเกษตรปลอดสารพิษ เกษตรธรรมชาติ, ผลิตภัณฑ์ทำจากกก จาก “กุดทิง” พื้นที่ชุ่มน้ำโลกลำดับที่ 12 ของประเทศไทย อาทิ กระเป๋า หมวก กล่องทิชชู เสื่อ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากต้นคล้าด้วย

 width=  width=  width=  width= width=  width=

จากนั้น รมช.ศึกษาธิการ และคณะ เดินทางต่อไปยังโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาบึงกาฬ เพื่อติดตามภารกิจ สช. พร้อมเยี่ยมชมโรงเรียน โดยมีซิสเตอร์ มารีอา ตอวิเชียร อธิการิณีและผู้จัดการ ซิสเตอร์ ดาริณี หมิ้นทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู นักเรียน และภาคีเครือข่ายในจังหวัดบึงกาฬ 17 แห่ง ให้การต้อนรับ

“ขอแสดงความชื่นชมโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาบึงกาฬ ที่บริหารจัดการด้านสภาพแวดล้อมและอาคารสถานที่ให้มีบรรยากาศสะอาดร่มรื่น ในส่วนของการจัดการเรียนการสอนด้วยกิจกรรมแบบโครงงาน STEM เพื่อสร้างทักษะและกระบวนการคิดที่เป็นระบบ การจัดกิจกรรมหมู่บ้าน 4 สี เพาะพลังแห่งความดีงามให้เติบโตในใจเด็ก ตลอดจนกิจกรรมค่ายวิชาการ ลูกเสือ-เนตรนารี เพื่อฝึกทักษะชีวิต การแก้ไขปัญหา การทำงานเป็นทีม ฝึกการเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี และการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีความพร้อมครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ทั้งด้านร่างกาย ด้านสติปัญญา ด้านอารมณ์ และด้านสังคม สิ่งสำคัญคือการร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อจัดการศึกษาภายใต้สถานการณ์โควิด-19 สอดคล้องตามมาตรการของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขในทุกมิติ

จึงพูดได้ว่า แม้บึงกาฬจะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่มีโรงเรียนและสถานศึกษาเอกชนเพียง 25 แห่ง มีนักเรียน 8,539 คน และมีครู 359 คน แต่สร้างโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้เพื่อการประกอบอาชีพสร้างรายได้แบบคุณภาพคับแก้ว ซึ่งเป็นผลที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจของครูและผู้บริหารทุกคน ขอให้ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีแก่ลูกหลานและประชาชนชาวบึงกาฬอย่างมีมาตรฐานเช่นนี้ต่อไป และร่วมจับมือไปกับครูพี่โอ๊ะ เพื่อทลายข้อจำกัดทางการศึกษาให้หมดไปโดยเร็ว

 width=  width=  width=  width=  width=  width=  width=

นอกจากนี้ ได้มีโอกาสไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านท่าสะอาด อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เป็นโรงเรียนชายขอบอยู่ในเขตติดต่อระหว่างบึงกาฬและสกลนคร ทั้งยังเป็นอำเภอสุดท้ายที่ติดกับจังหวัดสกลนคร ซึ่งโรงเรียนมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่ มีการคัดกรอง วัดไข้ และเว้นระยะห่าง ตลอดจนอยู่ภายใต้การดูแลของคณะครูอย่างใกล้ชิด จึงฝากให้รักษามาตรฐานการปฏิบัติเช่นนี้ไว้ พร้อมร่วมมือกับเครือข่ายในพื้นที่จัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพพื้นที่ต่อไป” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

 width=  width=  width=  width=  width=

นวรัตน์ รามสูต: สรุป/เรียบเรียง
อิทธิพล รุ่งก่อน: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
2/7/2563