นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีเปิดงาน “เดินหน้า สกสค.” ครั้งที่ 1 เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวแสดงความชื่นชมการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามีความก้าวหน้าและช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับกระทรวงศึกษาธิการในยุคนี้ที่สามารถสะสางการทุจริตคอร์รัปชั่นมีความก้าวหน้าและอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายหลายคดี
รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ที่ได้หารือร่วมกับธนาคารออมสิน ทำให้ทราบว่าธนาคารมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 18% จากหนี้สินครูกว่า 5 แสนล้านบาท ประกอบกับในอดีต สกสค. หักเงิน 0.5-1% ในโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) เข้ากองทุนสนับสนุนพิเศษ ช.พ.ค. พร้อมมีข้อตกลงว่า หากผู้กู้ไม่ชำระเงินติดต่อกันต่อเนื่อง 3 เดือน เพื่อไม่ให้ธนาคารมีหนี้ NPL ธนาคารสามารถหักเงินส่วนนี้คืนจนกว่าจะมีหนี้สะสมติดกัน ทำให้ธนาคารต้องหักเงินไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท เมื่อนั้นธนาคารออมสินจึงจะทยอยคืน
ซึ่งการเจรจาเพื่อขอให้ธนาคารออมสินยกเลิกการหักเงินส่วนต่างของดอกเบี้ย 0.5-1% ในโครงการ ช.พ.ค.และ ช.พ.ส. ก็ประสบความสำเร็จ โดยจะนำเงินส่วนนี้คืนให้แก่ครูที่มีวินัยทางการเงินดี เพื่อช่วยลดอัตราดอกเบี้ย ขณะนี้มีครูได้รับประโยชน์แล้วกว่า 3.9 แสนคน และทำให้ NPL ลดลงจาก 18% เหลือเพียง 0.5% เท่านั้น ทั้งนี้ธนาคารจะไม่คืนไม่ได้ มิฉะนั้นธนาคารจะล้มและกระทรวงการคลังก็ต้องหาเงินมาช่วยเหลือ ดังนั้น ครูทั้งหลายจึงมีส่วนช่วยให้ธนาคารอยู่รอด
ในส่วนของการทำประกันชีวิต ได้ขอให้ทบทวนรูปแบบที่เหมาะสมและดีขึ้นกว่าเดิม และหากนำเงินส่วนนี้กลับคืนมาได้จริง ก็จะมีงบประมาณในการพัฒนาสวัสดิการเพื่อช่วยวิชาชีพครูมากขึ้น จึงเชื่อว่า สกสค.ในยุคนี้มีศักยภาพในการบริหารจัดการงบประมาณและลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อนำผลกำไรมาช่วยบุคลากรทางวิชาชีพครูมากขึ้นอีกทางหนึ่ง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวย้ำถึงการทำงานของ สกสค.ด้วยว่า ควรยึดหลักความโปร่งใสและไม่ใช้อำนาจเกินขอบเขต เพื่อพัฒนางานและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา อาทิ การออกข้อบังคับเอง ระบบการเงินที่ไม่ชัดเจน หรือเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ พร้อมได้ประสานขอความร่วมมือให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มาช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ขอฝากคำสอนของพระนักปฏิบัติที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการโกงว่า “ใครโกง ลูกหลานไม่เจริญ ทำให้ชีวิตจมลงทุกราย และเมื่อต้องจบชีวิตก็จะจบแบบไม่ดี”
โอกาสนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบโล่แก่พระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธมฺมธโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพฯ ผู้มีคุณปการต่อการศึกษาชาติ พร้อมโล่สำหรับผู้บริจาคทรัพย์ให้โรงพยาบาลครู จำนวน 6 คน ได้แก่ 1) นายธีระศักดิ์ กำบรรณารักษ์ 2) นายพิทยา มหิทธิวาณิชชา 3) นายโชติ แสงรัตนกุล 4) นางสาวศศิธร เอี่ยมแก้ว 5) นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ และ 6) นางสุณี พิทยาอิสรกุล และรางวัลผู้ที่ประสบความสำเร็จจากโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ : นางพิมพ์รัตน์ วิลาชัย ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลพะเยา จ.พะเยา จากครูสู่เจ้าของธุรกิจ, ภาคใต้ : นางเสาวลักษณ์ ทองย้อย ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง สร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์, ภาคกลาง : นายทรงเดช ขุนแท้ ศึกษานิเทศก์ชำนาญ อดีตข้าราชการครู ต่อยอดการเกษตรสู่เจ้าของกิจการ “บ้านสวนขนุนเดช” และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : นางกมลเนตร เพ็ชรกูล ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเชียงยืนวิทยาคม จ.มหาสารคาม สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น “หัตกรรมบนแผ่นกระจก” เพื่อสร้างรายได้ และส่งต่อสู่เด็กเยาวชนรุ่นหลัง
นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวถึงผลการดำเนินงานของ สกสค. ภายใต้แนวคิด “ซ่อมอดีต สร้างอนาคต” ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2561) ได้จัดสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างมีมาตรฐาน ภายใต้ยุทธศาสตร์การดำเนินงานภารกิจ 4 ด้าน ได้แก่ การปฏิรูปองค์กรสู่ความโปร่งใส การประสานความร่วมมือ ยกระดับคุณภาพการจัดสวัสดิการสวัสดิภาพมุ่งสู่คุณภาพการศึกษา การสร้างรายได้อย่างมั่นคง ดำรงการจัดสวัสดิการ และการเพิ่มคุณภาพการให้บริการหลากหลายสื่อนวัตกรรมทางการศึกษา
โดยมีผลการดำเนินงานที่มีความก้าวหน้าหลายส่วน อาทิ
-
การซ่อมอดีต ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะสะสางปัญหาอุปสรรคที่หมักหมมมานาน รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของ สกสค. ให้เป็นหน่วยงานระดับมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน
-
การสร้างอนาคต ได้ระดมพลังจากทีมงานทั้งส่วนกลางและสำนักงาน สกสค.จังหวัด ทั้ง 77 จังหวัด เพื่อวางแผนดำเนินงานและเตรียมการพัฒนาการทำงานของ สกสค. เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายโครงการ อาทิ การให้บริการเหนือความคาดหมาย, การจัดตั้ง “ศูนย์พิทักษ์สวัสดิภาพครูไทย” เพื่อช่วยเหลือครูให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, การพัฒนาปรับปรุง “โรงพยาบาลครู” ให้เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่คุณภาพใหญ่ เตรียมเปิดให้บริการคลินิกนอกเวลา, การปรับปรุงการให้บริการหอพัก, การยกระดับการบริหารจัดการ ช.พ.ค. และ ช.พ.ส. และการสมัครเข้ารับรางวัลเลิศรัฐ ด้านการบริการที่เป็นเลิศ เป็นต้น
ทั้งนี้ การจัดงานเดินหน้า สกสค. ครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2562 ณ บริเวณโดยรอบหอประชุมคุรุสภาและสำนักงาน สกสค. เพื่อแสดงผลงานและพัฒนาการของการจัดสวัสดิการและสวัสดิภาพให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ การมอบรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์, การเสวนาเรื่อง การจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพอย่างไร ให้ถูกใจครู, การทอล์กโชว์ โดยอาจารย์จตุพล ชมพูนิช การแสดงของนักเรียนและครู เป็นต้น