เทคนิค“ทำรถลอยน้ำ”

เทคนิค“ทำรถลอยน้ำ”
 
 

อนาคตเผื่อท่วมซ้ำ มีวิธีป้องกันรถยนต์จมน้ำ ไม่ต้องวุ่นวายหาที่จอดระดับสูง ใช้เพียง “ตาข่าย-ผ้าใบ” ทดสอบมั่นใจ “เอาอยู่-ใช้งานจริงได้ทันที”

รศ.ดร.ทวิช จิตสมบูรณ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เปิดเผยถึง เทคนิคการทำให้รถลอยน้ำได้ โครงการ 2 ว่า จากการที่ มทส.ได้พัฒนา และทดลองหุ้มรถยนต์ ด้วยผ้าใบคลุมรถสิบล้อ และตาข่าย เพื่อป้องกันน้ำท่วมไปแล้วนั้น ขณะนี้ทีมงานได้ปรับปรุง พัฒนา ให้มีราคาถูกลง เนื่องจากรุ่นแรกมีราคาแพงพอควร คือ ราคาผ้าใบประมาณ 6-7 พันบาท ราคาตาข่าย 1,300 บาท ดังนั้น ชุดที่สองนี้จึงได้ทดลองนำเอาพลาสติกการเกษตรสำหรับบุสระน้ำ หรือ บ่อกุ้ง มาใช้แทนผ้าใบ ราคาผืนละประมาณ 500 บาท (ขนาด 3.60 X 7 เมตร) นอกจากนี้ ยังใช้ตาข่ายเชือกในล่อนที่มีขนาดเล็กลง โดยมีรูตาข่ายขนาด 1 นิ้ว ผืนละประมาณ 350 บาท และเชือกมัด ประมาณ 100 บาท รวมราคาวัสดุทั้งหมดประมาณ 1,000 บาท

“โดยหลักการทำงาน และห่อหุ้ม เหมือนการทดลองชุดที่หนึ่ง คือ ทำความสะอาดพื้นผ้าพลาสติก และล้อรถให้ปราศจากกรวด เพื่อป้องกันการทิ่มทะลุ จากนั้น ขึงพลาสติกหย่อน ๆ วางบนพื้นราบ (การย่นตัวจะทำให้พลาสติกไม่ถูกดึงตึงจนฉีกขาดได้ แต่แรงดันน้ำจะดันตัวอัดกับตาข่ายแบบเฉลี่ยน้ำหนักไปทั่ว ซึ่งพลาสติกนี้จะส่งแรงไปดันรถที่ล้อทั้งสี่ ทำให้รถลอยขึ้นได้) แล้วขึงตาข่ายทับพลาสติกแบบตึง ๆ พบว่า อาจมีการรั่วซึมที่บริเวณล้อ เนื่องจากแรงกดของน้ำอาจไปกดพลาสติกให้อัดกับตาข่าย จนกระทั่งปมตาข่ายไปทำให้เกิดรูเข็มบนพลาสติกได้ ซึ่งได้ทดลองเอากระดาษกล่องอย่างหนารองไว้ที่ล้อทั้งสี่ด้าน ระหว่างพลาสติก และตาข่าย พบว่า ปัญหารั่วรูเข็มหายไป

นอกจากนี้ ขอแนะนำว่า ก่อนเอารถขึ้น ควรปล่อยยางลมเหลือประมาณ 15 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เพื่อทำให้ยางแบน จะช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีกว่ายางแข็ง บรรเทาปัญหาฉีกขาดได้มาก จากนั้น รัดตาข่ายด้วยเชือก แบบถี่ ๆ ประมาณ 20 ตลบ ให้ตึงรอบคันรถ แล้วมัดพลาสติกหลวม ๆ เข้ากับตัวรถ ต่อมา ขั้นสุดท้ายผูกรถเข้ากับหลักเสา อย่างน้อยสองหลัก เช่น เสาสี่เสาของโรงจอดรถ เสาไฟฟ้า หรือ ในกรณีลานจอดรถ อาจผูกกับถุงทรายที่จมน้ำอยู่ เพื่อป้องกันรถลอยหาย หรือ กระแทกเสา ทั้งนี้ อาจกันการกระแทกด้วยล้อยาง (แบบเรือเมล์ที่เข้าเทียบท่า) ทั้งนี้ ระวังเชือกที่ผูกยึดกับเสา ไม่ควรสั้น หรือ ยาวเกินไป” รศ.ดร.ทวิช กล่าว

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มทส. โทรศัพท์ 0-4422-4410-1 หรือ ส่วนประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 044-224082-5.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

แหล่งที่มา : http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=651&contentID=178523