นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีถวายราชสดุดี และถวายบังคมพระราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า หรือวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ณ กระทรวงศึกษาธิการ และสวนลุมพินี กรุงเทพฯ
– พิธีถวายราชสดุดี ณ กระทรวงศึกษาธิการ
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีถวายราชสดุดี ณ บริเวณด้านหน้าองค์พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีผู้บริหารระดับสูง คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ข้าราชการ และลูกเสือเนตรนารี จากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมพิธี อาทิ นายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ และลูกเสือเนตรนารีจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมพิธี
นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานตอนหนึ่งว่า ด้วยในวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า กระทรวงศึกษาธิการจึงได้จัดกิจกรรมวางพวงมาลาและถวายราชสดุดี เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้านการศึกษา เพื่อพสนิกรชาวไทยและประเทศชาตินานัปการ
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระมหากรุณาธิคุณต่อกิจการด้านการศึกษา และเป็นผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย ได้เวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกวาระหนึ่ง
บุคลากรทางการศึกษา และบรรดาลูกเสือเนตรนารี ตลอดจนบุคลากรทางการลูกเสือทุกหมู่เหล่า ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้พร้อมใจกันแสดงความกตัญญูกตเวที ด้วยการวางพวงมาลา ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ พร้อมประกอบพิธีถวายราชสดุดี และร่วมปฏิบัติกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์โดยพร้อมเพรียงกันทั่วราชอาณาจักร อันเป็นประเพณีของลูกเสือที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ของทุกปี
ด้วยพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเล็งเห็นว่าประเทศชาติจะมีความมั่นคงได้นั้น จำต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ และกำลังกองทัพที่มีคุณภาพ และมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงทรงตั้งกองเสือป่า และนำเยาวชนมาฝึกอบรมตามหลักวิชาการทหาร เพื่อเป็นกำลังสำรองในการป้องกันประเทศ
ต่อมาได้ทรงตั้งกองลูกเสือขึ้น เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 โดยมีพระราชประสงค์ให้นำกิจการลูกเสือไปเผยแพร่ตามโรงเรียนต่าง ๆ ในทุกมณฑลของประเทศ เพื่อฝึกอบรมเด็กและเยาวชนของชาติ ให้เป็นพลเมืองดี เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ดั่งพระราชดำรัสที่ว่า “ข้าไม่ต้องการตำราเรียนที่เดินได้ ที่ข้าอยากได้นั้น คือเยาวชนที่เป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์ สุจริต มีอุปนิสัยใจคอดี” ดังนั้น บรรดาลูกเสือในยุคต่อมาจึงมุ่งมั่นดำเนินตามแนวราโชบายจวบจนปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นปีที่ 108 แล้ว
จากพระราชปณิธานของ ผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย ที่ได้ทรงมุ่งหมายให้ทุกท่านประพฤติชอบ ด้วยกาย วาจา และใจ ตามกฎของลูกเสือ 10 ข้อ และคติพจน์ของลูกเสือข้อความว่า “เสียชีพอย่าเสียสัตย์” ซึ่งเชื่อมั่นว่า หากทุกท่านประพฤติปฏิบัติได้ดังนี้แล้ว จะเกิดเป็นผลดีต่อตนเอง สังคม ตลอดจนประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเรา และหากดวงพระวิญญาณทรงทราบ ก็คงจะทรงปิติโสมนัสยินดี ที่พระราชปณิธานของพระองค์ สำเร็จสมดังพระราชประสงค์
– พิธีถวายราชสดุดี เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ณ สวนลุมพินี
จากนั้นในเวลา 10.30 น. รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีถวายราชสดุดี ณ บริเวณลานพระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี โดยวางพวงมาลาพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 พร้อมจุดเครื่องทองน้อย ถวายบังคม และนำประกอบพิธีถวายราชสดุดี
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ความตอนหนึ่งว่า “ในโอกาสที่ได้มาพร้อมกันต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ พระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ในวันนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระองค์ ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดลูกเสือไทย จึงให้ผู้บังคับบัญชาลูกเสือและลูกเสือทั้งหลาย จงพร้อมใจกันรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อพวกเรา ขอให้ทุกคนจงตั้งจิตปณิธานอันแน่วแน่ สนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชประสงค์เห็นคนในชาติบ้านเมือง มีความสามัคคี มีวินัย เพื่อว่าจะได้เตรียมตัวให้เป็นพลเมืองดี ไม่ใช่ของประเทศเท่านั้น แต่เป็นพลเมืองดีของโลกด้วย
ลูกเสือพึงระลึกไว้เสมอว่า การเป็นลูกเสือมิใช่ว่าเป็นเพียงของสนุก แต่จงเป็นลูกเสือด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ เสียสละ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือและบุคลากรทางการลูกเสือทุกภาคส่วน จงพร้อมใจกันประสานสัมพันธ์ พัฒนาหล่อหลอมเด็ก เยาวชน และประชาชน ให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งเชื่อมั่นว่าหากเด็ก เยาวชน และประชาชนมีคุณภาพและเข้มแข็ง สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จะมีความมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป”
นวรัตน์ รามสูต: สรุป/เรียบเรียง
อิทธิพล รุ่งก่อน: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
25/11/2562