ลงนามความร่วมมือ “การอบรมครูด้วยระบบทางไกล โครงการพัฒนานักเรียนอย่างมีคุณภาพด้วยการจัดประสบการณ์เรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสะเต็มศึกษา โดยบูรณาการกับหน่วยงาน 4 สังกัด”

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานและร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามความร่วมมือ “การอบรมครูด้วยระบบทางไกล โครงการพัฒนานักเรียนอย่างมีคุณภาพด้วยการจัดประสบการณ์เรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสะเต็มศึกษา โดยบูรณาการกับหน่วยงาน 4 สังกัด” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) และมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 ชั้น 2 อาคาร 4 กระทรวงศึกษาธิการ

โดยมีผู้แทนหน่วยงานร่วมลงนาม ได้แก่ ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สสวท. นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการ สช. และนายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และมีนายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการ กพฐ. คณะผู้บริหาร บุคลากรและเจ้าหน้าที่ ร่วมเป็นสักขีพยาน

 width=

 width=

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า การเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และสะเต็มศึกษา รวมทั้ง Coding ในทุกโรงเรียนทุกระดับ เป็นนโยบายเร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาล เพื่อมุ่งพัฒนานักเรียนไทยให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และมีสมรรถนะอันพึงประสงค์ ซึ่งจะต้องพัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการเรียนรู้อย่างเข้มข้น พร้อมทั้งเอื้ออำนวยความสะดวกครูผู้สอนที่เข้าร่วมรับการพัฒนาอย่างเต็มที่ด้วย

การลงนามครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ของทุกสังกัด ด้วยการอบรมครูระบบทางไกลผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) และสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Channel) สร้างความเข้มแข็งเชิงวิชาการของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครูของสถานศึกษาในทุกสังกัด ทุกเขตพื้นที่การศึกษา และทุกจังหวัด และสร้างความร่วมมือของเครือข่ายโครงการในการพัฒนานักเรียนอย่างมีคุณภาพด้วยการจัดประสบการณ์เรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสะเต็มศึกษาอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและยั่งยืน

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่าหลังจากที่ได้ลงนาม MOU ร่วมกันแล้ว จะอำนวยความสะดวกให้ครูสามารถลงทะเบียนเข้ารับการอบรมที่ไหนก็ได้ โดยให้หน่วยงานเครือข่ายโครงการ ได้แก่ สสวท., สพฐ., สช., สถ. และ กทม. ไปร่วมกันปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางเกี่ยวกับการโอนเงินงบประมาณมาให้ครูในทุกสังกัด ทุกเขตพื้นที่การศึกษา ทุกจังหวัด ได้เข้าอบรมด้วยความสะดวกได้อย่างไร

 width=

 width=

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยังให้ความสำคัญกับการอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนและจำเป็นอย่างยิ่งที่ ศธ. จะต้องสร้างคนให้มีความรู้ ความสามารถ และมีความรับผิดชอบ ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพเข้าสู่ตลาดแรงงานภายใน 3 – 4 ปีข้างหน้า โดยการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมา Up-Skill, Re-Skill ด้านการเกษตรและประมง เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เพื่อให้เป็น Smart Farming และส่งเสริมให้อาชีพเกษตรกรรมไทยเป็นอัตลักษณ์และความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของคนไทย ตลอดจนให้สังคมเกษตรกรรมไทยก้าวไปสู่ยุคเกษตร 4.0 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ขอขอบคุณและขอชื่นชม ท่านผู้บริหารระดับสูงของทุกสังกัด และคณะทำงานทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจกันจัดให้มีการอบรมครูด้วยระบบทางไกลเชิงปฏิบัติการขึ้นในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการอบรมเชิงปฏิบัติการนี้จะทำให้ครูพี่เลี้ยงและครูผู้สอนที่เข้ารับการอบรม จากทุกสังกัด มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรม ไปปรับการเรียนเปลี่ยนวิธีสอน และจัดการเรียนการสอนในวิชาดังกล่าว ในโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขออวยพรให้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

 width=

ด้านศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สสวท. กล่าวว่า สสวท. เป็นหน่วยงานหลัก ในการดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ตลอดจนพัฒนาสื่อการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำเป็นต้องให้ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจในหลักการต่าง ๆ ของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด รวมทั้งกระบวนการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้สอดคล้องกับตัวชี้วัด สสวท. จึงได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ จัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยระบบทางไกลขึ้น

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ครูผู้สอน มีความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานหลักสูตรและตัวชี้วัด วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ รวมทั้งวิธีการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับตัวชี้วัดดังกล่าว และสามารถนำความรู้ไปจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาของตนเอง หรือสถานศึกษาอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

 width=

 width=

ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน มีนาคมถึงพฤษภาคม โดยดำเนินการ 3 ปี ต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละปีจะแยกการอบรมเป็น 2 ช่วงระยะเวลา ระยะแรกเป็นการอบรมครูพี่เลี้ยง และระยะที่สอง เป็นการอบรมครูผู้สอน ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีโรงเรียนร่วมเป็นศูนย์ฝึกการอบรมครูทั้งสิ้น 681 ศูนย์ ครอบคลุมทั้ง 4 สังกัด กระจายทั่วประเทศ คาดว่าจะมีครูลงทะเบียนผ่านระบบเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ประมาณ 66,000 คน

สำหรับหน่วยงานเครือข่ายโครงการฯ ได้แก่ สสวท., สพฐ., สช., สถ. และ กทม. จะจัดตั้งศูนย์การอบรมครูเพื่อขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสะเต็มศึกษา ในสถานศึกษาของทุกสังกัด ครอบคลุม 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ซึ่งสนับสนุนงบประมาณให้บุคลากรในสังกัดเข้ารับการอบรมพัฒนาที่จัดโดย สสวท.

โดยทางมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งกำกับดูแลสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) และสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Channel) จะให้การอนุเคราะห์จัดสรรเวลาเพื่อการอบรมครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสะเต็มศึกษาตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ

 width=

ณรีรัตน์ บุญหลัง: สรุป/เรียบเรียง
ทิพย์สุดา ศรีษะแก้ว: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
26/2/2563