รมว.ศธ.เพิ่มพูน เดินหน้าการศึกษาไทย สร้างความเท่าเทียม เรียนดี มีความสุข

วันนี้ (24 มกราคม 2567) พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเสวนาในหัวข้อ ”เรียนดี มีความสุข ขยายโอกาสเพื่อคนไทย“ พร้อมกับ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในงานสัมมนา Thailand 2024 The Great Challenges (เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส) โดยมี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการและโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และว่าที่ร้อยที่ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้าร่วม ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ

ส่วนลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง จัดทำแพลตฟอร์ม Anywhere Anytime เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เตรียมจัดระบบสอบเทียบ เพราะเด็กเก่ง ซึ่งมีความเป็นเลิศอยู่แล้ว ก็อาจไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบการศึกษา ซึ่งหากสอบเทียบได้ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีนโยบาย มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn) ขณะที่กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) จะเข้ามาช่วยเสริมในส่วนการศึกษานอกระบบ เป็นการเรียนรู้ทุกช่วงวัย ซึ่งไม่ถือว่าซ้ำซ้อน เป็นการซ่อมเสริมในส่วนที่ขาดสำหรับกลุ่มที่ไม่สามารถเรียนในระบบการศึกษาได้ โดยผู้ที่เรียน กับ สกร. สามารถไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ อว. ศธ. กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทย ทำงานเชื่อมโยงกัน ซึ่งหัวใจหลักของนโยบายคือ ทำอย่างไรให้เด็กรักชาติ เน้นให้เด็กเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ให้เป็นคนดีมีคุณธรรม โดยปัจจุบันการเรียนประวัติศาสตร์เน้นสอนคิดวิเคราะห์มากขึ้น ทั้งประวัติศาสตร์ในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เห็นว่าประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีความมั่นคง เพราะคนในประเทศนั้น ๆ มีความสามัคคีกัน ทั้งหมดนี้จะต้องมีการอบรมครู เพื่อให้สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้วย

ส่วนนโยบายการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กนั้น ให้เป็นไปตามความต้องการของชุมชน โดยพยายามทำโรงเรียนคุณภาพ ให้เป็น 1 อําเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ เพื่อส่งเสริมให้เด็กโรงเรียนใกล้เคียงมาเรียน เป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ศธ. ให้ความสำคัญกับการศึกษา และจริง ๆ แล้วถ้าเด็กต้องการจะเรียนที่บ้าน ก็พร้อมสนับสนุนตามนโยบายเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำแพลตฟอร์ม การเรียนรู้

นอกจากนี้ นโยบายทั้งหมดนี้ เชื่อมั่นว่ามีหลายเรื่องที่เห็นผลแล้ว อย่างเช่น ”ยกเลิกการเข้าเวรของครู” ก็ถือว่า เห็นผลแล้ว โดยล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติยกเลิกการอยู่เวรของครู ซึ่งจะช่วยลดภาระครู ลดงานเอกสาร โดยที่ผ่านมาสาเหตุที่ครูต้องทำงานต่าง ๆ เพิ่ม มีปัจจัยหลักมาจาก จำนวนที่เด็กลดลง ส่งผลให้งบประมาณ และบุคลากรลดลงตามไปด้วย และขณะนี้ ศธ. ก็อยู่ระหว่างดำเนินการของบประมาณจัดจ้างนักการ ภารโรงเพิ่มเติม เพื่อมาช่วยครูทำงานเหล่านี้

ทิพย์สุดา ศรีษะแก้ว: สรุป

นวรัตน์ รามสูต: เรียบเรียง

ฤทธิเกียรติ์ ยศประสงค์: ถ่ายภาพ

สุวิชา บุญญานุพงศ์: กราฟิก

กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน

25/1/2567