จังหวัดชลบุรี – 3 ธันวาคม 2568 / พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 22 ณ สนามศรีมหาราชา ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา
โดยศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้นายองอาจ วงษ์ประยูร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายวรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ นายเสริมฤทธิ์ หวายฤทธิ์ธนกุล รองเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ นายสันติ สิงหาพรม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นางสาวธิดาพร สุวรรณเกศาวงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชลบุรี พลตรี ศิรช์ณรงค์ หลวงเทพนิมิต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 พลตำรวจตรี พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ตลอดจนคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภาลูกเสือไทย ผู้บังคับการค่ายชุมนุม ลูกเสือ ยุวกาชาด เนตรนารี และสมาชิกผู้บำเพ็ญประโยชน์จากสถานศึกษาทั่วประเทศ เข้าร่วมกว่า 5,000 คน
พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ เดินทางไปยังลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า เพื่อวางพวงมาลัยถวายราชสักการะ หลังจากนั้นผู้แทนพระองค์และผู้ร่วมพิธี เข้าสู่พิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 22
นายองอาจ วงษ์ประยูร กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กำหนดจัดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 22 ระหว่างวันที่ 3 – 9 ธันวาคม 2568 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า ผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย เนื่องในโอกาสครบ 100 ปี วันคล้ายวันสวรรคต (25 พฤศจิกายน 2568) รวมทั้งถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์กิจการลูกเสือ
และเพื่อให้ลูกเสือได้มาอยู่ค่ายพักแรมประกอบกิจการร่วมกัน อันนำมาซึ่งความจงรักภักดี ความสามัคคี เสริมสร้างความมีระเบียบวินัย ความมีคุณธรรมจริยธรรม เพิ่มพูนทักษะ พัฒนาสติปัญญาและความรู้ ความเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติและส่งเสริมความสัมพันธ์กับคณะลูกเสือนานาชาติ โดยมีลูกเสือเนตรนารี และบุคลากรทางการลูกเสือเข้าร่วมชุมนุมประมาณ 5,000 คน
ในการนี้ นายวรัท พฤกษาทวีกุล ได้กล่าวเบิกผู้บริหารงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 22 บุคลากรทางการลูกเสือ และผู้มีอุปการคุณ จำนวน 16 ราย เข้ารับเข็มลูกเสือสมนาคุณ ชั้นที่ 3 ทั้งนี้ผู้ได้รับเข็มจะมีหนังสือสำคัญและได้รับพระราชทานเป็นกรรมสิทธิ์
จากนั้น นายเสริมฤทธิ์ หวายฤทธิ์ธนกุล นำลูกเสือกล่าวทบทวนคำปฏิญาณตามประเพณีของลูกเสือ ความว่า
“ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ลูกเสือวิสามัญ เนตรนารี และบุคลากรทางการลูกเสือ กล่าวคำปฏิญาณตามข้าพเจ้า“
”ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า
ข้อ 1 ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ข้อ 2 ข้าจะช่วยเหล่อผู้อื่นทุกเมื่อ
ข้อ 3 ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ“
ในโอกาสนี้ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ กล่าวเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 22 พร้อมให้โอวาทกับคณะลูกเสือมีใจความว่า
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 22 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต ครบ 100 ปี 25 พฤศจิกายน 2568 ในวันนี้
กิจการลูกเสือนั้น เป็นที่ยอมรับโดยสากลว่ามีคุณูปการอย่างยิ่งต่อการพัฒนาคน พัฒนาชาติ ด้วยเหตุว่า หลักการของลูกเสือ มุ่งเน้นการพัฒนาคนให้เป็นผู้มีวินัย รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ มีความซื่อสัตย์สุจริต และรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติของพลเมือง ผู้เป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ความเจริญ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า ทรงปรารภประโยชน์อันเป็นแก่นแท้ของกิจการลูกเสือนี้ ได้ทรงนำแบบอย่างกิจการลูกเสือมาใช้ในประเทศไทย เพื่อวางรากฐานสร้างเสริมให้คนในชาติ ถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติของผู้มีอารยะดังกล่าว อันจะสามารถนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญได้
การที่กิจการลูกเสือในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังคงดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืนจนถึงปัจจุบัน จึงสะท้อนให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ถึงคุณค่าและบทบาทของกิจการลูกเสือ ในการวางรากฐานสำคัญของการพัฒนาพลเมืองให้มีคุณภาพ จากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างแท้จริง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ลูกเสือทั้งหลายเมื่อได้รับโอกาสอันดี เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้แล้ว ขอจงตั้งใจเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเต็มที่ ทั้งน้อมนำเอาหลักการของลูกเสือ ไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน ประพฤติตนให้ดีอย่างผู้มีเกียรติ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้บังเกิดผลเป็นประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวม เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ชาติบ้านเมือง ตลอดจนสืบทอดเจตนารมณ์ของลูกเสือให้ดำรงอยู่คู่ประเทศชาติของเราสืบไป
ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าขอเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 22 ณ บัดนี้ ขอให้งานดำเนินลุล่วงไปด้วยดี ประสบความสำเร็จตามความมุ่งหมาย ทั้งขอให้ลูกเสือทุกคน และทุกท่านที่มีส่วนร่วมในงานนี้ ประสบแต่ความสุขสวัสดีจงทั่วกัน“ องคมนตรีกล่าว
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีเปิด ผู้ร่วมงานเข้าสู่พิธีชักธงชาติไทย ธงชาติต่างประเทศที่เข้าร่วม และธงงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 22 ขึ้นสู่ยอดเสา พร้อมการเดินสวนสนาม โดยมีแตรเดี่ยววชิราวุธวิทยาลัยให้สัญญาณเริ่มพิธี
ภายในงานยังมีการแสดงชุด “ร้อยดวงใจลูกเสือไทยน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ” จากลูกเสือเนตรนารีโรงเรียนวัดกลางคลองสาม และโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 69 จ.ปทุมธานี กว่า 300 คน เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสอันสำคัญยิ่งนี้
“การจัดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 22 ปีนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่กระทรวงศึกษาธิการและชาวลูกเสือไทยร่วมแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งการลูกเสือไทย” ผู้ทรงสถาปนากิจการลูกเสือไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2454 พระองค์ทรงเล็งเห็นคุณค่าการเรียนรู้นอกห้องเรียน และหลักสูตรลูกเสือที่ปลูกฝังระเบียบวินัย ความรักชาติ ความสามัคคี และจิตอาสา พร้อมทั้งทรงวางรากฐานกิจการลูกเสือไทย ทั้งการจัดตั้งกองลูกเสือ การพัฒนาหลักสูตร การฝึกผู้นำ และการขยายเครือข่ายทั่วประเทศ ด้วยพระราชวิสัยทัศน์อันกว้างไกล กิจการลูกเสือไทยจึงเติบโตอย่างมั่นคง เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และยังคงเป็นพลังสำคัญในการบ่มเพาะเยาวชนให้เป็นพลเมืองดีและร่วมพัฒนาชาติสืบไป”
อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว-กราฟิก
ภารุจ พูลอำไพย์ / ภาพ
