ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่อง วิกฤตองค์การค้าของ สกสค.

เมื่อวันพฤหัสบ​ดี​ที่ 9 กรกฎาคม​ 2563 นายณัฏ​ฐ​พล​ ทีป​สุวรรณ​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ศึกษาธิการ​ ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่อง วิกฤตองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือองค์การค้าของ สกสค. โดยนายปรีดา บุญเพลิง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคครูไทยเพื่อประชาชน เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามสด ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ณ อาคารรัฐสภา

 width=

– การตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิด กรณีองค์การค้าของ สกสค. ประสบภาวะ การขาดทุนสะสม รวมเป็นเงินกว่า 6,000 -​7,000 ล้านบาทหรือไม่

รมว.ศึกษาธิการ ได้ตอบกระทู้ถามสดว่า ในวันที่เข้ามารับตำแหน่ง ในช่วงแรกต้องยอมรับว่าองค์การค้าของ สกสค. เป็นหน่วยงานที่มีการขาดทุนจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง หากผู้บริหารได้พิจารณาตัวเลขการขาดทุนนี้ ก็ต้องตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนในทันที แต่การพิมพ์หนังสือขององค์การค้าของ สกสค. มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักเรียนทั่วประเทศ จึงได้มอบให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปดูแล และหาวิธีแก้ปัญหา เพื่อพลิกฟื้นหรือทำให้ธุรกิจนี้มีศักยภาพที่สามารถแข่งขันได้

นอกจากนี้ ยังพบว่า การพิมพ์หนังสือขององค์การค้าของ สกสค.ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน การจัดส่งใช้เวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง และการรับ-จ่ายเงิน จะใช้เวลา 2 เดือน ทั้งหมดนี้เป็นบริบทการบริหารจัดการขององค์การค้าของ สกสค. ที่เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพื่อแก้ไขปัญหา

สำหรับการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิดและทุจริต จนทำให้องค์การค้าของ สกสค. เป็นหนี้กว่า 6,000 ล้านบาทนั้น ได้มีการติดตามสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ต้องหาที่มาที่ไปว่าเกิดอะไรขึ้นในองค์กรนี้ สำหรับการใช้หนี้ที่มีอยู่ 6,000 กว่าล้านบาท ก็ต้องมีการนำสินทรัพย์ตีราคามาชดใช้หนี้ของ สกสค. ในราคาที่เหมาะสมตามขั้นตอน ซึ่งผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. คนใหม่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง จะเสนอแผนที่เหมาะสมและเสนอแนวทางที่ทำให้ สกสค. มีความมั่นคงต่อไป

 width=

– มติคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 ให้เลิกจ้างพนักงาน เจ้าหน้าที่ จำนวน 961 คน และมีคำสั่งองค์การค้าของ สกสค. ให้เลิกจ้างพนักงานเจ้าหน้าที่องค์การค้าของ สกสค. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นไปโดยชอบธรรมหรือไม่

ในส่วนมติบอร์ดองค์การค้าของ สกสค. นั้น ต้องยอมรับว่าการเลิกจ้างพนักงานและเจ้าหน้าที่ขององค์การค้าของ สกสค. เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เพื่อรักษาการดำเนินงานของ สกสค. ซึ่งเป็นองค์กรแม่ขององค์การค้าของ สกสค. อีกทั้งการเลิกจ้างยังเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมีผู้ได้รับผลกระทบกับผู้ถูกเลิกจ้างทั้ง 961 คน จะมีผู้ที่ได้รับเงินชดเชยประมาณ 5-6 แสนบาท จำนวน 12 คน, 6 แสน-1 ล้านบาท จำนวน 365 คน, 1-2 ล้านบาท จำนวน 413 คน, 2-3 ล้านบาท จำนวน 126 คน และ 3 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 40 คน ซึ่งถือเป็นเงินจำนวนมาก และต้องคำนึงถึงความถูกต้องด้านกฎหมาย มีการประกาศล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 30 วัน

และในขณะที่ยังไม่สามารถชดเชยได้ทันที ก็ได้จ่ายเงินชดเชยบางส่วนให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างทันที คนละ 100,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความมั่นใจว่า จะมีค่าใช้จ่ายที่ช่วยในการดำเนินชีวิต โดยไม่แตกต่างจากตอนเป็นพนักงาน

– การขายที่ดินขององค์การค้า สกสค. (โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว) เพื่อใช้หนี้ และจะยุบองค์การค้าของ สกสค. เป็นจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วถือว่าการปรับฟื้นฟูองค์กรครั้งนี้ เป็นการพลิกฟื้นขนาดใหญ่ และส่งผลกระทบในวงกว้าง แต่ถ้าไม่ดำเนินการในวันนี้แล้ว ก็จะมีผลที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น จึงขอให้มีความมั่นใจว่าคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. คนใหม่ จะร่วมกันแก้ปัญหาและพลิกโฉมองค์การค้าของ สกสค. ให้พร้อมกับการแข่งขันต่อไป

อรพรรณ​ ฤทธิ์​มั่น​: สรุป
นวรัตน์​ ราม​สูต​: เรียบเรียง
กลุ่มประชา​สัมพันธ์​ สร.: รายงาน
10/7/2563