งานวันครู ครั้งที่ 63

กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ร่วมกับทุกส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จัดงานวันครู ครั้งที่ 63 พ.ศ.2562 “คุณธรรมนำครูไทย สร้างเด็กไทยหัวใจซื่อตรง” โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธี เมื่อวันพุธที่ 16 มกราคม 2562 ณ หอประชุมคุรุสภา

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันครู ครั้งที่ 63 ว่า การจัดงานวันครูครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาผนึกกำลังจัดงานวันครู ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้มีความยิ่งใหญ่ เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง สถานศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วประเทศ ได้เห็นความสำคัญของครู ในฐานะของผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ต่อการสร้างและพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ ทั้งความเก่งและความดี ซึ่งเป็นกำลังคนที่สำคัญของชาติ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศต่อไป และเพื่อจัดแสดงผลงานด้านการศึกษาที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาลในรอบ 4 ปี ของกระทรวงศึกษาธิการต่อสาธารณชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานวันครูในครั้งนี้ เป็นปีที่ 63 โดยวันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็นงานวันครู ซึ่งครูคือ ครูของแผ่นดิน ครูของประเทศชาติ ครูของเด็ก และครูของสังคม ครูนอกจากจะมีหน้าที่ผลิตเด็กให้จบการศึกษาไปประกอบอาชีพแล้ว ก็ต้องสอนให้เด็กสร้างความสงบให้สังคม ผลิตคนให้มีงานทำ มีรายได้เลี้ยงครอบครัว รวมทั้งเป็นคนดีมีจิตอาสา ทั้งหมดถือเป็นคุณธรรมที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมีส่วนทำให้องค์กรมีความเข้มแข็ง ในขณะเดียวกันก็มีการเผื่อแผ่แบ่งปัน และส่งผลต่อไปถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติในอนาคต

ทั้งนี้ หน้าที่ของครูมีมากมายหลายด้าน ทั้งยังเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สอง ที่ช่วยอบรมบ่มนิสัยให้ศิษย์มีคุณธรรม และปลูกฝังการมีระเบียบวินัยตั้งแต่วัยเด็ก ทั้งการต่อแถว การรับประทานอาหารให้มีความเรียบร้อย นอกจากนี้ ในยุคแห่งการแข่งขันในทุกพื้นที่ทั่วโลก เช่น การแข่งขันด้านเศรษฐกิจการค้า การเปิดเสรีด้านต่าง ๆ สภาวะแวดล้อมของโลก การผลิตครูจึงต้องปรับเปลี่ยนให้ทันโลกยุคปัจจุบัน จะสอนในรูปแบบเดิมคงไม่เพียงพอ รวมทั้งขอฝากในเรื่องการคิดคำนวณคณิตศาสตร์ การคิดเร็ว และการคิดเลขในใจด้วย

สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ถือว่า “ครู” เป็นผู้มีคุณูปการต่อการศึกษา ที่จะสร้างความเจริญรุ่งเรืองของชาติและของโลกใบนี้ รวมทั้งเป็นปูชนียบุคคลที่สังคมควรให้การยกย่องและภาคภูมิใจในครู

ดังนั้น การจัดงานวันครู เป็นเสมือนสิ่งเตือนใจให้ทบทวนถึงสิ่งที่ทำในรอบปีที่ผ่านมา สิ่งใดดีก็ควรทำให้ได้ดีกว่าเดิม หรือมีสิ่งใดที่จะต้องปรับปรุงบ้าง ทั้งนี้ ต้องขอแสดงความยินดีกับครูผู้ได้รับรางวัลทุกคน นับเป็นรางวัลเชิดชูเกียรติที่มิใช่เรื่องง่ายกว่าจะได้รางวัลมา

ในส่วนของรัฐบาล มีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งการปฏิรูปก็ไม่ได้หมายความว่า การศึกษาที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเลวร้ายหรืออย่างไร แต่ปฏิรูปเพื่อปฏิรูปตนเอง ปฏิรูปเพื่อเด็ก สังคม และประเทศชาติ ซึ่งการปฏิรูปครู ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคงไม่ดีเท่าครูปฏิรูปตนเอง เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง ทั้งยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับเด็กและสังคม อาทิ การเพิ่มเติมความรู้ในห้องเรียนโดยการชั่วโมงลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้, การถกแถลงแสดงความเห็นในชั้นเรียน เกี่ยวกับประเด็นความรู้จากสื่อ Social Media, การสอนที่เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา ตลอดจนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างครูกับนักเรียน และส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงออกด้วยการพูดหน้าชั้นเรียนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

สำหรับการปฏิรูปการศึกษา ต้องจัดลำดับปัญหาและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการดำเนินงานและแก้ปัญหา ซึ่งเชื่อแน่ว่าการแก้ปัญหาบางอย่างไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จได้ภายในหนึ่งวันหรือหนึ่งปี ทุกอย่างต้องใช้เวลา หรือบางสิ่งอาจไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ แต่อาจเกิดขึ้นในรัฐบาลหน้าก็เป็นได้ ซึ่งเมื่อเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยนปัจจัยภายในภายนอกก็เปลี่ยนตาม ดังนั้นจึงต้องช่วยกันหาวิธีการปฏิรูปการศึกษาที่เหมาะสมที่สุด

ในส่วนของการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา โดยเฉพาะการนำเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษากลับเข้าสู่ระบบการศึกษา เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดจากปัจจัยหลายอย่าง บางคนอาจเรียนไม่ไหว บางคนต้องทำงานหารายได้ ดังนั้น การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยจะต้องเพิ่มสมรรถนะของสำนักงาน กศน. เพื่อยกระดับเด็กและเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษาให้มีคุณภาพการศึกษามากขึ้น สำหรับการศึกษาอาชีวศึกษา ก็ต้องพัฒนาให้เรียนอาชีวะแล้วมีงานทำ มิใช่มุ่งเรียนเพื่อใบปริญญาเพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีงานทำ โดยต้องมีข้อมูลแนวโน้มความต้องการกำลังคนของประเทศ ตลาดแรงงาน และสถานประกอบการ จึงจะสามารถผลิตคนได้ตรงกับคุณลักษณะในแบบนั้น ๆ ได้

โอกาสนี้ พล.อ.เกษม นภาสวัสดิ์ ครูของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จำได้ว่าได้สอนนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2514 ซึ่งเข้าเรียนปี 1 โดยตนสอนวิชาคณิตศาสตร์ ที่จำรุ่นนี้ได้เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ซึ่งบุคลิกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นคนรูปร่างสูงเด่น พูดจาเสียงดังฟังชัด เมื่อเดินมาในกลุ่มเพื่อนก็จะได้เห็นชัดเจน ส่วนเรื่องการเรียนทั่วไป ปกติจะจดจำเด็กได้ดีใน 2 กลุ่ม คือ เด็กที่เรียนดี และเด็กที่เรียนค่อนข้างอ่อน สำหรับนายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ในทั้ง 2 กลุ่มนี้ แต่การเรียนก็ไปได้แบบสบาย ๆ หากจะถามถึงบุคลิกของตนที่ลูกศิษย์จดจำได้แม่น คือ “ความเอาจริงเอาจังไม่ยินยอมหรือละเว้น แม้แต่เรื่องความรู้ ระเบียบวินัย”

เป็นปกติของครูที่อยากเห็นลูกศิษย์เจริญก้าวหน้า การได้เห็นว่าลูกศิษย์ทุกคนก้าวหน้าในทุกตำแหน่ง ได้เป็นสุดยอดไม่ว่าด้านใด ก็รู้สึกภาคภูมิใจเป็นธรรมดา และตนก็มีความภาคภูมิใจในตัวนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นทั้งลูกศิษย์และเป็นรุ่นน้องโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ที่มีความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งสุดยอดของประเทศ และได้ติดตามการทำงานมาตลอด ทั้งนี้มองว่าประสบความสำเร็จ ทำได้ดี รวดเร็ว แม้บางครั้งอาจจะเข้มแข็ง แต่นั่นก็เป็นเพียงบุคลิกของทหาร

การจัดงานวันครู ครั้งที่ 63 พ.ศ.2562 “คุณธรรมนำครูไทย สร้างเด็กไทยหัวใจซื่อตรง” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 มกราคม 2562 ณ บริเวณหอประชุมคุรุสภา และบริเวณโดยรอบกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ การปาฐกถาพิเศษ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ครั้งที่ 2 เรื่อง “คุณธรรมนำครูไทย” โดยได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์นายแพทย์เกษม วัฒนชัย เป็นองค์ปาฐก, การจัดแสดงนิทรรศการผลงานของกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องในโอกาสวันครู ในหัวข้อ “คุณธรรมนำครูไทย สานพลังเครือข่าย สร้างเด็กไทย 4.0” ได้แก่

   1) คุณธรรมนำครูไทย ประกอบด้วย คุณค่าแห่งศาสตร์พระราชา พาครูสู่ระบบใหม่แห่งการพัฒนา ผลิตสรรหาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รักษาความก้าวหน้าและศักดิ์ศรี ให้มีกำลังใจในชีวิต และเกิดธรรมภิบาลในสถานศึกษา
   2) สานพลังเครือข่าย ประกอบด้วย สานพลังร่วมพัฒนา การศึกษาพื้นที่พิเศษ อัพเกรดฝีมือชนคนสร้างชาติ เน้นการพัฒนาระบบดิจิตอล สร้างสรรค์หลักสูตรเชื่อมโยงทั้งระบบ ครบด้วยภาคีเครือข่าย
   3) สร้างเด็กไทย 4.0 ประกอบด้วย สร้างสรรค์นวัตกรรม นำทักษะ ICT มีทักษะผู้ประกอบการ สร้างฐานปรับตัวได้ในสังคมโลก จรรโลงด้วยคุณธรรมรับผิดชอบสังคม

อนึ่ง ในวันเดียวกันเวลา 07.00 น. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ และศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารฝ่ายการเมือง ผู้บริหารองค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับ ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 99 รูป ณ บริเวณสนามหญ้าหน้ากระทรวงศึกษาธิการ และพิธีสักการะพระพฤหัสบดี สักการะพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ตลอดจนพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศให้แก่ครูผู้วายชนม์และพิธีบูชาบูรพาจารย์ ณ หอประชุมคุรุสภา

Written by อรพรรณ ฤทธิ์มั่น
Photo Credit PR-MOE one team
Rewriter นวรัตน์ รามสูต
Editor บัลลังก์ โรหิตเสถียร