นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ) และนายพีระศักดิ์ รัตนะ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ร่วมหารือพร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคในการจัดการศึกษา ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กับเครือข่ายเพื่อพัฒนาการศึกษาเอกชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชน ประธานคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ปส.กช.) และผู้แทนโรงเรียนเอกชน ทั้งในระบบ และนอกระบบ เจ้าหน้าที่ครู และบุคลากร ภายหลังร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ ตรวจเยี่ยมโรงเรียนศรีแสงธรรม ณ โรงเรียนศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเร็วๆนี้
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในวันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้พบปะพูดคุยรวมทั้งมาให้กำลังใจ พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ของโรงเรียนเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อที่ครูโอ๊ะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้นำปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ไปขับเคลื่อน และหาทางสนับสนุนส่งเสริม เพื่อให้โรงเรียนเอกชนสามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีความสุขมากขึ้น หากสามารถขับเคลื่อนเรื่องใดได้ก็จะดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชน จากการได้รับฟังเสียงสะท้อนโรงเรียนเอกชนหลายแห่งได้รับผลกระทบรุนแรง ดังนั้นเราต้องร่วมมือร่วมใจกันก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน และที่สำคัญหากโรงเรียนสามารถกลับมาเปิดเรียน แบบออนไซต์ได้ก็จะทำให้ ครูและโรงเรียนมีขวัญกำลังใจ สามารถขับเคลื่อนระบบไปได้
“ครูโอ๊ะขอขอบคุณโรงเรียนเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบ ที่ได้มีการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพให้กับลูกหลานของเรา เบื้องต้นรัฐบาลได้มีการจัดสรรเงินเยียวยา 2,000 บาท ให้กับนักเรียน ซึ่งก็ช่วยแบ่งเบาภาระให้ผู้ปกครองได้บ้าง ขอขอบคุณประธาน (ปส.กช.) ทุกจังหวัด ทั้งในระบบและนอกระบบ ขอบคุณผู้บริหาร ครู เจ้าหน้าที่และบุคลากร ทุกคน จากหัวใจของครูพี่โอ๊ะ ทั้งยังขอเป็นกำลังใจ และขอชื่นชมในหัวใจของทุกคนที่มีความทุ่มเทเสียสละ ช่วยกันจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพด้วยความเหนื่อยยาก เพื่อช่วยกันพัฒนาเยาวชนและลูกหลานของเรา ครูโอ๊ะขอร้อยหัวใจร่วมกับพวกเราทุกคน เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกัน เพื่อก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน ที่สำคัญทุกเสียงสะท้อนที่ร่วมกันแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ หากสิ่งใดที่สามารถขับเคลื่อนได้ จะดำเนินการให้เร็วที่สุด”รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
โดยมีสรุปปัญหาอุปสรรคและเสียงสะท้อน ดังนี้
– โรงเรียนเอกชนจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง เช่น อำนาจเจริญ ได้รับผลกระทบจากการต้องคืนค่าธรรมเนียมเรียนให้กับผู้ปกครอง ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ มีโรงเรียนในจังหวัดอุบลราชธานีหลายแห่ง ที่เปิดทำการเรียนการสอนรูปแบบออนไซต์สลับกับการเรียนออนไลน์ตามบริบทของแต่ละโรงเรียน
– ในอนาคต โรงเรียนเอกชนในจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งในระบบกว่า 80 แห่ง และนอกระบบกว่า 70 แห่ง ได้หารือร่วมกันว่าถึงการเปิดภาคเรียนว่า จะต้องมีทุนด้านสื่อในการจัดการเรียนรู้ให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ มีโรงเรียนเอกชนขนาดเล็กบางแห่งที่ต้องนำทรัพย์สินไปเปลี่ยนเป็นเงิน (จำนำ) พร้อมกับลดเงินเดือนครู จึงขอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนสื่อการเรียนการสอน เพื่อให้เด็กและโรงเรียนอยู่ได้ด้วยคุณภาพ
– โรงเรียนเอกชนในภาคอีสาน มีการรวมตัวเป็นเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงขอให้ ศธ.ประสานกับกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยเจรจากับสถาบันการเงินเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยให้กับโรงเรียนเอกชนในอัตราที่ต่ำที่สุดที่จะเป็นการลดภาระของโรงเรียน ซึ่งยังไม่ต้องการกู้เงินก้อนใหม่ ที่จะเป็นภาระต่อการจ่ายดอกเบี้ย
– ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณป้องกันโควิด-19 อาทิ เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย เป็นต้น
– ขอให้ สช.ประสานลดดอกเบี้ยเงินกู้ กองทุนสงเคราะห์ (ที่ให้บริการเงินกู้แก่ครูโรงเรียนเอกชน)
-ขอให้สช.พิจารณาเกี่ยวกับการเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน
-ส่งเสริมสนับสนุนโครงการของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์และโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา โดยได้มีการหารือร่วมกันกับหลายฝ่าย อาทิ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เพื่อคำนวณเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนในหลายรูปแบบ หรือแบบขั้นบันได เป็นต้น
– การสนับสนุนเรื่องภาษีป้าย ภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง ของโรงเรียนเอกชนนอกระบบ รวมทั้งภาษีรายได้ส่วนบุคคลเฉพาะโรงเรียนกวดวิชาที่ต้องจ่ายภาษี
– ขอรับการสนับสนุนชุดตรวจการติดเชื้อโควิด-19 หรือ ATK (Antigen test kit) สำหรับใช้ตรวจครูและบุคลากรรองรับการเปิดภาคเรียน
– สนับสนุนดูแลผู้ที่มาเรียนด้านอาชีพ
-การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน รวมทั้งการเบิกเงินค่าธรรมเนียมการเรียนของลูกครูโรงเรียนเอกชน ที่ได้น้อยกว่าครูโรงเรียนรัฐบาล
– อยากให้โรงเรียนเอกชน สามารถเลือกบริษัทซื้อนมโรงเรียนได้เอง
19/10/2564