เมื่อวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.30 น. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษา รมช.ศธ. นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศธ. และนายพะโยม ชิณวงศ์ ประธานคณะทำงาน รมช.ศธ. แถลงข่าวผลงานการทำงาน “1 ปี ณ วังจันทรเกษม สะท้อนงาน สะท้อนคน กับ กนกวรรณ วิลาวัลย์” พร้อมจัดแสดงนิทรรศการผลการดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) ณ ห้องประชุมบุณยเกตุ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการ กศน. นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการ กช. ผู้บริหารและบุคลากรสำนักงาน กศน. สถานศึกษาเอกชน และ สลช.จากทั่วประเทศ ตลอดจนสื่อมวลชนทุกแขนง เข้าร่วมอย่างล้นหลาม
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาตลอดชีวิต โดยเน้นการสร้างโอกาสทางการศึกษา แก่ผู้ด้อย พลาดและขาดโอกาสทางการศึกษา ได้แก่ คนชายขอบ กลุ่มชาติพันธุ์ ผู้อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ผู้พิการ จนพูดได้เต็มปากว่า “การศึกษาของเราเข้าถึงคนทุกช่วงวัย” โดยเน้นคุณภาพและประสิทธิภาพของผู้เรียน พร้อมทั้งร่วมมือกับทุกภาคส่วนในกระทรวงศึกษาธิการเอง การทำงานระหว่างกระทรวง และเครือข่ายการทำงานในระดับพื้นที่อย่างเข้มแข็ง
อย่างเช่นในปีที่ผ่านมา ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานในกำกับ ทั้ง กศน. สช. และลูกเสือ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน พร้อมทั้งลงพื้นที่ครบทั้ง 77 จังหวัด เพื่อติดตามการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เพราะไม่ต้องการให้เกิดการแปลงนโยบาย และช่วยเสริมเติมเต็ม อะไรที่ช่วยได้ก็ยินดีสนับสนุน พร้อมร่วมกันแก้ไขข้อติดขัด อุปสรรค และปัญหา เพื่อจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน
โดยมีผลการดำเนินงานเด่นของหน่วยงานในการกำกับดูแล ดังนี้
– ได้ผลักดันการเพิ่มอัตราข้าราชการครู กศน. คูณ 3 แบ่งเป็น ครูผู้ช่วยพื้นที่สูง ครูผู้ช่วยชายแดนใต้ ครูผู้ช่วยพื้นที่ทั่วไป และครูผู้ช่วยแบบสอบแข่งขัน รวม 1,590 อัตรา และสรรหาเป็นผู้บริหาร กศน. 140 อัตรา ทำให้สามารถขยับลูกจ้างขึ้นมาเป็นพนักงานราชการ และรับสมัครบุคคลภายนอกมาทดแทนอัตราจ้างที่ว่างลงให้ครบถ้วน
– ในส่วนของ สช. ได้ผลักดันการเพิ่มสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลครูเอกชน จาก 100,000 บาท/คน/ปี เป็น 150,000 บาท/คน/ปี โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 กองทุนสงเคราะห์ได้อนุมัติค่ารักษาพยาบาลแก่ครู 5,106 คน วงเงินกว่า 77 ล้านบาท
– น้อมนำหลักสูตรจิตอาสา 904 มาใช้ในกระบวนการอบรมลูกเสือ เพื่อช่วยสร้างศักยภาพ ระเบียบวินัย และปลูกจิตอาสาให้แก่เยาวชน พร้อมพัฒนาหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ ให้มีความโดดเด่นด้านภาษา และองค์ความรู้ในเชิงการท่องเที่ยว โดยจัดอบรมลูกเสือมัคคุเทศก์รุ่นแรก ใน 8 จังหวัด 480 คนเรียบร้อยแล้ว และในเดือนสิงหาคม จัดอบรมในรุ่นที่ 2 รวม 4,140 คนในทุกจังหวัดทั่วไปประเทศ
ในส่วนของการดำเนินงานในระยะต่อไป ได้วางแผนและกำหนดเป้าหมาย ที่จะสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องของการศึกษาต้องมีความต่อเนื่องและต้องอาศัยเวลา จึงจะเกิดมรรคเกิดผล ภายใต้แนวคิด เรียนรู้ออนไลน์-สร้างงานสร้างอาชีพ-ก้าวสู่สังคมสุขภาวะอย่างมีคุณภาพ”
– เรียนรู้ออนไลน์ โดยใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยสนับสนุนเป็นเครื่องมือในการจัดการศึกษา เรียนรู้ และสร้างอาชีพแก่กลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม ผ่านแอปพลิเคชัน “ONIE Online” ส่งเสริมให้ใช้ Google Classroom และพัฒนาหลักสูตรพื้นฐานของ กศน.ให้มีความทันสมัยครบถ้วน หลักสูตรอาชีพที่มีความหลากหลาย ยืดหยุ่น และตอบโจทย์ความต้องการและบริบทของแต่ละพื้นที่ และนำเทคโนโลยีมาขยายผลกับแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ของ กศน. ทั้งห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” 103 แห่ง และศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาทั้ง 19 แห่ง
ส่วนการจัดการศึกษาของเอกชน จะขยายความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายแหล่งเรียนรู้ดิจิทัล “ศูนย์ Digital Learning Center ของ สช.” ที่หลากหลายมากขึ้น เข้าถึงนักเรียน นักศึกษา กศน. และประชาชนมากขึ้น โดยเน้นให้ครูใช้ระบบออนไลน์ได้อย่างชำนาญ เช่นการใช้ Zoom, Google Classroom, Facebook Live, Microsoft Team เป็นต้น เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้ของทุกกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาระบบสวัสดิการกองทุนสงเคราะห์ออนไลน์ ให้สมาชิกได้รู้ข้อมูล ความเคลื่อนไหว และข่าวสารของกองทุนสงเคราะห์อย่างทันท่วงที
พร้อม ๆ กับพัฒนาค่ายลูกเสือ 66 แห่งทั่วประเทศ ให้มีความทันสมัย นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยผลิตสื่อการเรียนรู้ การจัดแสดงนิทรรศการ แหล่งเรียนรู้ และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย รองรับการจัดกิจกรรมตามหลักสูตรจิตอาสา 904 สำหรับกระบวนการอบรมลูกเสือ และการอบรมลูกเสือมัคคุเทศก์ โดยได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2563 แล้ว จำนวน 118 ล้านบาท ซึ่งจะขับเคลื่อนในค่ายลูกเสือจังหวัด 62 ค่าย และค่ายลูกเสือในกำกับ 4 ค่าย รวมทั้งพัฒนาให้มีความพร้อมสำหรับการใช้ประโยชน์ของคนทุกช่วงวัยในพื้นที่นั้นด้วย
– สร้างงานสร้างอาชีพ ในส่วนนี้จะเน้นการต่อยอดผลิตภัณฑ์ กศน.พรีเมียม ทั้ง 231 รายการ ที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ OOCC สามารถสร้างรายได้แก่ประชาชนทุกชุมชน และพัฒนาไปสู่การจดอนุสิทธิบัตร เพื่อรักษาสมบัติของคนไทยตลอดไป ดังเช่น ผ้าทอมือผักตบชวา กศน. ต.หนองน้ำใส อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และผ้าทอมือกล้วยไข่ชากังราว อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร
– ก้าวสู่สังคมสุขภาวะอย่างมีคุณภาพ โดยจะพัฒนาระบบการทำงานร่วมกันสำหรับกลุ่มบุคลากรนักวิชาชีพ ภาคประชาสังคม กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มคนพิการ ครอบครัว ตลอดจนผู้ดูแล ภายใต้ “การจัดการความรู้สนับสนุนเครือข่ายบูรณาการด้านผู้สูงอายุและคนพิการ และการบูรณาการความร่วมมือทางวิชาการและขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลากร กศน. ให้มีศักยภาพในการจัดกิจกรรม กศน. เพื่อร่วมสร้างสังคมสูงอายุที่มีสุขภาวะ” รองรับการเข้าสู่สังคมสูงอายุของประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ โดยมีงานในหลายส่วนที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งระบบการบริหารจัดการ, พัฒนาบุคลากรของ กศน. ให้มีศักยภาพในการจัดกิจกรรม กศน. รองรับ “สังคมสูงอายุ” มิติสุขภาพสำหรับคนทุกกลุ่มวัย, ระบบการทำงานบนฐานของความรู้ การสร้างสรรค์ด้วยคลังปัญญาและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยในการดำเนินชีวิตที่พอเหมาะ พอเพียง และตื่นรู้ในการจัดการท่ามกลางภาวะภัยพิบัติ, ระบบสารสนเทศ “เว็บไซต์รวมพลัง” รองรับการจัดการเรียนรู้และข้อมูลสนับสนุนเครือข่ายบูรณาการด้านผู้สูงอายุและคนพิการ แบบ One stop service
นวรัตน์ รามสูต: สรุป/เรียบเรียง
อิทธิพล รุ่งก่อน: ถ่ายรูป
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
17/7/2563