ศึกษาธิการ –                                                                  ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี             เมื่อวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2559             ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ อนุมัติแต่งตั้งรองศาสตราจารย์บัณฑิต             ทิพากร             ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา             และแนวทางดำเนินการเพื่อขจัดความรุนแรงต่อเด็กอย่างเหมาะสม
          			                               			                                 			                       
แต่งตั้งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
          			                                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอบรรจุกลับ                                       รองศาสตราจารย์บัณฑิต ทิพากร             พนักงานมหาวิทยาลัย             ตำแหน่งรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี              (เดิมเป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา             และได้ลาออกจากราชการด้วยเหตุทดแทนเพื่อเป็นพนักงานราชการตามกฎหมาย)              มาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ
          			                                   และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง                          รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา              (รองเลขาธิการ กกอ.)              สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ                       			                               			                       ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป             เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
          			                       แนวทางดำเนินการเพื่อขจัดความรุนแรงต่อเด็กอย่างเหมาะสม
          			                                   คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวแนะการเลี้ยงดู             ดูแล และพัฒนาเด็กโดยไม่ใช้ความรุนแรงในทุกสภาพแวดล้อม             ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ             และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ดำเนินการเพื่อขจัดความรุนแรงต่อเด็กอย่างเหมาะสม             โดยมีสาระสำคัญดังนี้
          			                                   จากการที่ประเทศไทยได้รับมอบหมายให้เป็นประเทศผู้ประสานงานหลักในการจัดทำแนวแนะฯ             คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ             ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย) เป็นประธาน             ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจประสานงานและจัดทำร่างนโยบายและแผนงานด้านการขจัดความรุนแรงต่อเด็กของอาเซียน             เพื่อดำเนินการจัดทำแนวแนะฯ ในบริบทของประเทศไทยในระยะ 6 ปี (พ.ศ.              2559-2564) โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
          			                                   ส่วนที่ 1 บทนำ ประกอบด้วยความเป็นมา นิยาม ความหมาย “ความรุนแรง”              วัตถุประสงค์ กรอบระยะเวลาการใช้แนวแนะฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2559              –             2564
ส่วนที่ 2             องค์ความรู้ที่เป็นหลักพื้นฐานร่วมกันในทุกสภาพแวดล้อมสำหรับการเลี้ยงดู             ดูแล และพัฒนาเด็กโดยไม่ใช้ความรุนแรง อาทิ สิทธิเด็ก พัฒนาการเด็ก             การสื่อสารและการสร้างวินัยเชิงบวก การรู้จักตนเองในฐานะพ่อแม่             ผู้ปกครองหรือผู้ที่ทำงานกับเด็กหรือเพื่อเด็ก เป็นต้น
ส่วนที่ 3             สภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรงต่อเด็ก 7 ประเภท ได้แก่ บ้าน โรงเรียน             สถานที่ทำงาน ชุมชน สถานสงเคราะห์ สถานดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัย             สถานที่ดูแลเด็กในกระบวนการยุติธรรม
ส่วนที่ 4 สรุปแนวแนะฯ โดยนำเสนอการดำเนินงาน แบ่งออกเป็น 4              ด้าน (การป้องกัน การคุ้มครอง การดำเนินการทางด้านกฎหมาย             และการเก็บข้อมูล/การวิจัย) 132 มาตรการ
ส่วนที่ 5 สาระเพิ่มเติมประกอบองค์ความรู้ เช่น             วิธีการพูดคุยกับเด็กในสถานการณ์ต่าง ๆ
            ส่วนที่ 6 ภาคผนวก (ส่วนของการปฏิบัติการ)              เป็นตัวอย่างโครงการ/กิจกรรมจากการนำแนวแนะฯ ไปปฏิบัติ             ซึ่งมีความครอบคลุมทุกมิติของการดูแลเด็กโดยไม่ใช้ความรุนแรง ได้แก่             การป้องกัน การคุ้มครอง กรอบกฎหมาย/กฎ/ระเบียบ             และการเก็บข้อมูล/งานวิจัย
          			                                   ทั้งนี้ แนวแนะฯ             มีความเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วนซึ่งมีภารกิจและหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการดูแลและพัฒนาเด็กให้เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพโดยปราศจากความรุนแรง             โดยได้นำเสนอหลักการ แนวคิด             และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการไม่ใช้ความรุนแรงกับเด็ก             ตลอดจนวิธีการสำหรับผู้ที่ทำงานกับเด็กและเพื่อเด็กในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ             เช่น บ้าน โรงเรียน             สถานที่ทำงาน ชุมชน สถานสงเคราะห์             สถานดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัย             สถานที่ดูแลเด็กในกระบวนการยุติธรรม ให้มีความเข้าใจและสามารถนำแนวแนะฯ             ดังกล่าวไปใช้อย่างเหมาะสม
          			                       จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาค่าใช้จ่ายและแหล่งที่มาตามอำนาจหน้าที่และกรอบภารกิจของหน่วยงาน             ๆ นั้น 
			                                          			                       
บัลลังก์           โรหิตเสถียร
          สรุป/รายงาน
12/7/2559