ครม.เห็นชอบเกษียณก่อนกำหนดเพิ่ม




นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ได้เห็นชอบให้ข้าราชการสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่เหลือจำนวน ๗๕๐ ราย เกษียณอายุก่อนกำหนดปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๔









 src=

รมว.ศธ.กล่าวว่า ครม.ได้เห็นชอบมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) โดยให้ สพฐ.บริหารจัดการภายในวงเงินงบประมาณงบบุคลากรที่ได้รับจัดสรรประจำปี พ.ศ.๒๕๕๔ จำนวน ๑๑๒ ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้เข้าร่วมมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๔ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๓) ที่เหลือในโควตาจำนวน ๗๕๐ ราย ให้ได้เข้าร่วมมาตรการฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๔ ต่อไป โดยให้ สพฐ.รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า ควรพิจารณาบรรจุอัตราทดแทนผู้เกษียณตามโครงการดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานการเรียนการสอนและผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนไปดำเนินการด้วย

สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา สพฐ.ได้รับความเห็นชอบจาก คปร.ให้ดำเนินมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งเห็นชอบให้มีจำนวนผู้เข้าร่วมมาตรการฯ ได้จำนวน ๑๒,๘๖๗ ราย ไปแล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดของงบบุคลากรจึงได้อนุมัติให้ข้าราชการในสังกัดเข้าร่วมมาตรการฯ ได้เพียง ๑๒,๑๑๗ ราย และยังคงเหลือผู้เข้าร่วมมาตรการฯ ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมมาตรการฯ อยู่ในโควตาอีก ๗๕๐ ราย ซึ่งที่ประชุม ครม.ครั้งนี้ได้เห็นชอบให้เข้าร่วมมาตรการฯ ครบตามจำนวนโควตาแล้ว

ทั้งนี้ สพฐ.ได้วิเคราะห์จากข้อมูล ๒ ปีที่ผ่านมา พบว่าหากดำเนินการได้จะมีผลดีมากกว่าผลเสียและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ คือ ๑) สามารถเกลี่ยอัตรากำลังจากโรงเรียนที่มีครูเกินเกณฑ์ไปยังโรงเรียนที่มีครูต่ำกว่าเกณฑ์ได้ทันทีไม่ยุ่งยากเหมือนการเกลี่ยอัตรากำลังที่มีผู้ครองอยู่ ๒) สามารถสรรหาบุคคลรุ่นใหม่ที่มีความต้องการเข้าสู่ระบบราชการ และเป็นบุคลากรที่มีความรู้วิทยาการทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ อันเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปการศึกษารอบสองและจะนำไปสู่เป้าหมายคุณภาพการศึกษามาบรรจุทดแทนได้ ๓) เป็นการตอบสนองความต้องการของผู้เข้าร่วมมาตรการฯ ในการกำหนดอนาคตของชีวิตตนเอง ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต การวางแผนครอบครัว การดูแลบิดา-มารดาที่ชราภาพหรือเจ็บป่วย เป็นต้น ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้มุ่งหวังว่าตนเองจะได้รับการพิจารณาอนุมัติให้เข้าร่วมมาตรการฯ เหมือน ๒ ปีที่ผ่านมา จึงไม่มีจิตใจและขาดแรงจูงใจที่จะปฏิบัติราชการต่อไป

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ครม.ยังได้อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายสรจักร เกษมสุวรรณ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป.

บัลลังก์ โรหิตเสถียร
นงศิลินี โมสิกะ
สรุป/รายงาน


More Photoes : ข่าวที่ 359/2553