คนอิสราเอล ฉลาดล้ำจากพันธุกรรม…จริงหรือ

คนอิสราเอล ฉลาดล้ำจากพันธุกรรม…จริงหรือ








รายงานโดย : ปวีณา สิงห์บูรณา


 


แล้วมันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ??? วิทยาศาสตร์บอกเราว่า มันมีโอกาสเป็นเช่นนั้นได้



 vspace=3 align=left src=แต่อาจเกิดขึ้นได้แค่บางส่วนเท่านั้น เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่า คนเราจะฉลาดหลักแหลมได้นั้น คงต้องอาศัยการเรียนรู้ ฝึกฝน และขยันหมั่นเพียรประกอบกันไปด้วย ซึ่งคนอิสราเอลที่เราได้มีโอกาสไปพูดคุยก็บอกกับเราอย่างนั้นเช่นกัน เขาบอกว่า บรรพบุรุษของพวกเขาได้รับการยอมรับว่าฉลาดหลักแหลมด้วยผลงานที่พวกเขาคิดและแสดงออกมาให้โลกประจักษ์ หาใช่การมีโครงสร้างของสมองที่ผิดจากมนุษย์ทั่วไป พวกเขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีสมองขนาดเท่ามนุษย์เผ่าพันธุ์อื่น เพียงแต่ว่าสมองของพวกเขาก็คงคล้ายกับอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย ที่มีโอกาสแข็งแรงและใหญ่โตได้ หากฝึกฝนใช้งานอยู่เป็นประจำ


อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ผู้มีเชื้อสายยิว เป็นคนฉลาดมาตั้งแต่กำเนิดหรือเปล่า? อดัม สมิธ บิดาแห่งเศรษฐศาสตร์ ซึ่งก็มีเชื้อสายยิว เป็นโครงสร้างทางสมองผิดจากมนุษย์ทั่วไปหรือเปล่า? แล้ว ซิกมันด์ ฟรอยด์ บิดาแห่งจิตวิทยา (ซึ่งก็เป็นยิวอีกเหมือนกัน) มีพ่อแม่ที่ฉลาดหลักแหลมผิดมนุษย์ทั่วไปหรือไม่ เราน่าจะได้คำตอบที่คล้ายๆ กันว่า เขาเหล่านั้นก็เริ่มต้นจากการเป็นมนุษย์ธรรมดาผู้ที่ไม่ได้เกิดมารู้และเข้าใจไปในทุกเรื่อง แต่เขาเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ศึกษา หาคำตอบ จนได้เป็นสูตร เป็นทฤษฎี หรือเป็นหลักการ ก็ด้วยวิธีการเดียวกันคือการ “คิด” อยู่ตลอดเวลา


ชาวอิสราเอลเป็นชนชาติที่ไม่เคยหยุดคิด คิดไปข้างหน้าอยู่เสมอ จึงทำให้พวกเขาค้นพบคำตอบของหลายๆ เรื่องก่อนคนอื่น กลายเป็นที่มาให้คนทั่วไปชื่นชมในสิ่งเหล่านั้น เพราะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปยังคิดไปไม่ถึง หรือยังไม่มีความจำเป็นต้องคิดหาคำตอบในเรื่องนั้นๆ


 vspace=3 align=right src=เอาง่ายๆ ว่า ถ้าเกิดวันนี้ประเทศไทยเราไม่มีน้ำจืดให้กินให้ใช้กัน เราก็เชื่อเหลือเกินว่าเราจะมีคนไทยที่คิดค้นวิธีผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลได้อย่างแน่นอน หรือถ้าเราไม่ได้โชคดีเกิดในบ้านเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างนี้ เราคงได้เห็นคนไทยที่คิดค้นวิธีปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน หรือไม่ใช้น้ำเลยก็เป็นได้ แต่ที่ยังไม่มีเพราะเหตุผลง่ายๆ ที่ว่า เรายังไม่จำเป็นต้องคิด ซึ่งแตกต่างจากชาวอิสราเอล ที่เขาเป็นชาวยิวแต่ประเทศห้อมล้อมไปด้วยอาหรับ อย่าว่าแต่จะพึ่งพาอาศัยกันในฐานะเพื่อนบ้านเลย แค่ป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันก็ค่อนข้างยากแล้ว


ในเมื่อเหตุ ปัจจัยรอบด้านเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ชาวอิสราเอลคิด คือต้องอยู่รอดให้ได้ ซึ่งจะอยู่รอดได้และอยู่ให้ดีด้วยแล้วนั้น ก็ต้องลดการพึ่งพาจากภายนอกให้น้อยที่สุด อะไรที่ไม่มี ก็ทำให้มีให้ได้ ส่วนอะไรที่มีอยู่แล้วก็ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม และท้ายที่สุดปัญญาก็พาพวกเขาก้าวผ่านทุกๆ ข้อจำกัดมาได้


เมื่อเริ่มต้นจากการทำได้แล้ว ใครๆ ก็อยากทำได้ดีกว่า หรือไม่อย่างน้อยที่สุดก็ควรทำได้ดีเท่าเดิม ดังนั้นรุ่นลูกรุ่นหลานมีหรือว่าจะยอมแพ้ ก็ต้องทำให้ดีขึ้นๆ ไปกว่าเดิม ส่วนพ่อแม่ก็อยากให้ลูกเก่ง อยากให้ลูกฉลาดเหมือนตน ก็ต้องฝึกฝนกันตั้งแต่เด็ก แล้วทุกอย่างก็ขยายวงกว้างไปในสังคมอิสราเอล ว่าเด็กชาวอิสราเอลทุกคนต้องได้รับการศึกษา การฝึกอบรม ให้มีความเก่งกาจและฉลาดล้ำลึกกว่าเด็กชาติอื่นๆ ซึ่งวิธีการก็มิใช่การไปบังคับขู่เข็ญเด็กๆ แต่เป็นการปลูกฝังอย่างเป็นระบบเสียมากกว่า


 vspace=3 align=left src=เขามีความเชื่อว่าเด็กควรได้รับการปลูกฝังทักษะตั้งแต่เด็ก และกระบวนการเรียนรู้ที่จะสัมฤทธิผลที่สุดคือการลงมือปฏิบัติจริง ดังนั้นถ้าได้มีโอกาสไปเห็นการเรียนการสอนของโรงเรียนในอิสราเอล จะเห็นเด็กของเขาโดยส่วนใหญ่เป็นคนกล้าคิด กล้าทำ และกล้าแสดงออก ในขณะที่แต่ละคนก็ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดจากบรรยากาศการร่ำเรียนเลย ซึ่งจะตรงกับประสบการณ์ของใครหลายๆ คนที่เคยมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนเป็นชาวยิว จะเห็นได้ว่าเขาไม่ค่อยแสดงอาการเคร่งเครียดเวลาเรียน แถมบางคนยังดูเล่นเสียมากกว่าเรียน แต่ถึงเวลาสอบทีไร คนพวกนี้ดันทำข้อสอบได้เกือบหมด โดยเฉพาะวิชาคำนวณที่เด็กนักเรียนชาวยิวมักจะได้คะแนนสูงอยู่ตลอด


ประเทศอิสราเอลถือว่าการที่ประเทศของเขามีมาตรฐานเรื่องการศึกษาสูง ช่วยให้ง่ายในการผลิตทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพมาช่วยพัฒนาประเทศได้ ดังนั้นเขาจึงทุ่มงบประมาณพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาเป็นจำนวนมาก โดยในแต่ละปีจะมีงบสนับสนุนจากรัฐบาลกลางหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อมุ่งเน้นให้สถาบันการศึกษาพัฒนาศักยภาพของครูผู้สอนให้สามารถถ่ายทอดความรู้ไปสู่นักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


จะว่าไปแล้ว ประเทศไทยเราก็ประสบปัญหาเรื่องคุณภาพการศึกษาอยู่เช่นกัน เพียงแต่บางครั้งเราอาจยังไม่ยอมรับว่าเรามีปัญหา หรือบางทีเราอาจต้องการความร่วมมือจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างจริงจังมากกว่านี้ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ สถาบันการศึกษาหลายแห่งเน้นเพิ่มจำนวนผู้เข้าเรียนในสถาบันมากกว่าการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และก็มีบางแห่งที่ผลิตบัณฑิตให้จบออกมาปีละจำนวนมากๆ แต่ภายหลังมาพบว่าบุคลากรที่ผลิตออกมานั้นมักไม่มีศักยภาพในการทำงานได้จริง จึงเกิดเป็นผลกระทบกับทุกฝ่ายในที่สุด และในขณะเดียวกันผู้ทำหน้าที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาด้วยวิชาชีพครู กลับกลายเป็นอาชีพที่ได้รับผลตอบแทนค่อนข้างน้อย จึงไม่ค่อยมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาศักยภาพเท่าที่ควร ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมานานแล้ว คงรอแค่ว่าจะแก้ไขได้อย่างจริงจังเมื่อไรเท่านั้นเอง


 vspace=3 align=right src=เอ้า…กลับมาที่เรื่องของชาวอิสราเอลต่อดีกว่า แล้วตกลงว่าที่คนอิสราเอล หรือคนยิว ได้รับการยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่ฉลาดที่สุดในโลก เกิดจากอะไรกันแน่?… เราน่าจะได้คำตอบเหมือนกันว่า ระบบการศึกษา สภาพสังคม และการอบรมเลี้ยงดู เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เขาคิดหาคำตอบในหลายเรื่องได้ก่อนคนอื่น ส่วนเรื่องพันธุกรรมน่าจะเป็นส่วนเสริมให้เขาใช้เวลาในการคิดได้เร็วกว่า และอาจต่อยอดไปได้ไกลกว่าคนทั่วไป


ท้ายที่สุดแล้ว การเรียนรู้วิธีการคิด วิธีการสอน และวิธีการเรียนแบบอิสราเอล แล้วนำมาปรับประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสังคมไทยได้น่าจะเป็นการดี เพราะอย่าลืมว่าสังคมจะพัฒนาไปได้อาจต้องใช้คนเก่ง แต่สังคมที่จะพัฒนาและอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ต้องการคนเก่งที่เป็นคนดีควบคู่กันไป ไม่เช่นนั้นคนในสังคมคงต้องเดือดร้อนกันทั่วหน้า ก็อย่างที่มีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ดังนั้นฝากถึงผู้ปกครองและครูบาอาจารย์ทั้งหลายว่า ทุกครั้งที่สอนให้เด็กเก่ง อย่าลืมสอนให้เขาเป็นคนดีควบคู่กันไปด้วยล่ะ


วันนี้ลาไปแค่นี้ก่อน ศุกร์หน้ายังมีเรื่องราวของประเทศนี้มาเล่าสู่กันฟังอีก แต่คงเป็นแง่มุมอื่นๆ ที่เราได้ไปประสบพบเห็นมา ส่วนใครที่เสาร์นี้ไม่ได้ออกไปไหน ก็ลองเปิดทีวีช่อง 5 เวลา 3 ทุ่มครึ่ง ถึง 4 ทุ่ม เรามีเรื่องราวของประเทศอิสราเอลให้ได้ชมกัน ในรายการ “โลก 360 องศา”


ข้อมูลจาก :  www.Posttoday.com