2 พฤษภาคม 2567 – พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 5/2567 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
ที่ประชุมรายงานความก้าวหน้าของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ดังนี้
1. คณะกรรมการขับเคลื่อนบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสร้างจิตสำนึกความเป็นไทย กระทรวงศึกษาธิการ
- ที่ประชุมเห็นชอบ นโยบาย ทิศทาง กรอบแนวทางการขับเคลื่อนตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ สร้างจิตสำนึกความเป็นไทยกระทรวงศึกษาธิการ รายละเอียดกิจกรรมและมอบหมายผู้รับผิดชอบ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกช่วงวัยเข้าใจและภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย มีรากฐานจิตสำนึกรักความเป็นไทย มีคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และหลักคิดที่ถูกต้องต่อชาติบ้านเมืองและสถาบันสำคัญของชาติ เป็นพลเมืองที่ดี
- ที่ประชุมเห็นชอบ แนวทางการด้านการดำเนินงานของบุคคลและหน่วยงานภายนอกที่เข้าจัดกิจกรรมในสถานศึกษา ที่มีผลต่อหลักคิดที่ถูกต้องต่อชาติบ้านเมืองและสถาบันหลักของชาติ มีการจัดทำข้อกำหนดและเงื่อนไขการจัดกิจกรรม จัดทำคู่มือหรือเอกสารแนะนำที่ชัดเจน รวมถึงกำกับดูแล ติดตามและประเมินผลและสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก
- ที่ประชุมเห็นชอบ แนวทางการอนุรักษ์ประเพณีไหว้ครูและขับเคลื่อนสู่การเป็น Soft Power ของชาติ โดยผู้บริหารสถานศึกษา ครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาดำเนินการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่นักเรียนและนักศึกษาเกี่ยวกับ พิธีไหว้ครู รวมถึงส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมในสถานศึกษา เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม
2. คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู และบุคลากรทางการศึกษา
ขณะนี้อยู่ระหว่างดําเนินการขอจัดสรรงบประมาณจัดเตรียมการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่อง การดําเนินการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ กับหน่วยงานราชการ และสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง 13 หน่วยงาน และร่วมกับสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเตรียมการจัดทําโปรแกรมออนไลน์ “โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ” เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ อย่างเป็นรูปธรรม
3. คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการศึกษา “เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา” (Anywhere Anytime) จัดทําแพลตฟอร์ม และพัฒนาระบบแนะแนวการเรียน (Coaching) และเป้าหมายชีวิต
- คณะทำงานด้านการพัฒนาระบบการศึกษา “เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา” (Anywhere Anytime) ได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกสื่อเทคโนโลยีสำหรับผู้เรียนระดับปฐมวัยตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน การเรียนรู้ตลอดชีวิต และการเรียนรู้เพื่ออาชีพและมีงานทำ เพื่อนำเข้าสู่ ดิจิทัลแพลตฟอร์มการจัดการเรียนรู้แห่งชาติ (NDLP)
- คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายด้านสุขภาพของกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทำประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องมาตรการป้องกันและเสริมสร้างความรอบรู้ อันตรายจากการเสพติดบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สิ่งมึนเมา และยาเสพติดทุกประเภท พร้อมขับเคลื่อนระบบสุขภาพสถานศึกษาด้วยการบูรณาการความร่วมมือในระดับพื้นที่ เรียนดี มีความสุข คุณภาพชีวิตดี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
- คณะทำงานการขับเคลื่อนงานแนะแนว (Coaching) และเป้าหมายชีวิต ได้ดำเนินการพัฒนาเสริมพลังใจครูแนะแนวเพื่อการดูแลสุขภาพจิต การแนะแนวและการ Coaching นักเรียนโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และมีโครงการ “Fine MyFuture” แนะแนวการศึกษา อาชีพ ส่วนตัวและสังคม พร้อมศึกษาวิจัยเรื่องการพัฒนาระบบแนะแนวของประเทศไทย และจัดโครงการฝึกอบรมพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา (พสน.)
4. คณะอนุกรรมการจัดทําระบบวัดผลรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate)และส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน (Learn to Earn) มีการดำเนินงาน ดังนี้
- สกศ. ร่วมกับสำนักงาน ก.พ. จัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการรับรองคุณวุฒิ พร้อมขอเพิ่มอัตราเงินเดือนสำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรที่ได้รับการรับรอง และขอเทียบคุณวุฒิระดับ ม.ปลาย และทักษะอาชีพ ให้เทียบเท่ากับระดับ ปวช. เพื่อใช้ในการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือน
- สพฐ. ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามการรับนักเรียนในโครงการทวิศึกษาแนวใหม่ปีการศึกษา 2567 ผ่านระบบ DMC และอยู่ระหว่างช่วงโรงเรียนดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อเตรียมการส่งเสริมการจัดการการศึกษาทวีศึกษาปีการศึกษา 2567
- สอศ. ประกาศใช้หลักสูตร สอศ. 2567 และอนุมัติหลักสูตร ปวช. และ ปวส. พ.ศ. 2567 ที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ มาตรฐานฝีมือแรงงาน และมาตรฐานสากล ส่วนหลักสูตร ปวพ. กำลังดำเนินการรวบรวมผลการประชา พิจารณ์ (ร่าง) ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องมาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพเฉพาะ และสำหรับศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ได้ดำเนินการ ติดตามการดำเนินงานจัดตั้งศูนย์ทดสอบ, จัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการพัฒนาแรงงาน, ประกาศและแจ้งหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติ, จัดกำระบบสืบค้นข้อมูลและฐานข้อมูลศูนย์กดสอบ, เชื่อมโยงนำระบบข้อมูลภายใต้แพลตฟอร์ม EWE และจัดทำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนจัดทำระบบ วัดผลรับรองมาตรฐานวิชาชีพ
- สกร. ดำเนินการจัดทำร่างหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องด้านอาชีพให้เชื่อมโยงกับมาตรฐานอาชีพ และจัดอบรมอาชีพเสริมในชุมชนทั่วประเทศ โดยมีผู้ผ่านการฝึกอบรมจบแล้วมีงานทำ จำนวนทั้งสิ้น 27,205 คน
- สช. การประชุมวิพากษ์หลักสูตรโรงเรียนนอกระบบที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ กลุ่มวิชาชีพเสริมสวยและตัดเย็บเสื้อผ้า และกลุ่มวิชาชีพบริบาล จำนวน 15 หลักสูตร
5. คณะอนุกรรมการจัดทําระบบการวัดผล เทียบระดับการศึกษา ประเมินผลการศึกษา และธนาคารเครดิตแห่งชาติ
ดำเนินการออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินงานธนาคารหน่วยกิต ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรูปแบบการศึกษาในระบบ (สพฐ.), รูปแบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สกร.) และรูปแบบการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาระบบทวิภาคี (สอศ.) พร้อมจัดทำคู่มือและออกแบบแพลตฟอร์มดิจิทัล จัดทำหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินงานของแต่ละระดับการศึกษา ติดตามประเมินผลและแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ และขยายผลการดำเนินงานให้ครอบคลุมทุกองค์กร
6. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษา
เตรียมดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ในสถานศึกษาระหว่าง สป.ศธ. สพฐ. สอศ. สกร. และกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน รวมถึงจัดทำร่างประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียนและนักศึกษา ตามนโยบายไม่ใช้ความรุนแรงหรือการกระทำที่สมควรแก่เหตุในสถานศึกษา และดำเนินการยกร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการในการจัดทำทะเบียนนักเรียน และสมุดหมายเหตุรายวัน ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้มีการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาแปลประยุกต์ใช้ในการบริหารราชการให้มีสอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปประเทศ โดยให้มีการบูรณาการฐานข้อมูลของหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานเข้าด้วยกัน เป็นการลดปัญหาการซ้ำซ้อนของข้อมูลจำนวนนักเรียนได้
7. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเพื่อรองรับวิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศ “IGNITE THAILAND” ของกระทรวงศึกษาธิการ
สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะยาว ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจะส่งเสริมการสร้างประสบการณ์ทางอาชีพร่วมกับภาคภาคประกอบการ ทั้งกิจกรรมการเรียนการสอน การสร้างโลกทัศน์และประสบการณ์ทางอาชีพ (Work Experience) ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีคุณภาพสูงในระดับอาชีวศึกษา พร้อมจัดหลักสูตร Up-skill Re-skill และ New skill ที่สอดคล้องกับ “IGNITE THAILAND” รวมทั้งขยายผลการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่สถานศึกษาทุกแห่ง
พบพร ผดุงพล / ข่าว
สมประสงค์ ชาหารเวียง , ณัฐพล สุกไทย / ภาพ