ไทย-ญี่ปุ่นพัฒนาไบโอดีเซลจากสบู่ดำที่ใช้ได้จริงๆ

       

 src=

 
ภาพประกอบข่าว

 

        ไจก้าอนุมัติทุน 440 ล้านให้หน่วยงานวิจัยไทยและญี่ปุ่นฝ่ายละ 50% พัฒนาไบโอดีเซลจากสบู่ดำที่ผ่านมาตรฐานโลก ปลอดภัยต่อเครื่องยนต์-สิ่งแวดล้อม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ลงนามความร่วมมือในข้อตกลงการวิจัยร่วมกับสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูงแห่งญี่ปุ่น (AIST) และมหาวิทยาลัยวาเซดะ ในโครงการ “นวัตกรรมในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจากชีวมวลที่ไม่ใช่อาหารและการใช้งานในยานยนต์”

           โครงการวิจัยนี้มีระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี (2553-2557) ได้รับงบสนับสนุน 440 ล้านบาทจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น แบ่งเป็นฝ่ายวิจัยของไทย 220 ล้านบาทและฝ่ายญี่ปุ่น 220 ล้านบาท

           เป้าหมายของโครงการความร่วมมือ 5 ปีนี้คือ ไบโอดีเซลจากน้ำมันสบู่ดำที่ผ่านมาตรฐานโลกและน้ำมันสังเคราะห์หรือน้ำมันดิน (Bio-Oil) จากกากสบู่ดำด้วยเทคโนโลยีไพโรไลซีสแบบเร็ว (Fast  Pyrolysis) ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านพลังงานทดแทนของไทย

          รศ.ปริทรรศน์ พันธุบรรยงก์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการต่อยอดความร่วมมือกับหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น โดย สวทช. เป็นผู้นำเสนอโครงการนี้ไปยังองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) เพื่อขออนุมัติทุนวิจัย

         โครงการนวัตกรรมในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ จากชีวมวลที่ไม่ใช่อาหารและการใช้งานในยานยนต์ มุ่งหวังให้ไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตน้ำมันสังเคราะห์หรือน้ำมันไบโอดีเซลที่มีมาตรฐานโลก โดยในเบื้องต้นใช้สบู่ดำเป็นวัตถุดิบ

         “ที่ผ่านมา สวทช.และวว.มีความร่วมมือพัฒนาเครื่องบีบปาล์มน้ำมัน และเครื่องต้นแบบการผลิตไบโอดีเซลแบบ Batch และแบบต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงจะต่อยอดองค์ความรู้มาใช้กับสบู่ดำ โดย วว.รับหน้าที่พัฒนาเครื่องต้นแบบให้เหมาะกับสบู่ดำ พร้อมทั้งสร้างโรงงานต้นแบบกำลังการผลิต 1 ตันต่อวัน”

          ส่วน สวทช. ดูแลด้านการวิเคราะห์และทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์ และมลพิษที่ปลดปล่อยจากการใช้ไบโอดีเซลและน้ำมันสังเคราะห์อื่นๆ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จะวิจัยพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยา และเทคโนโลยีการให้ความร้อนเพื่อเปลี่ยนกากสบู่ดำเป็นน้ำมันสังเคราะห์ ขณะที่สถาบันวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น จะพัฒนากระบวนการผลิตและพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยา และมหาวิทยาลัยวาเซดะทำหน้าที่วิเคราะห์วัฏจักรการใช้ไบโอดีเซลต่อสิ่งแวดล้อม

          นายโอนิชิ ยาสุโนริ ตัวแทนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) เพิ่มเติมว่า โครงการความร่วมมือดังกล่าว ผ่านการเห็นชอบด้วยเป็นโครงการที่ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจากวัตถุดิบที่ไม่ใช่อาหาร เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ลดภาวะเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่สำคัญ ศักยภาพของนักวิจัยไทยในด้านนี้ก็เป็นที่ยอมรับ

แหล่งี่มาของข่าว หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ