แต่งตั้ง "สำรวม" เป็นผู้อำนวยการกองทุนสงเคราะห์โรงเรียนเอกชน

    นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) ครั้งที่ 7/51 ว่า ตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 มาตรา 69 กำหนดให้มีการพิจารณาคัดเลือกบุคคล เพื่อแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการกองทุนสงเคราะห์ ภายใน 180 วันหลังจากที่ พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ประกาศใช้ คือภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2551 โดยได้เปิดรับสมัครไปตั้งแต่วันที่ 16-25 มิถุนายน 2551 และผลการพิจารณาคัดเลือกได้ นายสำรวม พฤกษ์เสถียร เป็นผู้อำนวยการกองทุนสงเคราะห์ ซึ่งที่ประชุม กช. ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ได้พิจารณาค่าจ้าง ค่าตอบแทน ไว้ในอัตราเดือนละ 70,000-100,000 บาทและเงินอื่นในอัตราร้อยละ 25 ของเงินเดือนต่อเดือน และให้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์ตั้งอยู่ ณ อาคารสมานฉันท์ ในบริเวณกระทรวงศึกษาธิการ

           ปลัดกระทรวงศึกษาธิการกล่าวต่อว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบร่างระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ว่าด้วยการส่งเงินสะสมและเงินสมทบเข้ากองทุนสงเคราะห์ พ.ศ….. ของโรงเรียนเอกชนในระบบ และอนุโลมใช้บังคับกับโรงเรียนเอกชนนอกระบบ โดยผู้มีสิทธิ ส่งเงินสะสม ได้แก่ ผู้อำนวยการ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นผู้มีสัญชาติไทย ปฏิบัติงานตลอดเวลาทำการ ได้รับเงินเดือนเป็นรายเดือน ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างทางราชการ และไม่เป็นพระภิกษุ สามเณร ซึ่งจะต้องส่งเงินสะสมเข้ากองทุนภายใน วันที่ 10 ของเดือนถัดไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงานกองทุนสงเคราะห์กำหนด หากส่งล่าช้ากว่าวันที่ 10 จะต้องเสียค่าปรับร้อยละ 2 ต่อเดือน กรณีผู้ส่งเงินสะสมไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนได้ภายในระยะเวลา 60 วัน ให้โรงเรียนใช้ดุลยพินิจส่งเงินสะสมได้อีกไม่เกิน 60 วัน หลังจากนั้นให้งดส่งเงินสะสมและให้หมดสิทธิการรับสวัสดิการจากกองทุนสงเคราะห์โดยระเบียบดังกล่าวจะได้นำเสนอนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาลงนาม

                   ปลัดกระทรวงศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์ที่จะเกิดขึ้นนั้น จะนำเงินรายได้ไม่เกินร้อยละ 3 จากดอกผล ของกองทุนสงเคราะห์มาเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งรายรับจากดอกผล ณ วันที่ 30 เมษายน 2551 มีจำนวน 139,446,148.30 บาท คิดร้อยละ 3 ได้จำนวน 4,183,384.45 บาท โดยสำนักงานกองทุนสงเคราะห์ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2551 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2551 ไว้จำนวน 3,326,413 บาท ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้นำเงินรายได้ดังกล่าวมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการกองทุนปี 2551 ในส่วนงบประมาณปี 2552 จะได้วางแผนค่าใช้จ่ายตามวงเงินที่ได้รับการจัดสรร โดยจะมุ่งบริการผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนเอกชน

                   อย่างเป็นระบบ โดยจะได้มีการวิเคราะห์การบริการของกองทุนบำเหน็จบำนาญ (กบข.) กองทุนของสำนักงานประกันสังคม และกองทุนเลี้ยงชีพของหน่วยงานต่างๆ มาใช้เป็นเกณฑ์เทียบเคียงต่อไป
 
********************************
ปัญญา / ข่าว
วาสนา / ภาพ
แหล่งที่มา/ผู้ส่ง กลุ่มสารนิเทศ