
เสมา3 ลงพื้นที่ยะลา ฝากทุก กศน.เร่งใช้งบและสำรวจสิทธิ์ที่ดินเพื่อปรับปรุงซ่อมแซม พร้อมทุ่มงบ 908 ล้านสนับสนุนคุณภาพ รร.เอกชนชายแดนใต้

มอบนโยบาย กศน. “เร่งใช้งบปีนี้ และสำรวจพื้นที่ตั้งสำนักงาน เพื่อนำไปสู่การของบพัฒนาปรับปรุง”
ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ กล่าวว่า การจัดการศึกษาของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ให้บริการการศึกษาเพื่อเข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ต่างไปจากการศึกษาในระบบ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากครู กศน. นักศึกษา ผู้นำชุมชน และเครือข่ายทุกระดับ ซึ่งต้องเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับสภาพของบริบทในแต่ละพื้นที่
จากการลงพื้นที่มาหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งเดินทางมาบ่อยที่สุด ส่วนตัวรู้สึกชื่นชมการทำงานของชาว กศน.ที่ทำงานภายใต้ปัญหาอุปสรรคมากมาย หลายพื้นที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร การเดินทางกว่าจะไปถึงยากลำบากมาก แต่ก็ต้องการไปเยี่ยมให้กำลังใจครบทุกจังหวัด พร้อมทั้งรับฟังสภาพปัญหา เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาแก้ไขได้ตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
“ภูมิใจการจัดการศึกษาของ กศน. ที่ไม่มีห้องเรียน ไม่มีเข้าแถวหน้าเสาธงจันทร์ถึงศุกร์ แต่เรามีนักศึกษา กศน.ที่มีความรับผิดชอบ เรามีครูพันธุ์พิเศษ กศน.ที่เข้าถึง-เข้าใจในกลุ่มผู้เรียน กศน.ด้วยกัน แม้ผู้เรียน กศน.จะเรียนกลุ่มสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น แต่จบแล้วก็มีคุณภาพ มีศักดิ์ศรีไม่ต่างกัน พิสูจน์ได้ว่าผู้เรียนจำนวนมากที่จบ กศน.ไปแล้ว ประสบความสำเร็จในชีวิต ได้งานดี ๆ จำนวนมาก”
ดังนั้น จึงตั้งใจผลักดันให้พนักงานราชการ และพนักงานอัตราจ้าง กศน. ได้มีโอกาสเข้ารับราชการมากขึ้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานที่ได้เสียสละทุ่มเทมาตลอด โดยในช่วงเดือนตุลาคมนี้ จะมีโอกาสได้เข้ารับการจัดสรรเป็นข้าราชการครู กศน.จำนวน 891 อัตรา โดยจะจัดสรรอัตราในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ได้บรรจุก่อน 140 อัตรา
ดร.กนกวรรณ กล่าวฝากให้ กศน.ทั่วประเทศเร่งใช้งบประมาณปีนี้ จากนั้นให้สำรวจที่ตั้งสำนักงานว่าเป็นพื้นที่ของเราหรือไม่ เพราะทราบว่า กศน.อำเภอ/ตำบลหลายแห่ง ไม่มีสิทธิ์ในที่ดิน จึงทำให้ยากต่อการของบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซม แต่หากสถานที่ตั้งเป็นของส่วนราชการอื่น เช่น อยู่ในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะนำไปหารือกับสำนักงบประมาณและส่วนราชการนั้น ๆ เพื่อหาทางแก้ปัญหา โดยจะเสนอขอรับการจัดสรรงบกลางเพิ่มเติมให้ เพื่อสามารถนำไปปรับปรุงพัฒนาสำนักงานได้ ถือเป็นความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาการพัฒนาคุณภาพของ กศน.ทั่วประเทศ
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ดร.กนกวรรณ ได้สวมใส่ชุดที่ตัดเย็บด้วยผ้าปะลางิง (แปลว่าสีรุ้ง) จากอำเภอรามัน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ กศน.ยะลา พรีเมี่ยม ที่จำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ของ กศน.ด้วย












ตรวจเยี่ยม รร.ลุกมานูลฮากีม อ.ยะหา
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ และคณะ ได้เดินทางไป อ.ยะหา เพื่อตรวจเยี่ยมนิทรรศการความก้าวหน้าการศึกษาเอกชนของโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่
“ขอสันติสุข จงมีแด่ทุกท่าน”
เป็นคำแรกที่ รมช.ศธ.กล่าวต่อผู้ปกครอง ครู นักเรียน ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเอกชน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่มาร่วมให้การต้อนรับจำนวนมาก
พร้อมทั้งกล่าวถึงโรงเรียนเอกชน และศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด(ตาดีกา) ใน จ.ยะลา ซึ่งมีจำนวนมากถึง 678 แห่ง นักเรียนรวมกว่า 106,000 คน ต้องขอขอบคุณที่ช่วยรัฐแบ่งเบาภาระจัดการศึกษาได้เป็นอย่างมาก จึงเร่งส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เรื่องสำคัญเรื่องแรกที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 คือ การเพิ่มสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาลครูเอกชนจาก 1 แสนบาท เป็น 1.5 แสนบาทต่อคนต่อปี และเงินอุดหนุนรายหัว อาหารกลางวัน ที่ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด กช.ไปแล้ว อยู่ระหว่างการหางบประมาณมาดำเนินการต่อไป ส่วนงบบูรณาการ ก็มอบผู้แทน คปต. และที่ปรึกษา สช. (นายชลำ อรรถธรรม) รับไปผลักดันให้ด้วย ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการใช้งบประมาณ
“วันที่ 18 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมบอร์ด กช. ซึ่งจะพยายามผลักดันการพัฒนาการศึกษาเอกชนในภาพรวมของประเทศหลายเรื่องให้มีความก้าวหน้า ในส่วนของพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ปีงบประมาณ 2563 กระทรวงศึกษาธิการตั้งงบประมาณให้การศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 908 ล้านบาท ทั้งเงินอุดหนุนสถานศึกษาทุกระดับทุกประเภท เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา และให้การศึกษาเป็นรากฐานในการพัฒนาและนำไปสู่ความสงบสันติให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างยั่งยืน” รมช.ศธ.กล่าว
นอกจากนี้ จากการเยี่ยมชมนิทรรศการความก้าวหน้าในครั้งนี้ มีหลายชิ้นงานที่ประทับใจ เช่น เครื่องทำค็อกเทลอัตโนมัติ กระถางต้นไม้จากชานอ้อย สื่อนวัตกรรมการเรียนรู้หลายรูปแบบ เช่น การเรียนโค้ดดิ้ง และจินตคณิต ซึ่งบางโรงเรียนให้เด็กได้รับโอกาสในการพัฒนาพิเศษ 20 นาทีต่อวัน แต่ก็ยอมรับว่าโรงเรียนหลายแห่งมีความพร้อมไม่เท่ากัน จึงจะนำไปหารือกับ สช. เพื่อพิจารณาจัดงบประมาณการเรียนจินตคณิตให้ฟรี สำหรับโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความเท่าเทียมกันทางการศึกษาให้มากที่สุด.
