เสมา 1 ส่งทีมสนับสนุนเกาะติดแก้ไขปัญหาให้สถานศึกษาทุกพื้นที่
“ตรีนุช” มอบนโยบายผู้ตรวจราชการ ศธ. – ประธานกลุ่ม Cluster สพฐ. – ที่ปรึกษาอาชีวศึกษา รับหน้าที่สนับสนุนการจัดการศึกษาในสถานการณ์โควิด 19 ในทุกพื้นที่ ย้ำการตรวจงานเน้นข้อเท็จจริงเชิงคุณภาพ ครอบคลุมทุกมิติ ไม่สร้างภาระงานให้สถานศึกษา เน้นเรียบง่าย กระชับ ตรงประเด็น
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมทางไกล มอบนโยบายการตรวจติดตามเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษา ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าร่วมว่า เราอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 มาระยะหนึ่งแล้ว และต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ไปอีกระยะหนึ่ง การใช้ชีวิตวิถีใหม่แบบ New Normal และการเรียนรู้ต่าง ๆ ต้องดำเนินต่อไป ซึ่งการศึกษาเป็นความคาดหวังของสังคม และเป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ต้องทำให้ลูกหลานของเรา เข้าถึงการเรียนรู้ได้ต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ
ซึ่งการตรวจติดตามเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษานี้ มีผู้รับผิดชอบหลัก 3 กลุ่มประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการ ศธ., ประธานกรรมการกลุ่มพื้นที่การศึกษาประจำเขตตรวจราชการ (Cluster) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และที่ปรึกษาอาชีวศึกษา รวม 30 กว่าคน โดยผู้รับผิดชอบหลักนี้ถือเป็นข้อต่อสำคัญในการเชื่อมนโยบาย ศธ.กับเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา พร้อมกันนี้จะนำผลการตรวจติดตามสื่อสารกลับมาที่ส่วนกลาง เพื่อนำข้อมูลสู่การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การลงพื้นที่ตรวจติดตามฯ ไม่ใช่การตรวจสอบ ต้องเป็นแบบกัลยาณมิตร ไม่สร้างภาระงานให้โรงเรียน เป็นการสนับสนุน หรือ SUPPORTER เน้นข้อเท็จจริงเชิงคุณภาพครอบคลุมทุกมิติ ลดภาระงานที่ไม่จำเป็น ต้องเรียบง่าย-กระชับ-ตรงประเด็น ซึ่งผู้รับผิดชอบหลัก 3 กลุ่มจะดูการจัดการศึกษาของทุกสังกัดในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ทั้งการศึกษาสายสามัญศึกษา และอาชีวศึกษา ทั้งสถานศึกษาของรัฐและเอกชน โดยค้นหาปัจจัยที่สำคัญในระดับพื้นที่ สถานศึกษา ที่สะท้อนสภาพปัจจุบันและปัญหา เพื่อนำสู่การสนับสนุนส่งเสริม รู้ปัญหาได้เร็วขึ้น และแก้ปัญหาได้ทันที
“อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ศธ.ได้ดำเนินการตามนโยบายต่างๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสอน 5 รูปแบบ การลดภาระนักเรียน ลดภาระครู ลดภาระผู้ปกครอง แต่ก็ยอมรับว่าผู้ปฏิบัติยังมีความกังวลสงสัยในนโยบายบางอย่าง ส่งผลให้การปฏิบัติตามนโยบายไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ดังนั้น ขอให้คณะผู้ตรวจติดตามฯได้ดูว่าการปฏิบัติตามนโยบายต่าง ๆ มีปัญหา หรือมีอุปสรรคอะไรบ้าง เพราะแต่ละโรงเรียน แต่ละพื้นที่ก็มีบริบทที่แตกต่างกัน ขณะที่นโยบายออกแบบกลาง ๆ และกำหนดแนวปฏิบัติไว้กว้าง ๆ เมื่อลงสู่การปฏิบัติอาจแตกต่างได้ จึงขอให้ทุกท่านช่วยสื่อสารสร้างความเข้าใจในนโยบาย และหากพบปัญหาอุปสรรคอะไร ก็สื่อสารกลับมาที่ส่วนกลาง เพื่อปรับนโยบายและทิศทางการดำเนินงาน เพื่อแก้ไขให้เหมาะสมสามารถปฏิบัติในพื้นที่ได้จริง” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ตนจะลงพื้นที่ตรวจติดตามด้วยตนเองในบางพื้นที่ด้วย โดยการลงพื้นที่ของผู้บริหาร ขอกำชับให้ผู้รับผิดชอบคำนึงถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งเราต้องแบ่งเบาภาระสถานศึกษาให้ทำงานด้วยความอุ่นใจ เช่น เรื่องการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียน นักศึกษา อายุ 12-18 ปี ที่ต้องดำเนินการตามปฏิทินการฉีดวัคซีนและช่วยสนับสนุนแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ๆ รวมถึงโครงการ Sandbox Safety Zone in School (SSS) เปิดเรียนมั่นใจ ปลอดภัยไร้โควิด 19 ด้วยการจำกัด บุคคลเข้าออกโรงเรียนอย่างชัดเจน และจะมีการคัดกรอง โดยใช้วิธี Rapid Antigen Test เน้นการทำกิจกรรมในรูปแบบ Bubble and Seal และการเปิดเรียนที่สถานศึกษา หรือการดูแลนักเรียนที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งต้องประสานงานกับสถานศึกษาและสาธารณสุขจังหวัดอย่างใกล้ชิด ตลอดจนสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน