ประเพณี เดิน-วิ่งการกุศล รับน้องใหม่ ม.แม่โจ้ จุดเริ่มต้นที่ประตูบางเขน ม.แม่โจ้ ออกวิ่งตามเส้นทางสายแม่โจ้-สันทราย ปลายทางอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ แล้วเดิน-วิ่งกลับมาที่ ม.แม่โจ้ อีก ระยะทางวิ่งทั้งไปและกลับรวม 24 ก.ม. มีนักศึกษาใหม่ในระดับปริญญาตรี, ปริญญาโท และปริญญาเอก จากทุกวิทยาเขต คือมาจาก ม.แม่โจ้เชียงใหม่, ม.แม่โจ้แพร่, ม.แม่โจ้ชุมพร และสาขาย่อยอื่นๆ อีก เช่น ม.แม่โจ้แม่สะเรียง และ ม.แม่โจ้แม่ฮ่องสอน เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 4,000 คน ซึ่งการเดิน-วิ่งดังกล่าวจัดครบ 75 ปี ในปีนี้เป็นการเดิน-วิ่งเฉลิมฉลอง ม.แม่โจ้ครบ 75 ปีอีกด้วย ในช่วงที่จัดการเดิน-วิ่งดังกล่าวจะมีประชาชนชาว อ.สันทราย ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่นพี่ ม.แม่โจ้ นำอาหาร เครื่องดื่ม ผลไม้ต่างๆ มาคอยต้อนรับตลอดเส้นทาง สมทบทุนมูลนิธิ ศ.ดร.วิภาต บุญศรีวังซ้าย สำหรับมอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษา ม.แม่โจ้ ด้วย ยังมีถ้วยรางวัลเกียรติยศให้สำหรับผู้ที่เข้าเส้นชัยในการเดิน-วิ่งครั้งนี้ด้วย
ผศ.สุเมศ ศิรินิรันดร์ อดีต ผอ.สำนักวิจัยวิชาการเกษตร ม.แม่โจ้ ที่เกษียณราชการแล้ว กล่าวว่า ประเพณีการเดิน-วิ่ง รับน้องของ ม.แม่โจ้ เกิดขึ้นมาสมัยที่ ศ.ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ขณะนี้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรเชียงใหม่ ต่อมายกฐานะเป็น ม.แม่โจ้ ในปี พ.ศ.2518 การเดิน-วิ่งจัดขึ้นมาเพื่อทดสอบสมรรถภาพความอดทนของนักศึกษาที่สมัครเข้ามาเรียนในรั้ว ม.แม่โจ้ เพราะผู้ที่ทำการเกษตรได้ต้องมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นการฝึกความอดทนตามคติพจน์ของ ศ.ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ที่ว่า “งานหนักไม่เคยฆ่าคน” จนทำให้กิจกรรมการเดิน-วิ่ง ของ ม.แม่โจ้ เกิดเป็นประเพณีขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน
“ก่อนที่ ม.แม่โจ้จะเป็นมหาวิทยาลัย เคยเป็นวิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ (แม่โจ้) มาก่อน การเดิน-วิ่งเป็นการทดสอบความแข็งแรงของนักศึกษาและที่สำคัญเป็นการทดสอบให้คะแนนก่อนจะเข้ามาเรียนอีกด้วย เพราะอดีตนั้นนักศึกษาต้องมีความอดทนสูงในการมาเรียน เพราะจะเน้นเรียนเรื่องการปฏิบัติในการประกอบอาชีพทางการเกษตรทุกรูปแบบ การเดิน-วิ่งถือว่าสำคัญมากสำหรับนักศึกษา ผลที่ได้คือนักศึกษารุ่นพี่จะดูแลรุ่นน้อง เกิดความรักสามัคคีกัน รุ่นน้องที่เดินทางมาจากบ้านเกิดจากร้อยพ่อพันธุ์แม่มาจากต่างจังหวัดไม่ว่าจะภาคใต้ อีสาน หรือภาคกลาง มาอยู่ที่ ม.แม่โจ้ พอมาเดิน-วิ่งที่ ม.แม่โจ้ ก็จะพบเห็นว่าประชาชนชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่สองข้างทางสายแม่โจ้-สันทราย จะต้อนรับอย่างดี มีบริการน้ำและอาหารผลไม้ และขนมให้ดื่มกินเหมือนลูกหลาน ก็จะเกิดความรักใคร่กันระหว่างชาวบ้านกับนักศึกษาใหม่ด้วย”
ด้านนายขวัญชัย สกุลทอง นักวิชาการประจำสถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ศิษย์เก่า ม.แม่โจ้ รุ่น 34 เข้าศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2511 บอกว่า ในอดีตการเดิน-วิ่งของนักศึกษารุ่นตน เริ่มต้นที่สถานีรถไฟเชียงใหม่-เดิน-วิ่งมาที่ ม.แม่โจ้ ถือว่าระยะทางไกลกว่าปัจจุบัน ซึ่งอดีตนั้นมีคะแนนในการเดิน-วิ่ง หากวิ่งไม่ผ่านถึงจะสอบข้อเขียนผ่านก็ตาม ไม่มีโอกาสเข้ามาศึกษาในรั้ว ม.แม่โจ้ เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่แข็งแรง เนื่องจากการเรียนที่นี่จะเรียนปลูกข้าวทุกขั้นตอน ทำไร่ ทำสวนก็ทำทุกขั้นตอนจนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่นเดียวกันการเลี้ยงสัตว์ต้องเลี้ยงสัตว์จนกระทั่งโตมาแล้วต้องฆ่าสัตว์รับประทานได้ด้วย ดังนั้นนักศึกษาทั้งชายและหญิงต้องมีความแข็งแรงและมีความอดทนสูง และการเดิน-วิ่งของนักศึกษา ม.แม่โจ้ ถือว่าเป็นประเพณีที่ยึดปฏิบัติสืบทอดกันมานาน และยังต้องทำกันต่อไป เราในฐานะศิษย์เก่าก็จะสนับสนุนทุกปีในการดูแลเรื่องอาหารเครื่องดื่มและผลไม้ต่างๆ
ด้าน นายสุดที่รัก คีรีสถาพร หรือแบงค์ อายุ 18 ปี นักศึกษาใหม่ ปี 1 คณะผลิตกรรมการเกษตร สาขาสัตวศาสตร์ ม.แม่โจ้ บอกว่า “การทำกิจกรรมเดิน-วิ่งทำให้เราเกิดความสามัคคีในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะจะเห็นรุ่นพี่ดูแลรุ่นน้องตลอดการเดิน-วิ่ง หากรุ่นน้องบาดเจ็บหรือไม่สามารถเดิน-วิ่งได้รุ่นพี่จะดูแลอย่างดี เราจะเห็นน้ำใจของรุ่นพี่ในช่วงนี้ว่าเขาดีกับเราอย่างไร และที่สำคัญตัวเราเองก็ได้ออกกำลังกายไปด้วย”
ด้าน นายอณัต ดิษฐ์กระจัน นักศึกษาใหม่ปี 1 คณะผลิตกรรมการเกษตร สาขาพืชศาสตร์ บอกว่า “ม.แม่โจ้ได้ยึดถือประเพณีถือว่าเป็นการเชิดชูประเพณีอีกประเพณีหนึ่ง ที่ปฏิบัติกันสืบทอดมาทุกรุ่น ผมร่วมกิจกรรมแล้วก็รู้สึกว่าประชาชนที่นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้เราได้รับประทานแล้ว ได้เห็นน้ำใจของประชาชนชาวเชียงใหม่ และเห็นน้ำใจรุ่นพี่ รวมทั้งศิษย์เก่าที่ดูแลเราเป็นอย่างดี เราเองก็มีความตั้งใจในการเข้ามาศึกษาที่ ม.แม่โจ้แห่งนี้ ถือว่ามีกำลังใจที่ดีอีกกำลังใจหนึ่งที่จะทำให้เราตั้งใจเรียนให้จบ”
น.ส.ธนิษฐา รักษากิจ หรือปุยฝ้าย คณะวิทยาศาตร์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ รุ่นพี่ปี 2 กล่าวว่า ทุกต้นเดือนมิ.ย.ของทุกปี จะมีประเพณีเดิน-วิ่งรับน้องที่เป็นประเพณีที่รุนพี่ต้องเตรียมจัดการดูแลรุ่นน้องให้ดีที่สุด เพราะช่วงที่น้องเดิน-วิ่งต้องดูแลไม่ให้รถเฉี่ยวชน มีรถพยาบาลดูแลรักษาน้องหากเจ็บป่วยหรือเป็นลม หากเดินไม่ไหวก็จะให้ขึ้นรถยนต์ที่เตรียมไว้บริการรับ-ส่ง ยังมีชมรมวิทยุสมัครเล่น ม.แม่โจ้ ประสานงานกันตลอด ในการจัดประเพณีถือว่าต้องมีความพร้อมเพื่อให้น้องประทับใจให้มากที่สุด เพราะทุกประเพณีของ ม.แม่โจ้ จะให้ความสำคัญรุ่นน้องมาก เพราะรุ่นน้องจะเกิดความรักรุ่นพี่ รักสถาบัน เพื่อให้น้องเรียนในสถาบันแล้วจบออกมาอย่างมีคุณภาพต่อไป
ด้านพระครูสมุหสงกรานต์ คำสุข กำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ปี 2 ม.แม่โจ้ ภาคเสาร์-อาทิตย์ จำวัดอยู่วัดวิเวกวนาราม ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ถือว่าเป็นรุ่นพี่ก็นำเครื่องดื่ม ขนมและผลไม้มาต้อนรับรุ่นน้องเช่นกัน พระครูสมุหสงกรานต์บอกว่า ทางเพื่อนร่วมรุ่นกว่า 74 คน มอบสิ่งของ อาหาร และเครื่องดื่มมาคอยต้อนรับน้องใหม่ เพราะต้องการให้รุ่นน้องเกิดความประทับใจรุ่นพี่ในรั้ว ม.แม่โจ้ ด้วยกัน ที่จะให้ความรักและต้องการให้เกิดความสามัคคีกันในมหาวิทยาลัย จะให้กำลังใจทุกๆ เรื่อง ตลอดระยะเวลาที่เข้ามาศึกษาที่ ม.แม่โจ้ ก็เชื่อว่าน้องใหม่ในรั้ว ม.แม่โจ้ จะสำนึกดีและทำความดีในอนาคตเพื่อตัวเองและเพื่อสถาบัน
ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod
