เครื่องเคลือบเมล็ดพันธุ์พืช ฝีมือคนไทย-คุณภาพล้ำราคา

” เครื่องเคลือบเมล็ดพันธุ์พืช” อันเกิดจากแนวคิดของ รศ.ดร.บุญมี ศิริ แห่งภาควิชาพืชไร่ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นวัตกรรมใหม่อีกทางเลือกสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการ เพราะไม่เพียงแต่ประสิทธิภาพการทำงานจะดีกว่าเครื่องนำเข้าจากต่างประเทศแล้ ว สนนราคายังถูกกว่าหลายเท่าตัว

เมล็ดพันธุ์พืชที่เกษตรกรใช้เพาะปลูกในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มักประสบปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตที่ไม่สม่ำเสมอและให้ผลผลิตได้ไม ่เต็มที่ในฤดูกาลเก็บเกี่ยว เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ที่นำไปเพาะปลูกนั้นไม่สมบูรณ์ แห้งเหี่ยว หรือมีความชื้นซึมผ่านเข้าไปในเมล็ดทำให้เกิดเชื้อรา เมื่อนำไปเพาะปลูกก็ไม่งอก เหล่านี้ รศ.ดร.บุญมี บอกเป็นเหตุผลให้คิดค้น “เครื่องเคลือบเมล็ดพันธุ์พืช” ซึ่งเป็นแบบถังหมุนขึ้นมา เครื่องเคลือบต้นแบบนี้ รศ.ดร.บุญมี บอกเริ่มผลิตเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เป็นเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้สารเคลือบติดกับเมล็ดพันธุ์อย่างสม่ำเสม อ โดยมีการควบคุมระยะเวลาการฉีดพ่น ทำให้อุณหภูมิที่ใช้เคลือบเมล็ดพันธุ์แต่ละชนิดนั้นเหมาะสม และเพราะเป็นระบบปิดมีระบบขจัดสาร จึงไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ “การทำงานของเครื่อง ให้เริ่มจากนำเมล็ดพันธุ์ที่ต้องการเคลือบเข้าไปในถังหมุน เครื่องจะพ่นสารเป็นละอองฝอยเคลือบเมล็ดที่โรยตัวจากถังหมุน ผ่านหัวฉีดซึ่งออกแบบเฉพาะให้ติดเมล็ดอย่างแนบแน่น ขณะเดียวกันก็จะมีลมที่ควบคุมอุณหภูมิเป่าไปที่เมล็ดพันธุ์ เพื่อทำให้สารเคลือบแห้งติดเมล็ดอย่างรวดเร็ว ซึ่งกรรมวิธีทั้งหมดนี้ควบคุมด้วยระบบอิเลคโทรนิคสวิทซ์ จึงไม่เป็นการเพิ่มความชื้นแก่เมล็ดพันธุ์” รศ.ดร.บุญมี เล่าถึงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง พร้อมระบุว่า ความเร็วการหมุนของถังเคลือบเวลาฉีดพ่นจะแม่นยำ สารเคลือบจึงติดกับเมล็ดอย่างสม่ำเสมอถูกต้องตามอัตราที่กำหนด ซึ่งเครื่องนี้สามารถบรรจุเมล็ดพันธุ์ได้ครั้งละ 5-7 กก.ประสิทธิภาพในการเคลือบที่ทั่วถึง 80-90 % หลังผ่านการเคลือบเมล็ดสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องนำไปลดความชื้น รศ.ดร.บุญมี กล่าวอีกว่า ประโยชน์ของเครื่องเคลือบเมล็ดพันธุ์แบบถังหมุนนี้ มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าเครื่องนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งประสิทธิภาพการกักเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ได้นานกว่า เมล็ดงอกสมบูรณ์ดีหลังถูกนำไปเพาะปลูก ให้ผลผลิตดีเมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ที่สำคัญเครื่องที่ผลิตขึ้นเองนั้นมีต้นทุนประมาณ 1.5 แสนบาท ส่วนเครื่องที่นำเข้ามีราคาสูงถึง 1.4 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เครื่องเคลือบนี้ รศ.ดร.บุญมี บอกควรใช้กับเมล็ดพันธุ์พืชที่มีราคาเท่านั้น อาทิ เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวาน เมล็ดพันธุ์แตงชนิดต่างๆ เมล็ดพันธุ์งา เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวนั้นใช้ได้เหมือนกันแต่ต้องใช้เวลานานถึงจะได้ปริมาณมาก ซึ่งอนาคตจะพัฒนาให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม สามารถบรรจุเมล็ดพันธุ์ได้ครั้งละหลายๆกิโลกรัม นับเป็นอีกหนึ่งผลงานของนักวิจัยไทย ที่เป็นประโยชน์และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกร และกลุ่มเป้าหมายที่ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชจำหน่ายอยู่ขณะนี้ สมโภชน์ สมบัติ

แหล่งที่มา/ผู้ส่ง ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สป. ศธ.